พบผลลัพธ์ทั้งหมด 103 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง: สิทธิการสวมสิทธิจำเลยต้องระบุข้อกฎหมายชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฎีกาลอย ๆ ว่า โจทก์มีสิทธิจะสวมสิทธิจำเลยต่อผู้ร้องได้ตามกฎหมายเท่านั้น มิได้ยกข้อกฎหมายขึ้นกล่าวอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาว่าโจทก์มีสิทธิจะสวมสิทธิจำเลยต่อผู้ร้องได้ ตามกฎหมายข้อใดประการใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าช่วงและการร้องสอดในคดีขับไล่: ศาลมีดุลพินิจไม่อนุญาตให้ร้องสอดได้หากขัดแย้งกับสิทธิจำเลย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่ามีผู้ร้องสอดอ้างว่าเช่าห้องจากจำเลยข้อต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ให้เช่า จำเลยเช่าจากเจ้าของจำเลยขาดนัดให้การและพิจารณาดังนี้ผู้ร้องสอดใช้สิทธินอกเหนือไปจากจำเลยไม่ได้ ศาลยกคำร้องสอด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2067/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการมีทนายแก้ต่างคดีอัตราโทษสูง แม้แถลงหาเอง ศาลต้องตั้งทนายให้หากหาไม่ได้
ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปนั้นแม้ในวันสอบถามคำให้การจำเลยได้แถลงว่าจะหาทนายเองแต่เมื่อถึงวันสืบพยานโจทก์จำเลยหาทนายไม่ได้ แถลงขอให้ศาลหาทนายให้และขอเลื่อนการพิจารณาไปศาลก็ชอบที่จะตั้งทนายให้จำเลยและสั่งเลื่อนการพิจารณาไปก่อนการที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีแล้วสืบพยานโจทก์จำเลยไปจนเสร็จสิ้น โดยจำเลยไม่มีทนายแก้ต่างนั้น เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษา และสิทธิของจำเลยในการคัดค้าน
เมื่อโจทก์มีสิทธิที่จะร้องขอต่อศาลเพื่อใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน อายัดเงินที่จ้างที่จำเลยได้จะได้รับจากบุคคลอื่น และศาลได้มีคำสั่งอายัดเงินค่าจ้างที่จำเลยจะได้รับจากบุคคลอื่นแล้ว จำเลยย่อมไม่มีสิทธิฟ้องแย้งขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการอายัดดังกล่าวได้ จำเลยมีสิทธิพียงแต่จะขอให้ศาลสั่งยกเลิกคำสั่งหรือหมายอายัดทรัพย์ชั่วคราว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 267 วรรค 2 ได้เท่านั้น จึงไม่มีสิทธิฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษา และขอบเขตสิทธิของจำเลยในการคัดค้าน
เมื่อโจทก์มีสิทธิที่จะร้องขอต่อศาลเพื่อใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน อายัดเงินค่าจ้างที่จำเลยจะได้รับจากบุคคลอื่น และศาลได้มีคำสั่งอายัดเงินค่าจ้างที่จำเลยจะได้รับจากบุคคลอื่นแล้ว จำเลยย่อมไม่มีสิทธิฟ้องแย้งขอให้ศาลเพิกถอนการอายัดดังกล่าวได้ จำเลยมีสิทธิเพียงแต่จะขอให้ศาลสั่งยกเลิกคำสั่งหนือหมายอายัดทรัพย์ชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 267 วรรคสอง ได้เท่านั้น จึงไม่มีสิทธิฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2302/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสามารถของโจทก์เด็กและสิทธิของจำเลยในการยกประเด็นประมาทร่วมกัน แม้ไม่เคยอ้างในคดีอาญา
ข้อที่ว่าผู้เสียหายมีส่วนรวมในการประมาทด้วยหรือไม่ แม้จำเลยจะมิได้ต่อสู้ไว้ในคดีอาญา ก็ไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคดีแพ่ง
