พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้ต้องมีพยานรับรองการพิมพ์ หากไม่มี ถือเป็นหลักฐานการกู้ยืมที่ไม่สมบูรณ์
พยานสองคนไม่ได้รู้เห็นในการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้กู้ลงในสัญญากู้ แต่ก็ได้เซ็นชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้กู้ไว้ในสัญญากู้นั้น ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้จึงเป็นลายพิมพ์นิ้วมือที่ไม่มีพยานรับรอง หนังสือสัญญากู้ดังกล่าวไม่เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมซึ่งได้ลงลายมือผู้ยืมเป็นสำคัญ โจทก์จะใช้ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ประกอบด้วยมาตรา 9
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การท้าทายพยานผู้เชี่ยวชาญลายมือและลายพิมพ์นิ้วมือ: ผลไม่สมบูรณ์ ไม่ตัดสิทธิการพิจารณาคดี
คู่ความท้ากัน ให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายมือและลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้และสัญญาค้ำประกัน เป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจแล้วรายงานต่อศาลว่า ลายเซ็นในสัญญากู้มีลักษณะเชื่อได้ว่า ไม่ใช่ลายเซ็นของจำเลยและลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญาค้ำประกันเลอะเลือนไม่ชัดเจนพอที่จะตรวจพิสูจน์ได้ ดังนี้ ถือว่าผลของการตรวจพิสูจน์ไม่ครบถ้วนตามคำท้าจะพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีไม่ได้ต้องพิจารณาคดีต่อไป เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ามีการกู้และค้ำประกัน ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การตรวจลายมือ และลายพิมพ์นิ้วมือไม่ได้ผลตามคำท้า ต้องพิจารณาสืบพยานต่อไป และพิพากษาให้โจทก์ชนะจำเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียวว่า จำเลยต้องชนะคดีตามคำท้า แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีตามคำพยานโจทก์ฎีกา จำเลยแก้ฎีกาอ้างข้อโต้แย้งว่า คดีต้องให้จำเลยชนะคดีตามคำท้า ดังนี้ เรื่องที่คู่ความท้ากันเป็นประเด็นให้ศาลฎีกาวินิจฉัยได้
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การตรวจลายมือ และลายพิมพ์นิ้วมือไม่ได้ผลตามคำท้า ต้องพิจารณาสืบพยานต่อไป และพิพากษาให้โจทก์ชนะจำเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียวว่า จำเลยต้องชนะคดีตามคำท้า แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีตามคำพยานโจทก์ฎีกา จำเลยแก้ฎีกาอ้างข้อโต้แย้งว่า คดีต้องให้จำเลยชนะคดีตามคำท้า ดังนี้ เรื่องที่คู่ความท้ากันเป็นประเด็นให้ศาลฎีกาวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลายพิมพ์นิ้วมือทำพินัยกรรม: พยานรับรองการพิมพ์นิ้วมือและการมีสติของผู้ทำพินัยกรรม
พินัยกรรมแบบธรรมดา มีพยาน 4 คนลงลายมือชื่อไว้ท้ายลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก แต่ปรากฏว่าก่อนถึงลายเซ็นของพยานมีข้อความระบุไว้ด้วยว่าผู้สั่งพินัยกรรมได้ลงชื่อหรือพิมพ์นิ้วมือต่อหน้าข้าพเจ้าด้วย ดังนี้ ไม่จำเป็นจะต้องมีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือโดยตรงต่างหากอีก
เรื่องสติของผู้ทำพินัยกรรมดีหรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณา ในเมื่อมีการโต้เถียงกัน ตามกฎหมายไม่ได้บังคับว่าพินัยกรรมจะต้องมีข้อความว่าพยานรับรองสติของผู้ทำพินัยกรรม
ตามปกติการพิมพ์ลายนิ้วมือก็ควรจะมีลายนิ้วมือปรากฏอยู่ด้วย แต่ลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดกผู้ทำพินัยกรรมแม้จะไม่มีลายนิ้วมือเพราะเป็นโรคเรื้อน แต่เมื่อมีพยานลงลายมือชื่อรับรองถูกต้องและข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าเจ้ามรดกได้พิมพ์ลายนิ้วมือไว้จริงแล้ว ลายพิมพ์นิ้วมือนั้นย่อมใช้ได้
เรื่องสติของผู้ทำพินัยกรรมดีหรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณา ในเมื่อมีการโต้เถียงกัน ตามกฎหมายไม่ได้บังคับว่าพินัยกรรมจะต้องมีข้อความว่าพยานรับรองสติของผู้ทำพินัยกรรม
ตามปกติการพิมพ์ลายนิ้วมือก็ควรจะมีลายนิ้วมือปรากฏอยู่ด้วย แต่ลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดกผู้ทำพินัยกรรมแม้จะไม่มีลายนิ้วมือเพราะเป็นโรคเรื้อน แต่เมื่อมีพยานลงลายมือชื่อรับรองถูกต้องและข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าเจ้ามรดกได้พิมพ์ลายนิ้วมือไว้จริงแล้ว ลายพิมพ์นิ้วมือนั้นย่อมใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรม หากผลตรงตามที่ตกลงกัน ถือเป็นข้อแพ้ชนะ ศาลต้องบังคับตาม
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ตาย ซึ่งได้พิมพ์ไว้ในโฉนดจริงหรือไม่ แล้วยอมให้ศาลชี้ขาดตามนั้นเป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า "ไม่ใช่พิมพ์ลายนิ้วมือของพิมพ์ลายนิ้วมือนิ้วเดียวกัน" ดังนี้ ถือว่าตรงตามคำท้าซึ่งคู่ความได้ตกลงกันไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมเป็นข้อตกลงแพ้ชนะตามคำท้า
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรม ว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ตาย ซึ่งได้พิมพ์ไว้ในโฉนดจริงหรือไม่ แล้วยอมให้ศาลชี้ขาดตามนั้นเป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า " ไม่ใช่พิมพ์ลายนิ้วมือของพิมพ์ลายนิ้วมือนิ้วเดียวกัน" ดังนี้ ถือว่าตรงตามคำท้าซึ่งคู่ความได้ตกลงกันไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันโมฆะเนื่องจากขาดพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ค้ำประกัน
