พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันมีไม้หวงห้าม การรับรองความเป็นเจ้าของและการรู้เห็นเป็นใจ
จับไม้หวงห้ามไม่มีตราค่าภาคหลวงได้บนรถบรรทุกซึ่งจอดอยู่ใกล้บ้านเจ้าของผู้ซึ่งได้รับอนุญาตตัดไม้มาหลายปีแล้วขณะจับภรรยามาทำบันทึกรับรองว่าเป็นไม้ของเจ้าของรถ ต่อมาตนเองยังได้มาพูดรับรองต่อเจ้าพนักงานว่าเป็นไม้ของตนอีกดังนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของรถบรรทุกไม้สมคบกับจำเลยอื่นมีไม้รายนี้ไว้ในความครอบครองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนและการสมคบเพื่อกระทำความผิดทางอาญา
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิงจนมีคนวิ่งมาร้องถาม ชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดชิงทรัพย์ แม้ไม่มีหลักฐานพวกสมคบ แต่พยานโจทก์เพียงพอให้เชื่อได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับพวกอีกคนหนึ่งชิงทรัพย์ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพวกด้วยเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นเหตุที่ศาลจะต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดขวางการจับกุม: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ผูกพันจำเลย หากไม่มีเจตนาสมคบหรือรู้เห็นร่วมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปค้นสุราผิด ก.ม.และจับนายปิ่นไว้ ทันใดนั้นจำเลยนี้มีหลาวไม้รวกและหอกประมาณ 10 คนมีอาวุธ ครบมือขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจับนายปิ่น โดยพวกจำเลยคนหนึ่งร้องกล่าวว่า "พวกผู้ชายมารวมที่นี่ให้หมด วันนี้เป็นวันตายของเรา ไม่ยอมให้ตำรวจจับเหล้า" ขณะนั้นนายปิ่นได้ถือโอกาสหนีเข้าไปในหมู่พวกจำเลย
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตาม ก.ม.และจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตาม ก.ม.และจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การกระทำที่แสดงเจตนาสมคบ
เพียงแต่สันนิษฐานตามท้องสำนวนว่าผู้ตายอาจตายเพราะอาการป่วยอย่างอื่นเช่นนี้ไม่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเกินสำนวน
เมื่อเห็นผู้ตายชุลมุนกับเพื่อนของตนก็ส่งมีดให้จำเลยอีกคนหนึ่งจำเลยคนนั้นก็โดดเข้าแทงผู้ตายดังนี้ได้ชื่อว่าสมคบในการทำร้ายรายนี้
พอเพื่อนของตนถูกผู้ตายเตะจำเลยก็ลุกขึ้นก่อนผู้ตายและพูดว่าอ้ายนี้มันเก่งเอาให้ตาย และต่อไปได้ความว่าเมื่อจำเลยอีกคนหนึ่งเข้าไปแทงผู้ตายดิ้นจะให้หลุดก็ไม่ยอมปล่อยจนจำเลยอีกคนหนึ่งได้แทงผู้ตายถึง 4 ที จึงได้ปล่อย พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาสมคบในการทำร้ายรายนี้ด้วย
เมื่อเห็นผู้ตายชุลมุนกับเพื่อนของตนก็ส่งมีดให้จำเลยอีกคนหนึ่งจำเลยคนนั้นก็โดดเข้าแทงผู้ตายดังนี้ได้ชื่อว่าสมคบในการทำร้ายรายนี้
พอเพื่อนของตนถูกผู้ตายเตะจำเลยก็ลุกขึ้นก่อนผู้ตายและพูดว่าอ้ายนี้มันเก่งเอาให้ตาย และต่อไปได้ความว่าเมื่อจำเลยอีกคนหนึ่งเข้าไปแทงผู้ตายดิ้นจะให้หลุดก็ไม่ยอมปล่อยจนจำเลยอีกคนหนึ่งได้แทงผู้ตายถึง 4 ที จึงได้ปล่อย พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาสมคบในการทำร้ายรายนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย: การกระทำที่แสดงเจตนาสมคบ
เพียงแต่สันนิษฐานตามท้องสำนวนว่าผู้ตายอาจตายเพราะอาการป่วยอย่างอื่น เช่นนี้ไม่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเกินสำนวน
เมื่อเห็นผู้ตายชุลมุนกับเพื่อนของตนก็ส่งมีดให้จำเลยอีกคนหนึ่งจำเลยคนนั้นก็โดดเข้าแทงผู้ตาย ดังนี้ได้ชื่อว่าสมคบในการทำร้ายรายนี้
พอเพื่อนของตนถูกผู้ตายเตะ จำเลยก็ลุกขึ้นก่อนผู้ตายและพูดว่าอ้ายนี้มันเก่งเอาให้ตาย และต่อไปได้ความว่าเมื่อจำเลยอีกคนหนึ่งเข้าไปแทง ผู้ตายดิ้นจะให้หลุดก็ไม่ยอมปล่อยจนจำเลยอีกคนหนึ่งได้แทงผู้ตายถึง 4 ทีจึงได้ปล่อย พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาสมคบในการทำร้ายรายนี้ด้วย
เมื่อเห็นผู้ตายชุลมุนกับเพื่อนของตนก็ส่งมีดให้จำเลยอีกคนหนึ่งจำเลยคนนั้นก็โดดเข้าแทงผู้ตาย ดังนี้ได้ชื่อว่าสมคบในการทำร้ายรายนี้
พอเพื่อนของตนถูกผู้ตายเตะ จำเลยก็ลุกขึ้นก่อนผู้ตายและพูดว่าอ้ายนี้มันเก่งเอาให้ตาย และต่อไปได้ความว่าเมื่อจำเลยอีกคนหนึ่งเข้าไปแทง ผู้ตายดิ้นจะให้หลุดก็ไม่ยอมปล่อยจนจำเลยอีกคนหนึ่งได้แทงผู้ตายถึง 4 ทีจึงได้ปล่อย พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาสมคบในการทำร้ายรายนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมเนื่องจากจำเลยสมคบกันหลอกลวงเจ้าหนี้เพื่อให้เสียเปรียบ
โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ผู้เงินโจทก์ที่ 1 ไปโดยให้โจทก์ที่ 2 ค้ำประกันและจำเลยที่ 1 ได้นำทะเบียนรถยนต์มีชื่อจำเลยที่ 1 มาหลอกโจทก์ทั้ง2 ว่าเป็นของจำเลยที่ 1 แท้จริงรถคันนั้นจำเลยที่ 1 ซื้อผ่อนส่งจากบริษัท+ ยังผ่อนไม่หมดรถยังเป็นของบริษัท จำเลยที่ 2 ก็ทราบความดังนี้ดี แล้วจำเลยที่ 1 พาจำเลยที่ 2 ไปชำระเงินค้างผ่อนส่งแล้วให้บริษัทโอนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของ นอกจากรถคันนี้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินอย่างใดอีก
ตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้แสดงว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบตรงตามความในป.พ.พ.ม.237 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เลิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้
ตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้แสดงว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบตรงตามความในป.พ.พ.ม.237 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เลิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมเนื่องจากจำเลยสมคบกันเอาทรัพย์สินไปจากเจ้าหนี้ ทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ที่ 1 ไปโดยให้โจทก์ที่ 2 ค้ำประกัน และจำเลยที่ 1 ได้นำทะเบียนรถยนต์มีชื่อจำเลยที่ 1 มาหลอกโจทก์ทั้ง 2 ว่าเป็นของจำเลยที่ 1 แท้จริงรถคันนั้นจำเลยที่1 ซื้อผ่อนส่งจากบริษัทดีทแฮลม์ ยังผ่อนไม่หมดรถยังเป็นของบริษัทจำเลยที่ 2 ก็ทราบความดังนี้ดี แล้วจำเลยที่ 1 พาจำเลยที่ 2 ไปบริษัทชำระเงินที่ค้างผ่อนส่งแล้วให้บริษัทโอนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของนอกจากรถคันนี้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินอย่างใดอีก
ตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้แสดงว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบตรงตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้
ตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้แสดงว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบตรงตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และการสมคบใช้กำลังประทุษร้าย
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกมีอาวุธกลับมาและขึ้นไปบนเรือนพร้อมกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ถือปืนยาวแล้วหยิบปืนลูกซองอีกกระบอกส่งให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3บรรจุกระสุนเล็งมาทางเจ้าพนักงานสรรพสามิต เจ้าพนักงานสรรพสามิต หลบเข้าใต้ถุนและไปห่างราว 10 วาก็มีเสียงปืนลั่นมาจากทางบ้านจำเลยที่ 1 ติด ติด กัน 2 นัดเมื่อลั่นนัดแรกเจ้าพนักงานผู้นั้นหันไปเห็นจำเลยที่ 1 ประทับปืนอยู่ พฤติการณ์ดังนี้ย่อมถือว่าจำเลยที่ 3เป็นพรรคพวกของจำเลยที่ 1 และร่วมสมคบใช้อาวุธปืนยิงเจ้าพนักงานฯ ด้วย
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิดกฎหมายตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัดถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะการกระทำการตามหน้าที่ตาม มาตรา 25037,60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม มาตรา 250(2) เป็นอุกฤษฎ์โทษกฎหมายบัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง2 ใน 3 ส่วน ตาม มาตรา 60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม มาตรา 37(1)
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิดกฎหมายตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัดถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะการกระทำการตามหน้าที่ตาม มาตรา 25037,60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม มาตรา 250(2) เป็นอุกฤษฎ์โทษกฎหมายบัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง2 ใน 3 ส่วน ตาม มาตรา 60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม มาตรา 37(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาในคดีฝิ่น: การสมคบ, การครอบครอง, และความเข้าใจผิดของผู้ถูกกล่าวหา
การที่เจ้าบ้านผู้เป็นมารดายอมให้จำเลยซึ่งเป็นนายสิบตำรวจผู้บุตร ขนฝิ่นเข้ามาไว้ในบ้านนั้น มารดาอาจเข้าใจว่าจำเลยจับฝิ่นได้จากคนร้ายก็ได้ ทั้งเพิ่งนำมาเก็บไว้ไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดถูกจับขึ้นดังนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะฟังว่าเจ้าบ้านผู้เป็นมารดาสมคบกับจำเลยอื่นมีฝิ่นไว้ในครอบครองผิด ก.ม.
พลตำรวจไปกับนายสิบตำรวจซึ่งเป็นหัวหน้าแล้วไปกระทำผิดขึ้น ศาลลงโทษเบากว่านายสิบตำรวจผู้เป็นหัวหน้าได้
พลตำรวจไปกับนายสิบตำรวจซึ่งเป็นหัวหน้าแล้วไปกระทำผิดขึ้น ศาลลงโทษเบากว่านายสิบตำรวจผู้เป็นหัวหน้าได้