คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สลักหลัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังตั๋วแลกเงิน ความชอบธรรมในการฟ้อง และการระบุรายละเอียดในตั๋วแลกเงิน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า บริษัท ค. ได้ออกตั๋วแลกเงินสั่งให้จำเลยจ่ายเงินแก่ธนาคาร ฮ.ซึ่งเป็นธนาคารตัวแทนของบริษัทค.และเป็นผู้รับเงินตามตั๋วแลกเงิน ธนาคาร ฮ. สลักหลังตั๋วแลกเงินให้ธนาคาร ก. ดำเนินการแทนโดยธนาคาร ก. ได้จัดการให้จำเลยรับรองตั๋วแลกเงินแล้ว เมื่อตั๋วแลกเงินถึงกำหนดจำเลยผิดนัดไม่ยอมชำระเงินแก่ธนาคาร ก. บริษัท ค. มอบหมายให้โจทก์เป็นผู้ติดตามเรียกให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วแลกเงินธนาคาร ก. จึงสลักหลังตั๋วแลกเงินให้แก่โจทก์ในฐานะจัดการแทน การสลักหลังของธนาคาร ก. เป็นการสลักหลังตาม ป.พ.พ. มาตรา 925 โจทก์ผู้รับสลักหลังจึงเป็นตัวแทนของบริษัท ค. ซึ่งเป็นตัวการ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม แม้เดิม โจทก์บรรยายฟ้องว่า "ธนาคาร ฮ. ได้สลักหลังให้ธนาคาร ก. ดำเนินการแทน" ต่อมาโจทก์แก้ฟ้องเป็นว่า"บริษัท ค. ได้มอบหมายให้โจทก์ดำเนินการแทน" คำฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม รายการในตั๋วแลกเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 909(3) ระบุเพียงว่า"ชื่อ หรือยี่ห้อผู้จ่าย" จะถือว่าต้องมีข้อความระบุว่า "ผู้จ่าย"ด้วยไม่ได้และมาตรา 909(8) ระบุเพียงว่า "ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย"ไม่จำต้องมีข้อความเขียนว่า "ผู้สั่งจ่าย" ด้วย เมื่อธนาคาร ฮ. ผู้รับเงินตามตั๋วแลกเงิน ซึ่งเป็นผู้ทรงตั๋วแลกเงินได้สลักหลังตั๋วแลกเงินให้ธนาคาร ก. จัดการแทน และธนาคาร ก. สลักหลังต่อไปยังโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงตั๋วแลกเงินและจะใช้สิทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋ว นั้นย่อมได้ทั้งสิ้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 925 โจทก์จึงมีสิทธิติดตามทวงถามเงินตามตั๋วแลกเงิน และฟ้องคดีได้ด้วยตนเอง จำเลยมีชื่อ ในตั๋วแลกเงิน และยังมีตรา บริษัท และลายมือชื่อของผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทจำเลยอีกแห่งหนึ่งด้วย อันหมายความถึงการรับรองตั๋วแลกเงิน จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้จ่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4804/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คและการระบุตัวผู้เสียหายในคดีเช็ค - ผลของการสลักหลังและการมอบเช็คให้ผู้อื่น
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งให้รับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายโจทก์ร่วมยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังนี้ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์บางข้อรวมในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยรวมกันไปแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายก็ไม่มีประโยชน์ที่จะแยกสั่งคำร้องอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ข้ออื่นของโจทก์ร่วมจึงชอบแล้ว
เดิมโจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท ซึ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือต่อมาโจทก์ร่วมลงชื่อสลักหลังเช็คพิพาทมอบให้น.นำเข้าบัญชีของน.เพื่อเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินและโจทก์ร่วมรับเช็คพิพาทคืนจากน.แล้วร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดังนี้เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรง แม้โจทก์ร่วมกับน.จะมีข้อตกลงกันเป็นอย่างอื่น ก็จะผูกพันเฉพาะโจทก์ร่วมกับ น.เท่านั้น เมื่อ น.ถือเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีของตนที่ธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คน.ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหาย หาใช่โจทก์ร่วมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสุจริตของผู้ทรงเช็คพิพาท: การโอนเช็คโดยไม่ขอสลักหลังและพยานหลักฐาน
ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบว่าโจทก์เป็นผู้ทรงได้รับโอนเช็คพิพาทซึ่งออกให้แก่ผู้ถือมาจากผู้รับเงินโดยไม่ได้ขอให้ผู้รับเงินซึ่งโจทก์รู้จักดีสลักหลังหรือทำหลักฐานให้ไว้ทั้งที่โจทก์ไม่รู้จักจำเลยผู้สั่งจ่ายประกอบกับในคดีนี้โจทก์ก็ไม่ได้อ้างและนำสืบผู้รับเงินซึ่งเป็นพยานสำคัญมาสนับสนุนคำเบิกความของตนที่เบิกความลอยๆเป็นข้อพิรุธอันแสดงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริตไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่ตนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้โอนเช็คหลังสลักหลังไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีเช็คพิพาท ผู้รับโอนเช็คเป็นผู้เสียหาย
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโจทก์ร่วมสลักหลังมอบให้น. นำไปเข้าบัญชีของน. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต้องถือว่าน. เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายฉะนั้นการที่โจทก์ร่วมมอบอำนาจให้น.ไปร้องทุกข์แทนการร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3702/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สลักหลังในฐานะผู้รับอาวัลเช็ค: ไม่อาจอ้างระยะเวลาตามมาตรา 990 เพื่อปฏิเสธความรับผิด
การสลักหลังในฐานะผู้รับอาวัลเป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติความรับผิดไว้เป็นกรณีพิเศษ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 940 มิใช่เป็นการสลักหลังโดยทั่วๆ ไป ย่อมมีผลผูกพันที่จะต้องรับผิดเช่นเดียวกับผู้สั่งจ่ายซึ่งตนเข้ารับประกันจึงไม่อาจอ้างระยะเวลาตาม มาตรา 990 มาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2503/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คห้ามเปลี่ยนมือ: การสลักหลังไม่ผูกพันโจทก์ ธนาคารต้องรับผิดเมื่อเรียกเก็บเงินผิดบัญชี
แม้เช็คพิพาทจะมี ส. หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ลงชื่อสลักหลังเช็คและประทับตราสำคัญของโจทก์แต่หุ้นส่วนอีก คนหนึ่งไม่ได้ลงชื่อด้วยตามข้อบังคับจึงถือไม่ได้ว่า ส. เป็นผู้แทนกระทำการแทนโจทก์การสลักหลังเช็คดังกล่าว ย่อมไม่ผูกพันโจทก์โจทก์จึงยังเป็นผู้ทรงเช็คโดย ชอบด้วยกฎหมายและมีอำนาจฟ้อง
เช็คพิพาทเป็นเช็คขีดคร่อมมีคำว่า 'เปลี่ยนมือไม่ได้' แม้จะมิได้ขีดฆ่าคำว่า 'จ่ายตามคำสั่งของ ห้างหุ้นส่วนจำกัดจตุรมิตรก่อสร้าง (โจทก์)'ออก ก็แสดงว่า ผู้สั่งจ่ายต้องการให้นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์เท่านั้นไม่ให้จ่ายตามคำสั่งของโจทก์ต่อไป
คำว่า 'เอซี เปยีออลลี่' มีความหมายทำนองเดียวกับ 'เปลี่ยนมือไม่ได้'หรือ 'ห้ามเปลี่ยนมือ' ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 995
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพประกอบการธนาคาร เรียกเก็บเงินตามเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของส.ผู้รับสลักหลังทั้ง ๆ ที่เช็คพิพาทเป็นเช็คห้ามเปลี่ยนมือ ต้องนำเงินตาม เช็คเข้าบัญชีของโจทก์เท่านั้นจะถือว่าจำเลยกระทำโดยปราศจากความประมาทเลินเล่อหาได้ไม่จึงไม่ได้รับความ คุ้มครอง จากบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1000
ส. ไม่ได้เป็นผู้แทนกระทำแทนโจทก์ การที่ ส. ทราบการกระทำละเมิดของจำเลยในวันใดจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้พึงจะใช้ค่าสินไหมทดแทนจาก การกระทำดังกล่าวในวันนั้นเมื่อผู้ชำระบัญชีของโจทก์ เพิ่งทราบการกระทำละเมิดของจำเลยนับถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 1 ปีคดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2503/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คห้ามเปลี่ยนมือ การสลักหลังที่ไม่ผูกพันโจทก์ และความรับผิดของธนาคาร