สำเนาสัญญาค้ำประกันที่โจทก์ส่งพร้อมฟ้อง มีลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน ผู้ให้กู้ และลายมือชื่อ ผู้เขียนสัญญาและพยาน ตามต้นสัญญาค้ำประกันที่โจทก์อ้างและส่งศาลมีลายพิมพ์นิ้วมือและเขียนบอกชื่อผู้ค้ำประกันกับมีพยานลงชื่อไว้ 3 คนซึ่งโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเหล่านั้นเป็นพยาน แต่กลับนำพยานอื่นมาสืบว่าผู้ค้ำประกันลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้ โดยมีพยาน 3 คนลงชื่อไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้เขียนสัญญาแต่อย่างเดียว หาได้มีฐานะเป็นพยานด้วยไม่ ส่วนลายมือชื่อผู้ให้กู้ไม่มีดังนี้ ถือว่าโจทก์นำสืบขัดแย้งกับฟ้องของตนเพราะสำเนาสัญญาค้ำประกันเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง และต้องฟังว่า สัญญาค้ำประกันอันเป็นหลักฐานฟ้องผู้ค้ำประกันไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติมาตรา 9 ป.พ.พ. มีผลเท่ากับผู้ค้ำประกันมิได้ลงลายมือชื่อไว้ ไม่เป็นหลักฐานที่โจทก์จะนำมาฟ้องได้ตาม มาตรา 680 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันที่ไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ค้ำประกัน ย่อมไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
สำเนาสัญญาค้ำประกันที่โจทก์ส่งพร้อมฟ้อง มีลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน ผู้ให้กู้ และลายมือชื่อ ผู้เขียนสัญญาและพยานตามต้นสัญญาค้ำประกันที่โจทก์อ้างและส่งศาลมีลายพิมพ์นิ้วมือและเขียนบอกชื่อผู้ค้ำประกันกับมีพยานลงชื่อไว้ 3 คนซึ่งโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเหล่านั้นเป็นพยานแต่กลับนำพยานอื่นมาสืบว่าผู้ค้ำประกันลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้โดยมีพยาน 3 คนลงชื่อไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้เขียนสัญญาแต่อย่างเดียว หาได้มีฐานะเป็นพยานด้วยไม่ส่วนลายมือชื่อผู้ให้กู้ไม่มีดังนี้ ถือว่าโจทก์นำสืบขัดแย้งกับฟ้องของตนเพราะสำเนาสัญญาค้ำประกันเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องและต้องฟังว่าสัญญาค้ำประกันอันเป็นหลักฐานฟ้องผู้ค้ำประกันไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติมาตรา 9 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีผลเท่ากับผู้ค้ำประกันมิได้ลงลายมือชื่อไว้ไม่เป็นหลักฐานที่โจทก์จะนำมาฟ้องได้ตาม มาตรา 680 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ & ข้อห้ามสืบพยานเพิ่มเติมเอกสาร
ผู้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจ และมีบุคคล 2 คนลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจนั้น แม้มิได้มีข้อความไว้ด้วยว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจ ก็นับว่าเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นด้วย
(อ้างฏีกาที่ 521/2496) ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่า ได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
(อ้างฏีกาที่ 521/2496) ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่า ได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ & ข้อตกลงนอกสัญญาเช่า: ข้อห้ามการสืบพยานเพิ่มเติมเอกสาร
ผู้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจและมีบุคคล 2 คนลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจนั้นแม้มิได้มีข้อความไว้ด้วยว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจก็นับว่าเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นด้วย (อ้างฎีกาที่ 521/2496)
ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะขอนำสืบพยานบุคคลว่าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วก็ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่โดยในหนังสือสัญญาเช่าไม่มีข้อความเช่นว่านั้นเลย หาได้ไม่เพราะเป็นการขอสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมในคดีเพิกถอนพินัยกรรม: การแสดงข้อหาหลายนัยขัดแย้งกัน
การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนพินัยกรรมโดยกล่าวในฟ้องอ้างว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม และว่าถึงแม้จำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าลายพิมพ์นิ้วมือดังกล่าวเป็นลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม ก็เป็นลายพิมพ์นิ้วมือที่พิมพ์ลงในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมถูกกลฉ้อฉล, ข่มขู่, ในขณะเสพสุราจนเมามายไม่สามารถครองสติได้ หรือขณะที่จริตวิกล กล่าวคือสติวิปลาศ ไม่รู้สึกผิดชอบ ความจำฟั่นเฟือนและหลงไหล หรือได้ถูกพิมพ์ลงขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมได้ถึงแก่กรรมแล้ว เช่นนี้ เป็นฟ้องที่แสดงข้อหาเป็นหลายนัย ขัดแย้งกันในตัว เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลต้องยกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 51/2487 และ 493/2495)