พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดได้หลายฐาน: สิทธิฟ้องระงับเมื่อศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว
บุตรผู้ตายเป็นผู้เสียหายฟ้องจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาไว้ก่อนแล้วอัยการฟ้องจำเลยฐานฆ่าคนโดยประมาทในมูลกรณีเดียวกัน ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปตามฟ้องอัยการ คดีถึงที่สุดแล้ว สิทธิของผู้เสียหายที่ได้ฟ้องไว้แล้วย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาท: ศาลตัดสินตามพยานหลักฐานการครอบครองจริง ไม่ยึดเพียงการเสียภาษี
การกระทำอย่างไรเป็นการครอบครองหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ตามประมวลรัษฎากรเป็นเรื่องบัญญัติว่าบุคคลเช่นไรมีหน้าที่จะต้องเป็นผู้เสียภาษี หาใช่ว่าบุคคลเช่นนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินไม่.
ตามประมวลรัษฎากรเป็นเรื่องบัญญัติว่าบุคคลเช่นไรมีหน้าที่จะต้องเป็นผู้เสียภาษี หาใช่ว่าบุคคลเช่นนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินที่ถูกยึด: ผู้ขัดทรัพย์ไม่มีสิทธิรับคืนหลังศาลตัดสินว่าไม่ใช่ของตน
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของตน คดีถึงที่สุดศาลได้ชี้ขาดว่าทรัพย์ที่ยึดมิใช่เป็นของผู้ร้อง แต่เป็นของลูกหนี้ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิใด ๆ ในทรัพย์ที่ยึดนั้น ฉะนั้น ผู้ร้องจะร้องขอชำระเงินให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เพื่อขอให้ศาลส่งคืนทรัพย์ที่ยึดให้แก่ผู้ร้องขัดทรัพย์อีกนั้น ย่อมมิใช่เป็นการเสนอคดีต่อศาลตามความหมายของ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 55 ศาลย่อมไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงคู่ความ: ศาลใช้แผนที่หลังโฉนดตัดสินข้อพิพาทที่ดินได้ หากคู่ความยินยอม
คู่ความตกลงกันให้ศาลปูแผนที่หลังโฉนดเปรียบเทียบดูว่าที่พิพาทและกอไผ่ควรจะอยู่ในเขตของฝ่ายใด โดยต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป ถือเอาประเด็นข้อนี้เป็นข้อแพ้ชนะ ดังนี้ เป็นสิ่งที่ศาลสามารถจะพิจารณาความจริงหรือวินิจฉัยคดีไปตามหลักฐานที่คู่ความประสงค์เจาะจงอ้างอิงและตกลงกันไว้ ได้ เพราะไม่ใช่สิ่งพ้นวิสัยของบุคคลธรรมดาจะกระทำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในที่ดิน: การกรีดน้ำยางหลังศาลตัดสินคดีถึงที่สุด ถือเป็นการรุกล้ำทรัพย์สิน
โจทก์จำเลยต่างเถียงกรรมสิทธิในสวนยางกัน จนคดีถึงศาล ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามไม่ให้โจทก์(ซึ่งเป็นจำเลยในคดีเดิม) เกี่ยวข้องกับสวนพิพาท จำเลยจึงเข้ากรีดยาง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้โจทก์ชนะ ศาลฎีกาพิพากษายืนทีสวนยางนี้เป็นของโจทก์เพราะศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อปรากฎว่าจำเลยได้กรีดยางในสวนยางนี้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้พิพากษากลับ ดังนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ ในการที่จำเลยกรีดน้ำยางในสวนยางของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาทหลังศาลตัดสินให้กรรมสิทธิ์ตกแก่ผู้อื่น ไม่ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยครอบครองทำนาพิพาทอยู่ก่อน ภายหลังเป็นความกับโจทก์ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่นาพิพาทแต่โจทก์ยังมิได้จัดการให้ได้มาซึ่งการครอบครองแต่ประการใด จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทต่อไปตามเคย ดังนี้การกระทำของจำเลยยังไม่เข้าหลักอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 327
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำหลังจากศาลตัดสินให้คืนทรัพย์สินแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
การฟ้องซ้ำเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง เนื่องด้วยจำเลยกระทำละเมิดสมคบกันเอาที่ของโจทก์ไปขาย ศาลพิพากษาให้โจทก์ชะนะคดีตามคำขอแล้ว ผลจึงเป็นว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในการทำละเมิดของจำเลยที่ได้ทำมาแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องเรื่องละเมิดเดิมนี้โดยเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ยังไม่ได้เรียกร้องไว้ จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 957/2492)
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง เนื่องด้วยจำเลยกระทำละเมิดสมคบกันเอาที่ของโจทก์ไปขาย ศาลพิพากษาให้โจทก์ชะนะคดีตามคำขอแล้ว ผลจึงเป็นว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในการทำละเมิดของจำเลยที่ได้ทำมาแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องเรื่องละเมิดเดิมนี้โดยเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ยังไม่ได้เรียกร้องไว้ จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 957/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอในคดีแสดงกรรมสิทธิ์: ศาลต้องตัดสินตามที่โจทก์ขอเท่านั้น แม้จะมีส่วนเกินที่ไม่ได้ระบุในคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินหมายเลข 2 ตามแผนที่ท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ ทางพิจารณาได้ความว่า ที่ที่โจทก์ขอตามฟ้องเป็นของโจทก์ และปรากฏว่าโจทก์ปลูกห้องแถวรุกล้ำเข้าไปในที่ของจำเลย 2 ศอก ศาลก็ควรพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามที่โจทก์ขอมาเท่านั้น ที่ 2 ศอก ที่เกินมานี้ไม่มีประเด็นขึ้นมาในคดี ศาลหาควรวินิจฉัยถึงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีขับไล่: ศาลชี้ขาดประเด็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว แม้ไม่ตัดสินว่าที่ดินเป็นของใคร
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยครั้งหนึ่ง ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์สืบไม่ได้ความแน่นอนว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน โจทก์จึงกลับมาฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินรายเดียวกันอีก ดังนี้เป็นการฟ้องซ้ำ เพราะเมื่อโจทก์สืบไม่สมตามคำฟ้อง ศาลก็พิพากษายกฟ้องได้ โดยไม่จำเป็นต้องชี้ขาดว่า ที่ดินนั้นเป็นของจำเลยหรือของใคร จึงถือได้ว่า ในคดีก่อนศาลได้ชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: ศาลตัดสินตามข้อเท็จจริงที่จำเลยต่อสู้ โดยไม่ติดข้อจำกัดระยะเวลาครอบครอง
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าโจทก์มีสิทธิ์ครอบครองในที่มือเปล่าและห้ามมีให้จำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยมิได้ต่อสู้ในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินศาลจะตัดสินในเรื่องกรรมสิทธิ์ไม่ได้ เพราะประสิทธิ์ไม่ได้ เพราะนอกประเด็น
เมื่อได้ความว่าโจทก์ได้รับโอนสิทธิ์ครอบครองจากฝ่ายจำเลยแล้ว ศาลก็พิพากษาแสดงว่าโจทก์มีสิทธิ์ครอบครอง และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องในการที่โจทก์ใช้สิทธิ์ครอบครองได้
เมื่อได้ความว่าโจทก์ได้รับโอนสิทธิ์ครอบครองจากฝ่ายจำเลยแล้ว ศาลก็พิพากษาแสดงว่าโจทก์มีสิทธิ์ครอบครอง และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องในการที่โจทก์ใช้สิทธิ์ครอบครองได้