คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รุกล้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2112/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำและการบังคับคดีตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนครัวที่รุกล้ำออกจากที่ดินของโจทก์ถ้า จำเลยไม่รื้อถอน ให้โจทก์หรือคนที่มอบหมายจากโจทก์รื้อถอนโดยค่าใช้จ่ายเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาตามที่โจทก์ขอในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มี พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.พ.มาตรา 12 ให้เพิ่มเติมบทมาตรา 296 ทวิ โจทก์จึงชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการรื้อถอนครัวของจำเลยที่รุกล้ำออกไปได้จะให้โจทก์รื้อเองโดยให้ศาลบังคับให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำทางเดินเท้าและผลกระทบต่อเจ้าของที่ดิน การสร้างสะพานต้องพิจารณาความเดือดร้อนที่สมเหตุสมผล
การที่จำเลยที่1สร้างสะพานลอยลงบนทางเดินเท้าหน้าที่ดินของโจทก์ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่โดยที่ดินแปลงนี้โจทก์ซื้อมาเป็นเวลาเกือบ20ปีและไม่ได้ปรับปรุงพัฒนาใช้ประโยชน์แต่อย่างใดคงปล่อยให้มีสภาพเป็นที่ว่างเปล่ามีต้นไม้และวัชชพืชขึ้นปกคลุมโครงสร้างอาคารตึกแถวที่ทิ้งร้างไว้ตั้งแต่ตอนโจทก์ซื้อมาทั้งๆที่บริเวณดังกล่าวเป็นย่านธุรกิจการค้าแวดล้อมไปด้วยอาคารพาณิชย์นอกจากนี้จำเลยที่1ยังได้กำหนดโครงสร้างของบันไดสะพานในหน้าที่ดินของโจทก์เป็นบันไดพับ เพื่อมิให้ติดขัดในการเข้าออกที่ดินของโจทก์อันเป็นการแสดงว่าจำเลยที่1ได้พยายามให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่โจทก์น้อยที่สุดจึงถือว่าโจทก์มิได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษอันที่จะห้ามมิให้จำเลยที่1กับพวกงดเว้นการก่อสร้างสะพานดังกล่าวได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำทางเดินเท้าและการสร้างสะพานลอยที่ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษ เจ้าของที่ดินไม่มีสิทธิเรียกร้อง
การที่จำเลยที่1สร้างสะพานลอยลงบนทางเดินเท้าหน้าที่ดินของโจทก์ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่โดยที่ดินแปลงนี้โจทก์ซื้อมาเป็นเวลาเกือบ20ปีและไม่ได้ปรับปรุงพัฒนาใช้ประโยชน์แต่อย่างใดคงปล่อยให้มีสภาพเป็นที่ว่างเปล่ามีต้นไม้และวัชชพืชขึ้นปกคลุมโครงสร้างอาคารตึกแถวที่ทิ้งร้างไว้ตั้งแต่ตอนโจทก์ซื้อมาทั้งๆที่บริเวณดังกล่าวเป็นย่านธุรกิจการค้าแวดล้อมไปด้วยอาคารพาณิชย์นอกจากนี้จำเลยที่1ยังได้กำหนดโครงสร้างของบันไดสะพานในหน้าที่ดินของโจทก์เป็นบันไดพับเพื่อมิให้ติดขัดในการเข้าออกที่ดินของโจทก์อันเป็นการแสดงว่าจำเลยที่1ได้พยายามให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่โจทก์น้อยที่สุดจึงถือว่าโจทก์มิได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษอันที่จะห้ามมิให้จำเลยที่1กับพวกงดเว้นการก่อสร้างสะพานดังกล่าวได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้จะรื้อถอนบางส่วน แต่หากยังมีส่วนที่รุกล้ำอยู่ ศาลยังคงมีคำพิพากษาให้ขับไล่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดต่อประมวลกฎหมายที่ดินลงโทษจำเลยกับให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ต่อมาจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล เมื่อได้ความตามทางไต่สวนว่าบ้านของจำเลยบางส่วนซึ่งจำเลยอ้างว่าอยู่นอกที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อยู่ในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ดังนี้ จำเลยก็ต้องออกไปจากที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031-2037/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทำให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นสิ้นสุดลง และไม่มีสิทธิฟ้องรุกล้ำ
