คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศีลธรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงนายหน้าเช่าที่ดินขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม เป็นโมฆะ
รับเป็นนายหน้าจัดให้เขาได้เช่าที่ดินของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์โดยวิ่งเต้นให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือผู้ขอเช่าดังนี้ ย่อมเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนฉะนั้นความตกลงทั้งหลายในกรณีเช่นนี้จึงเป็นโมฆะกรรม ใช้บังคับไม่ได้จึงฟ้องเรียกค่านายหน้าจากผู้เช่า ไม่ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนโดยความตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรม
เหตุเลิกหุ้นส่วนตามมาตรา 1055 นั้นเป็นเหตุเลิกห้างหุ้นส่วนอันมิใช่โดยความตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน
การที่ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วน ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือขัดต่อศีลธรรมอย่างไร ผู้เป็นหุ้นส่วนจึงตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วนต่อกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาแสวงหาประโยชน์จากการเป็นความขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม
โจทก์จำเลยทำสัญญากันว่าโจทก์จ่ายเงินให้จำเลยในการที่จำเลยจะหาทนายฟ้องนายหมะ เรื่องแย่งกรรมสิทธิที่ดิน 6 แปลง ถ้าแพ้คดีนายหมะ เงินที่โจทก์จ่ายไปเป็นพับ ถ้าคดีชนะจำเลยยอมมอบกรรมสิทธิที่ดิน 6 แปลงให้แก่โจทก์ แต่โจทก์ต้องเลี้ยงดูจำเลยจนตลอดชีวิตร ดังนี้ เป็นสัญญาที่ทำขึ้นโดยตกลงให้ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการเป็นความ ซึ่งคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีส่วนในมูลคดีนั้น ๆ ย่อมเป็นการแสวงหาประโยชน์จากผู้อื่น อันเป็นความกัน นับว่าเป็นการขัดแก่ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตาม ป.ม.แพ่ง มาตรา 113
(อ้างฎีกา 510 / 2468)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบเงินเพื่อเล่นพนัน แม้ถูกยักยอกก็ไม่ถือเป็นความผิดอาญา เนื่องจากเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี
มอบเงินไว้เป็นสินพะนันระหว่างกัน แม้ผู้รับมอบยักยอกไปก็ไม่มีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: วัตถุประสงค์ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
อย่างไรเรียกว่าเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
จำเลยวานโจทก์ไปประกันตัวผู้ตัองหาในคดีอาญาจากศาล โดยทำสัญญาให้ไว้ว่า ถ้าผู้ต้องหาหลบหนีเป็นเหตุให้ศาลปรับโจทก์ จำเลยจะยอมใช้ค่าปรับแทนให้ ดังนี้ไม่เรียกว่าเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาขน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำฎีกาลดค่านา: ศาลฎีกาตัดสินว่าสัญญาไม่ขัดต่อศีลธรรม แม้ผลประโยชน์ไม่สมดุล
อย่างไรไม่เรียกว่าเป็นสัญญาที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เข้าทำสัญญากับพวกราษฎรรับจ้างทำฎีกาขอลดหย่อนค่านาโดยคิดเอาค่าจ้างฉะเพาะปีที่ได้ลดค่านาจากผู้ที่ได้ส่วนลด ส่วนลดสำหรับในปีต่อไปก็ให้เป็นของราษฎรเจ้าของนา ไม่เป็นสัญญาที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน กรณีที่กำหนดเบี้ยปรับไว้สูงเกินส่วนประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.162 วิธีสั่งให้เสียค่าธรรมเนียมมากมาย ในกรณีที่จำเลยหลายคนต่างรับผิดต่อโจทก์หมายเหตุ จะสั่งแยกไป+ชั้นนี้ไม่ได้ เพราะมีค่าธรรมเนียมหลายอย่าง (+มีลักษณะร่วมกัน)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4727/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างฝากงานเพื่อวิ่งเต้นเข้ารับราชการมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม จึงเป็นโมฆะ
การที่โจทก์ตกลงทำสัญญาโดยมอบเงินจำนวนมากถึง 400,000 บาท ให้จำเลยที่ 1 ก็เพราะเชื่อมั่นว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นข้าราชการทหารมียศสูงถึงพลโทสามารถวิ่งเต้นหรือดำเนินการช่วยเหลือให้ อ. เข้ารับราชการทหารในตำแหน่งผู้ช่วยสัสดีได้ โดยผ่านช่องทางหรือกระบวนการพิเศษที่มิได้เป็นไปอย่างเที่ยงธรรมตรงไปตรงมาเหมือนกรณีการสอบเข้ารับราชการตามปกติทั่วไป หาใช่มอบเงินให้เพื่อตอบแทนหรือเป็นค่าใช้จ่ายการพา อ. ไปสมัครสอบ พาไปติวและดำเนินการสอบดังที่โจทก์ฎีกาไม่ พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าที่โจทก์มอบเงินให้จำเลยที่ 1 เป็นจำนวนมากก็โดยมุ่งหมายให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 นำเงินดังกล่าวไปให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสอบแข่งขัน เพื่อจูงใจให้กระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยหน้าที่ เพื่อเอื้ออำนวยให้ อ. ได้เข้ารับราชการ หรือโจทก์ย่อมคาดหมายได้ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะต้องนำเงินดังกล่าวไปให้พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อกระทำการอันมิชอบ อันเป็นการสนับสนุนให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการเป็นการส่งเสริมระบบอุปถัมภ์ ในขณะเดียวกันก็ทำลายระบบคุณธรรมอย่างสิ้นเชิง ก่อให้เกิดผลเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง