คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สามีภรรยา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพาผู้เยาว์หนีเพื่ออยู่กินเป็นสามีภรรยา ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 หากผู้เสียหายเต็มใจและจำเลยไม่มีภรรยา
จำเลยพาผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงอายุ 17 ปีไปเสียจากบิดามารดาของผู้เสียหายเพื่อให้เป็นภรรยาของจำเลย โดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยและไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้ง ส.ค.1 ไม่ใช่ข้อสันนิษฐานกรรมสิทธิ์ การแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาต้องมีการนำสืบ
การแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่นั้น (แจ้ง ส.ค.1)หาใช่เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าผู้แจ้งการครอบครองเป็นผู้มีสิทธิในที่นั้นเสมอไปไม่
มาตรา 1373 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิครอบครองเฉพาะในที่ดินซึ่งได้มีการจดทะเบียนออกโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว ฉะนั้น ที่ผู้ร้องไปแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 5 จึงไม่อาจปรับเข้าข้อสันนิษฐานตามความในมาตรา 1373 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องกันส่วนของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านพิพาท เมื่อหนี้ไม่ได้เกิดจากการเป็นสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย
หนี้เงินกู้ที่ ป. ก่อขึ้นระหว่างผู้ร้องกับ ป. มิได้เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย มิใช่หนี้ร่วม ผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านพิพาท(ซึ่งถูกบังคับคดีขายทอดตลาด) อยู่ครึ่งหนึ่ง ชอบที่จะขอกันส่วนได้ของตนครึ่งหนึ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่า: คำพูดกระทบกระแทกไม่ถึงขั้นเป็นเหตุให้ถือว่าเป็นการกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาอย่างร้ายแรง
การที่จำเลยพูดกับเพื่อนถึงโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาว่า "กูเบื่อแล้วของไม่ดี ของเก่าแล้ว กูไม่เอาแล้ว" โดยพูดเมื่อโจทก์และบิดามารดาไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่กินเป็นสามีภรรยากับโจทก์แล้ว ดังนี้ เป็นเพียงคำพูดกระทบกระแทก ไม่ถึงกับเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง และถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดกระทบกระแทกไม่ถึงขั้นเป็นการกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาอย่างร้ายแรง ไม่เป็นเหตุให้หย่าได้
การที่จำเลยพูดกับเพื่อนถึงโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาว่า 'กูเบื่อแล้ว ของไม่ดี ของเก่าแล้ว กูไม่เอาแล้ว' โดยพูดเมื่อโจทก์และบิดามารดาไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่กินเป็นสามีภรรยากับโจทก์แล้ว ดังนี้ เป็นเพียงคำพูดกระทบกระแทก ไม่ถึงกับเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง และถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมโดยปริยายในสัญญาจะซื้อขายและหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4)
สามีได้ลงชื่อเป็นพยานรู้เห็นในสัญญาจะซื้อขาย ย่อมถือได้ว่า สามีได้ยินยอมหรือให้สัตยาบันโดยปริยายในสัญญาแล้ว
หนี้ที่เกิดขึ้นเพราะภรรยาผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดินจึงเป็นหนี้ร่วมระหว่างภรรยากับสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4) สามีต้องรับผิดร่วมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครอง และผลของการเป็นสามีภรรยาไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อการอ้างอายุความ
ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด แม้สามีโจทก์ซึ่งตายไปแล้วและโจทก์จะได้รับมรดกและครอบครองมาเกิน 1 ปี แต่เมื่อยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี โจทก์ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์และเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้เป็นภรรยาโดยชอยด้วยกฎหมายด้วย โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะยกอายุความมรดก 1 ปีอ้างยันต่อจำเลยซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกอยู่ต่างหากต้องมีเหตุรุนแรงต่อเนื่อง การทะเลาะวิวาทเป็นครั้งคราวไม่เพียงพอ
จำเลยชอบดุด่า ชอบเสพสุรา เคยฟันโจทก์ 2 ครั้งที่แขนซ้ายและมือซ้าย เคยเอากาแฟร้อนสาดหน้าและต่อยโจทก์ และโจทก์ก็เคยฟันจำเลยถึงกระดูกนิ้วขาด แม้จะนับได้ว่าเป็นเรื่องรุนแรงอยู่มากแต่ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวจากการที่ได้เป็นสามีภริยากันมารวม 2 ระยะ เป็นเวลาประมาณ 7 - 8 ปี แล้ว ถือว่าไม่มีลักษณะจะเป็นเหตุที่โจทก์จะขอให้ตนแยกอยู่ต่างหากจากจำเลยดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1455.
หมายเหตุ เหตุตามที่ฟ้องนี้อาจฟ้องขอหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) แต่ขาดอายุความแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า แม้เป็นสามีภรรยาก็ไม่สามารถอ้างสิทธิร่วมกันได้
สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่าแต่ผู้เดียว แม้ภรรยาจะเป็นผู้เช่า สามีก็เป็นบุคคลภายนอก จะเข้ามามีสิทธิด้วยตามสัญญาเช่าไม่ได้ และถือไม่ได้ว่าสามีหรือภรรยาซึ่งลงชื่อในสัญญาเช่า ได้ทำการเพื่อทั้งสองฝ่าย
แม้จะถือว่าสิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สิน แต่ก็เป็นสิทธิตามสัญญาอันเป็นสิทธิเฉพาะตัว การโอนสิทธิการเช่าของภรรยาให้แก่บุคคลอื่น ย่อมเป็นสิทธิของภรรยาแต่ผู้เดียวไม่ต้องรับความยินยอมจากสามี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสภาพสามีภรรยาตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย และผลกระทบต่อสิทธิในสินสมรสและมรดก
ในปี 2474 หรือ 2475 โจทก์ได้หนีตามชายชู้ไป และได้ชายอื่นเป็นสามีอีกหลายคน ส่วนสามีก็ได้ภรรยาใหม่หลายคน โจทก์กับสามีไม่ได้เกี่ยวข้องกันฉันสามีภรรยานับแต่นั้นเป็นต้นมา จนสามีถึงแก่กรรมและมูลกรณีดังว่านี้เกิดก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และ 6 จึงต้องปรับบทตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น พฤติการณ์ของโจทก์กับสามีจึงถือได้ว่าได้สละละทิ้งหย่าขาดกันตามกฎหมายลักษณะผัวเมียไปก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และ 6 แล้ว โจทก์จึงไม่ได้เป็นทายาทของสามีและไม่มีสิทธิรับมรดก
บิดาของสามียกที่ดินให้สามีโดยไม่ได้โอนกันทางทะเบียน เป็นการยกให้ที่ยังไม่สมบูรณ์ ตามกฎหมายสามีจะได้กรรมสิทธิ์ก็ต่อเมื่อได้ครอบครองมาเป็นเวลา 10 ปี ในระหว่างที่สามีครอบครองที่ดินนั้นมายังไม่ครบ 10 ปี โจทก์กับสามีได้หย่าขาดกันเสียก่อนหลายปีแล้ว ที่ดินนั้นจึงไม่เป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับสามี
of 13