ที่พิพาทคือที่ดินของโจทก์ที่เหลืออยู่ระหว่างถนนสาธารณะกับที่ดินซึ่งโจทก์แบ่งแยกขายให้จำเลย เมื่อโจทก์ยอมให้กันเป็นเขตถนนสาธารณะซึ่งเป็นการแสดงเจตนาอุทิศให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันเป็นนิติกรรมไม่มีแบบ ที่พิพาทย่อมมิใช่ของโจทก์อีกต่อไป การที่เสาหินหลักเขตถนนปักเข้ามาอยู่ใต้ถุนบ้านจำเลย จำเลยจึงมิได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2565/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินหลังแบ่งแยกกรรมสิทธิ์และสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 และมาตรา 1312เป็นบทบัญญัติเรื่องที่ผู้สร้างมิได้รู้ว่า ที่ดินที่สร้างโรงเรือนหรือสร้างรุกล้ำนั้นเป็นที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต จะนำมาใช้ในกรณีจำเลยสร้างโรงเรือนในที่ดินขณะยังเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างโจทก์จำเลยและบุคคลอื่นอยู่ หลังจากรังวัดแบ่งแยกที่ดินแล้วปรากฏว่า เรือนจำเลยปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ไม่ได้ จำเลยต้องรื้อเรือนออกไป และไม่มีสิทธิฟ้องร้องว่ากล่าวเกี่ยวกับค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะการสร้างโรงเรือนของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินที่รุกล้ำ: การต่อเติมอาคารโดยอาศัยสิทธิเดิมไม่ใช่การรุกล้ำโดยสุจริต
ตึกแถวของโจทก์และของจำเลยอยู่ติดกัน ที่ดินและตึกแถวทั้งสองห้องนี้เดิมเป็นของเจ้าของคนเดียวกันโจทก์จำเลยต่างก็เช่าตึกแถวจากเจ้าของเดิม ระหว่างที่เช่าอยู่นั้นจำเลยได้ต่อเติมห้องน้ำห้องครัวที่ด้านหลังของตึกแถวโดยเจ้าของที่ดินคนเดิมรู้เห็นยินยอม ต่อมาโจทก์จำเลยต่างก็ซื้อที่ดินและตึกแถวมาเป็นกรรมสิทธิ์ ปรากฏว่าที่ดินส่วนที่จำเลยต่อเติมเป็นห้องน้ำห้องครัวนั้นอยู่ในโฉนดที่โจทก์ซื้อจำเลยเพิ่งครอบครองที่ดินดังกล่าวของโจทก์มาเพียง2 ปี จึงหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ โจทก์จึงมีสิทธิบังคับให้จำเลยรื้อถอนห้องน้ำห้องครัวออกจากที่ดินโจทก์ได้เพราะการก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวนั้นก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมไม่ใช่เข้าไปก่อสร้างโดยไม่รู้ว่าที่ดินนั้นเป็นของเจ้าของเดิมอันจะถือได้ว่าเป็นการสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตตามมาตรา 1312 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3695/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนสิทธิและหน้าที่จากสัญญาเช่าเดิมสู่ทายาท และอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำ
บิดาโจทก์เช่าที่ดินวัดมาปลูกบ้าน แม้ต่อมาบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมอันมีผลให้สัญญาเช่าที่ดินระงับลงก็ตาม แต่โจทก์เป็นทายาทผู้รับมรดกของบิดาโจทก์ โจทก์จึงต้องรับโอนมาซึ่งสิทธิหน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ ที่บิดาโจทก์มีต่อวัดผู้ให้เช่าเมื่อโจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจากวัดแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินที่เช่าทั้งแปลงติดต่อมาตั้งแต่บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ต่อเติมอาคารรุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่โจทก์เช่าได้โดยวัดผู้ให้เช่าไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้โจทก์อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3429/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีรื้อถอนอาคารรุกล้ำทางน้ำชลประทาน แม้มีข้อพิพาทเรื่องสิทธิในที่ดิน
ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนออกไปจากเขตชลประทาน คำพิพากษาดังกล่าวเป็นยุติว่าที่พิพาทเป็นทางน้ำชลประทาน จำเลยถูกผูกพันมิให้โต้แย้งว่าที่พิพาทเป็นของผู้อื่น จำเลยไม่สามารถแสดงข้อแก้ตัวที่จะไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงมีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำทางสาธารณะและทางส่วนบุคคลทำให้เจ้าของที่ดินเสียหาย มีสิทธิฟ้องให้รื้อถอนได้
แม้ที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านอยู่เป็นที่ดินคันคลอง อยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน มิใช่เป็นที่ดินของโจทก์ทั้งสอง แต่โดยเหตุที่ที่ดินส่วนนั้นเป็นทางสาธารณะ และเป็นที่ดินคันคลองสาธารณะ ซึ่งประชาชนรวมทั้งโจทก์ทั้งสองมีสิทธิที่จะใช้สอยร่วมกัน และบ้านที่จำเลยสร้างขึ้นบังหน้าที่ดินของโจทก์ที่ 1 ทางด้านคันคลอง และปิดกั้นทางส่วนบุคคลซึ่งโจทก์ทั้งสองใช้ในการไปมาจากที่ดินโจทก์ทั้งสองสู่ทางสาธารณะดังกล่าว เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองไม่สามารถเข้าออกไปมายังคันคลองอันเป็นทางสาธารณะ และไม่มีความสะดวกในการที่จะใช้น้ำในคลองสาธารณะ ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหาย เพราะการกระทำของจำเลยเป็นพิเศษ โจทก์ทั้งสองจึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยปลูกสร้างขึ้นทำความเสียหายให้โจทก์ทั้งสองได้
of 11