สัญญาฝากเข้าทำงาน ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 จึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ที่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 และแม้ตามสัญญาฝากเข้าทำงานจะระบุไว้ว่า "ผู้ให้สัญญา (จำเลยที่ 1) ยอมรับว่าเงินที่ผู้รับสัญญา (โจทก์) จ่ายให้ตามข้อ 4 ไม่ใช่เงินที่ผู้รับสัญญาให้เพื่อนำไปให้เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยหน้าที่ เพื่อให้ อ. เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยสัสดีได้" ก็หาอาจลบล้างวัตถุประสงค์ที่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่วัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อย/ศีลธรรมเป็นโมฆะ แม้ผู้รับผลประโยชน์ไม่ทราบรายละเอียด
การที่โจทก์มอบเงินจำนวน 700,000 บาท ให้ น. นำไปใช้ในลักษณะวิ่งเต้นต่อเจ้าพนักงานหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือบุตรชายของโจทก์ให้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนทหารช่างฝีมือด้วยวิธีการมิชอบ ถือเป็นการเอาเปรียบผู้สมัครสอบรายอื่น ๆ มีผลก่อให้เกิดการสอบคัดเลือกที่ไม่เป็นธรรมโปร่งใส แม้โจทก์จะไม่ทราบว่า น. เอาเงินไปติดต่อกับเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่คนใดก็ดี หรือ น. เป็นคนเชื้อเชิญจนโจทก์หลงเชื่อให้เงินไปก็ดี โจทก์ก็มีส่วนสมรู้ร่วมคิดรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของ น. ทั้งสิ้น เมื่อ น. ไม่สามารถนำบุตรชายโจทก์เข้าศึกษาได้ โจทก์เรียกเงินคืนโดย น. ทำสัญญากู้เงินตกลงชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนโจทก์ ถือว่า น. ไม่ได้กู้ยืมเงินจากโจทก์แต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่โจทก์ต้องการให้ น. คืนเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นนำบุตรของโจทก์เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนทหารช่างฝีมือนั่นเอง วัตถุประสงค์ของการทำสัญญากู้เงินดังกล่าว จึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนย่อมตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทที่สั่งจ่ายเพื่อชำระเงินตามสัญญากู้เงินดังกล่าว ส่วนประเด็นว่าวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งจำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค 5 ก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 225 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15533/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อย/ศีลธรรม: การช่วยเหลือเลื่อนตำแหน่งข้าราชการตำรวจโดยไม่ชอบ
เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปว่าการบริหารองค์กรไม่ว่าบริหารภาครัฐหรือเอกชน การคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่ง การโยกย้าย หรือการพิจารณาความดีความชอบจะต้องใช้หลักคุณธรรม และเป็นไปตามระเบียบแบบแผน เพื่อให้ได้คนดีเข้ามาทำหน้าที่นั้นเป็นประโยชน์ต่อองค์กร สังคมและประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะมีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และยังเป็นกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นหรือเสาหลักแห่งกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีตำรวจที่ประพฤติมิชอบ ย่อมก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่มีข้อความตอนใดที่โจทก์ขอให้จำเลยทำให้ผู้มีอำนาจเข้าใจในตัวโจทก์ถูกต้อง กลับให้จำเลยไปพูดกับผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่รู้จักกันเกี่ยวกับความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์อย่างเต็มที่ โดยสัญญาแบบผู้มีความรับผิดชอบให้ได้รับตำแหน่งสูงสุด และหากโจทก์ขอความช่วยเหลือ จำเลยจะต้องให้ความสะดวกและช่วยเหลือโจทก์ได้มีตำแหน่งสูงขึ้นโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย ระเบียบแบบแผนและวิธีการของทางราชการ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวจึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนย่อมตกเป็นโมฆะไม่อาจบังคับได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7646/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทโมฆะ: วัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อย/ศีลธรรมอันดี แม้ผู้รับผลประโยชน์ไม่ใช่เจ้าพนักงาน
แม้โจทก์จะมิใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจยกเลิกคำสั่งให้รื้อถอนตึก แต่การที่โจทก์ทำงานในหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร ย่อมมีเหตุให้จำเลยเชื่อว่าโจทก์จะสามารถช่วยเหลือมิให้จำเลยต้องรื้อตึกได้ การที่จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ในลักษณะเพื่อตอบแทนการที่โจทก์ช่วยเหลือมิให้จำเลยต้องรื้อถอนตึกที่ก่อสร้างต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต การออกเช็คพิพาทจึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนต้องตกเป็นโมฆะตามบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา 150 เช็คพิพาทจึงไม่มีมูลหนี้ที่จะบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาท จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์
of 8