แม้เช็คพิพาทจะมีส.หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ลงชื่อสลักหลังเช็คและประทับตราสำคัญของโจทก์แต่หุ้นส่วนอีกคนหนึ่งไม่ได้ลงชื่อด้วยตามข้อบังคับจึงถือไม่ได้ว่า ส. เป็นผู้แทนกระทำการแทนโจทก์การสลักหลังเช็คดังกล่าว ย่อมไม่ผูกพันโจทก์โจทก์จึงยังเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายและมีอำนาจฟ้อง
เช็คพิพาทเป็นเช็คขีดคร่อมมีคำว่า 'เปลี่ยนมือไม่ได้' แม้จะมิได้ขีดฆ่าคำว่า 'จ่ายตามคำสั่งของ ห้างหุ้นส่วนจำกัดจตุรมิตรก่อสร้าง (โจทก์)' ออก ก็แสดงว่า ผู้สั่งจ่ายต้องการให้นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์เท่านั้นไม่ให้จ่ายตามคำสั่งของโจทก์ต่อไป
คำว่า 'เอซีเปยีออลลี่' มีความหมายทำนองเดียวกับ 'เปลี่ยนมือไม่ได้' หรือ 'ห้ามเปลี่ยนมือ' ตามที่ บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 995 การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพประกอบการธนาคาร เรียกเก็บ เงินตามเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของส.ผู้รับสลักหลังทั้งๆที่เช็คพิพาทเป็นเช็คห้ามเปลี่ยนมือ ต้องนำเงินตาม เช็คเข้าบัญชีของโจทก์เท่านั้นจะถือว่าจำเลยกระทำโดย ปราศจากความประมาทเลินเล่อหาได้ไม่จึงไม่ได้รับความ คุ้มครอง จากบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1000 ส.ไม่ได้เป็นผู้แทนกระทำแทนโจทก์ การที่ส. ทราบ การกระทำละเมิดของจำเลยในวันใดจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้พึงจะใช้ค่าสินไหมทดแทนจาก การกระทำดังกล่าวในวันนั้นเมื่อผู้ชำระบัญชีของโจทก์ เพิ่งทราบการกระทำละเมิดของจำเลยนับถึงวันฟ้องยังไม่ถึง1ปีคดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีอาญา: คำร้องทุกข์ต้องระบุตัวผู้กระทำผิดชัดเจน หากระบุเฉพาะผู้สั่งจ่ายเช็ค คดีฟ้องจำเลยสลักหลังจึงขาดอายุความ
คำร้องทุกข์กล่าวถึงสาเหตุที่ พ. สามีจำเลยออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์ โดยจำเลยลงลายมือชื่อสลักหลัง ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คตอนท้ายระบุว่า โจทก์จึงนำความมาแจ้งขอให้ดำเนินคดีต่อ พ. ต่อไป ดังนี้ ไม่อาจถือได้โดยปริยายว่าโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยด้วย หากแต่มีเจตนาให้ พ. ได้รับโทษแต่ผู้เดียว โจทก์นำคดีนี้ซึ่งเป็นกรณีความผิดอันยอมความได้มาฟ้องจำเลยเมื่อพ้น 3 เดือน และโดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยภายใน 3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ย่อมขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากและผลของการมอบตั๋วเงินโดยไม่สลักหลัง
หนี้ที่เจ้าหนี้มีต่อลูกหนี้เป็นหนี้เงินฝาก โดยมีตั๋วเงินเป็นหลักฐานแห่งหนี้ สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้โอนให้แก่ ธนาคาร ก. จึงเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากดังกล่าว แม้เจ้าหนี้จะได้มอบตั๋วเงินซึ่งเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้แก่ธนาคาร ก. ไปพร้อมกับการทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ก็ไม่เป็นการโอนตั๋วเงินอันจะต้องมีการสลักหลังตั๋วเงิน นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากและการส่งมอบตั๋วเงินเป็นหลักฐาน ไม่ถือเป็นการโอนตั๋วเงินต้องสลักหลัง
หนี้ที่เจ้าหนี้มีต่อลูกหนี้เป็นหนี้เงินฝาก โดยมีตั๋วเงิน เป็นหลักฐานแห่งหนี้ สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้โอนให้แก่ ธนาคาร ก. จึงเป็นสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินฝากดังกล่าว แม้เจ้าหนี้จะได้มอบตั๋วเงินซึ่งเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้ แก่ธนาคาร ก. ไปพร้อมกับการทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ก็ไม่เป็นการโอนตั๋วเงินอันจะต้องมีการสลักหลังตั๋วเงิน นั้น
of 12