คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลมีอำนาจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 79 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำให้การที่พิมพ์ผิดพลาด ศาลมีอำนาจแก้ได้ แม้หลังชี้สองสถาน การงดสืบพยานโดยไม่แก้ไขคำให้การไม่ถูกต้อง
ตามคำให้การของจำเลยที่อ้างถึงจำเลยที่ 1 และที่ 2 สับกันเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะพิมพ์คลาดเคลื่อนไปโดยไม่มีเจตนาจะให้การเช่นนั้นเพราะถ้าได้มีการแก้ข้อผิดพลาดจากจำเลยที่ 1 เป็นจำเลยที่ 2 และจากจำเลยที่ 2 เป็นจำเลยที่ 1 แล้ว ข้อต่อสู้ในคำให้การของจำเลยทั้งสองก็จะเป็นข้อเถียงตรงตามประเด็นในคำฟ้องทุกประการ ซึ่งการแก้คำที่พิมพ์ผิดพลาดเช่นนี้ ศาลมีอำนาจให้แก้ได้เสมอ แม้จะขอแก้ภายหลังชี้สองสถานก็แก้ได้ การที่ศาลชั้นต้นถือเอาคำให้การที่พิมพ์ผิดพลาดมาเป็นข้อวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 รับตามฟ้อง จำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การต่อสู้ไม่มีประเด็นอื่น แล้วงดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงไม่ถูกต้อง ฉะนั้น เหตุที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่จึงชอบแล้วหาได้เป็นการพิพากษาเกินคำขอไม่ (อ้างฎีกาที่ 316-318/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารล่าช้า: ศาลมีอำนาจรับฟังได้หากสมเหตุสมผล เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แม้ชำระค่าเอกสารไม่ตรงเวลา
เอกสารที่จำเลยอ้างเป็นพยานหลักฐานและส่งศาลไว้แล้ว แม้จำเลยผู้อ้างจะไม่ได้ชำระค่าอ้างเอกสารนั้นภายในเวลาที่ศาลกำหนดให้นำมาชำระ และมาแถลงขอชำระก่อนวันที่ศาลมีคำพิพากษา 1 วัน อ้างเหตุเพราะหลงลืม ดังนี้ เมื่อเอกสารที่อ้างส่งนั้นเป็นพยานหลักฐานที่มีความสำคัญแก่คดีของจำเลยผู้อ้าง และการที่ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารตามกำหนด น่าเชื่อว่าเป็นเพราะความหลงลืม กรณีมีเหตุที่ศาลสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ต้องห้ามในข้อเท็จจริง คดีเช่าทรัพย์สิน ศาลมีอำนาจไม่วินิจฉัยได้หากจำเลยไม่ขอรับรอง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านเช่าซึ่งมีค่าเช่าเดือนละ 95 บาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ หรือมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า คดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงเว้นแต่จะมีการรับรองหรืออนุญาตให้อุทธรณ์ได้
จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งไม่อาจทำให้จำเลยชนะคดีได้ ย่อมไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
ผู้อุทธรณ์มีหน้าที่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ซึ่งต้องห้าม และศาลอุทธรณ์พิพากษายก ก็เป็นความบกพร่องของผู้อุทธรณ์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ตามคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีล้มละลาย ศาลมีอำนาจตรวจสอบมูลหนี้เพื่อพิจารณาการรับชำระหนี้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลมีอำนาจจะฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้ตามคำพิพากษานั้นมีมูลหนี้อันจะพึงอนุญาตให้รับชำระหนี้หรือไม่ได้ คำพิพากษาในคดีของเจ้าหนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ผูกพัน เฉพาะคู่ความในกระบวนพิจารณาคดีนั้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ที่ไม่มีประโยชน์ ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้ และการบังคับคดีสิ้นสุดแล้วไม่ต้องวินิจฉัย
อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายข้อใดที่ไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย หรือไม่เป็นข้อแพ้ชนะ หรือไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของผู้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้อนั้น และถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่า อุทธรณ์ทุกข้อไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยต่อไปแล้ว ก็มีอำนาจที่จะไม่วินิจฉัยอุทธรณ์นั้นทั้งหมดได้
จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจสั่งบังคับคดีในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเกินคำขอของโจทก์ เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและคำบังคับของศาลชั้นต้นเสร็จสิ้นไปแล้ว และศาลชั้นต้นได้งดหมายจับนั้นแล้ว ทั้งไม่มีกรณีที่จะต้องบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำบังคับของศาลต่อไปอีก ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่มีประโยชน์แก่คดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกานั้นโดยไม่ต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มติเจ้าหนี้ขัดขวางการล้มละลาย: ศาลมีอำนาจสั่งทำลายมติและพิพากษาให้ล้มละลายได้
ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดแล้วในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกปรากฎว่าลูกหนี้มิได้ขอประนอมหนี้ ก็เป็นอันว่าจะต้องถูกพิพากาาให้ล้มละลายต่อไป เจ้าหนี้จะลงมติมีให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้ การที่เจ้าหนี้ฝ่ายข้างมากลงมติเช่นนั้น ย่อมเป็นการนอกเหนือไปจากบทบัญญัติในมาตรา 31 จึงเป้นการฝ่าฝืนและขัดต่อกฎหมายลักษณะล้มละลาย ศาลจึงสั่งให้ทำลายมติดังกล่าวได้เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอ และเมื่อสั่งทำลายมติแล้ว ก็มีผลเท่ากับเจ้าหนี้ไม่ลงมติประการใด ศาลย่อมพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายฐานโดยผู้กระทำผิดคนเดียวกัน: ศาลมีอำนาจฟ้องรวมกันได้ แม้การกระทำขาดตอน
ถ้าปรากฎความผิดหลายฐานได้กระทำลงโดยผู้กระทำผิดคนเดียว ก็ย่อมฟ้องคดีทุกเรื่องต่อศาลซึ่งมีอำนาจชำระใน ฐานความผิดซึ่งมีอัตราโทษสูงได้ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.อาญา มาตรา 24(1) นั้นกฎหมายถือเอาบุคคลผู้กระทำผิดเป็นสำคัญ มิใช่อาศัยแต่การเกี่ยวพันเฉพาะฐานความผิดเท่านั้น
จำเลยกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ที่จังหวัดปากพนัง และถูกฟ้องยังศาลปากพนัง คดีอยู่ระหว่างพิจารณาจำเลยมากระทำผิดฐานมีอาวุธปืนและลูกระเบิดมือที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอีก ดังนี้ โจทก์จึงฟ้องคดีหลังต่อศาลจังหวัดปากพนังได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียม: ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.23 แม้โจทก์ขอทุเลาการบังคับ
โจทก์ยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่จะต้องใช้แทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องอุทธรณ์แล้ว ต่อมาอีก 4 เดือนเศษโจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาล เช่นนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ควรยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียทีเดียวเพราะตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 23 ศาลมีอำนาจขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลเห็นสมควรขยายเวลาให้ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาลแล้วด้วย กรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลในคดีที่ราคาประเมินเปลี่ยนแปลง: ศาลมีอำนาจเรียกค่าขึ้นศาลตามราคาปัจจุบันได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยขายที่ดินให้ตามสัญยาที่ได้ตกลงประมูลราคากัน แต่ปรากฏว่าราคาที่ดินในขณะฟ้องคดีไม่เท่ากับราคาที่ดินตามที่ได้ประมูลกัน โจทก์จะต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนราคาที่ดินในขณะที่ฟ้องคดี
เมื่อมีประเด็นโต้เถียงในชั้นฎีกาถึงเรื่องค่าขึ้นศาลว่าศาลล่างเรียกมาไม่ครบ ศาลฎีกาย่อมอาจสั่งให้คู่ความนำค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่ทั้งสามศาลมาชำระเสียให้ถูกต้องก่อนศาลฎีกาจะพิจารณาพิพากษาก็ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลมีอำนาจสั่งสืบพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แม้ไม่ยื่นตามกำหนด
ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานครั้งแรกหนึ่งวัน จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน อ้างเหตุที่ไม่ยื่นภายในกำหนดแห่ง ก.ม.ว่าเนื่องจากการติดต่อกับพยานให้ครบตามความจำเป็นเพื่อความยุติธรรมไม่ได้และก็เพิ่งได้ครบ ดังนี้ ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุผลอันสมควรตาม ก.ม.แล้วก็อาศัยอำนาจตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 87 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมให้สืบพยานจำเลยตามที่ระบุไว้นั้นได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยที่ไม่ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดนั้น ไม่เป็นเหตุอันสมควร จึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยาน ดังนี้ จำเลยย่อมฎีกาว่าข้ออ้างของจำเลยมีเหตุผลอันสมควรตาม ก.ม.ได้
of 8