ผู้เยาว์ถูกจำเลยขับรถชนได้รับอันตราย มารดาดำเนินคดีแทนผู้เยาว์โดยฟ้องเรียกค่าเสียหาย มิได้ฟ้องในนามของมารดาเองเป็นการส่วนตัว เท่ากับผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีนั่นเอง เมื่อผู้เยาว์ยังมิได้รับความยินยอมจากบิดา จึงเป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 วรรคสอง ศาลมีอำนาจสอบสวนในเรื่องความสามารถของคู่ความและมีคำสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องได้ หาใช่ว่าฟ้องของโจทก์เสียไป เพราะเป็นการดำเนินคดีโดยผู้ไม่มีอำนาจไม่ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถจึงชอบแล้ว
(ตามวรรค 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2518)
ผู้เยาว์ถูกจำเลยขับรถชนได้รับอันตราย มารดาดำเนินคดีแทนผู้เยาว์โดยฟ้องเรียกค่าเสียหาย มิได้ฟ้องในนามของมารดาเองเป็นการส่วนตัว เท่ากับผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีนั่นเอง เมื่อผู้เยาว์ยังมิได้รับความยินยอมจากบิดา จึงเป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 วรรคสอง ศาลมีอำนาจสอบสวนในเรื่องความสามารถของคู่ความและมีคำสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องได้ หาใช่ว่าฟ้องของโจทก์เสียไป เพราะเป็นการดำเนินคดีโดยผู้ไม่มีอำนาจไม่ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถจึงชอบแล้ว
(ตามวรรค 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2518)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีหมิ่นประมาท: สิทธิจำเลยในการสืบพยานโต้แย้ง แม้จำเลยรับข้อเท็จจริงบางส่วน ศาลต้องให้โอกาสจำเลยสืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งเทศมนตรี จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตอบกระทู้ของสมาชิกสภาจังหวัดโดยทำเป็นบันทึกอัดโรเนียวแจกสมาชิกสภาจังหวัดใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง โดยเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 326, 328. จำเลยให้การปฏิเสธและว่าการกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามกฎหมายโจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลย และจำเลยก็มีสิทธินำสืบเพื่อแสดงว่าจำเลยมิได้กระทำผิด แม้จำเลยจะได้แถลงรับรองความถูกต้องของสำเนาบันทึกท้ายฟ้องว่าเป็นเอกสารที่จำเลยได้พิมพ์แจก และแถลงว่าข้อความในบันทึกนั้น จำเลยได้กล่าวถึงโจทก์ในขณะปฏิบัติการในฐานะเทศมนตรี ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยรับสารภาพ แม้ศาลเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์ก็ยังต้องให้โอกาสจำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ก่อนจึงจะชอบที่ศาลสั่งงดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษา ไม่ได้ให้จำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน: จำเลยมีสิทธิสืบพยานหักล้างข้อกล่าวหา แม้จำเลยรับข้อเท็จจริงบางส่วน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งเทศมนตรี จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตอบกระทู้ของสมาชิกสภาจังหวัดโดยทำเป็นบันทึกอัดโรเนียวแจกสมาชิกสภาจังหวัดใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง โดยเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136,326,328. จำเลยให้การปฏิเสธและว่าการกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลย และจำเลยก็มีสิทธินำสืบเพื่อแสดงว่าจำเลยมิได้กระทำผิด แม้จำเลยจะได้แถลงรับรองความถูกต้องของสำเนาบันทึกท้ายฟ้องว่าเป็นเอกสารที่จำเลยได้พิมพ์แจก และแถลงว่าข้อความในบันทึกนั้น จำเลยได้กล่าวถึงโจทก์ในขณะปฏิบัติการในฐานะเทศมนตรี ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยรับสารภาพ แม้ศาลเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์ก็ยังต้องให้โอกาสจำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ก่อนจึงจะชอบ ที่ศาลสั่งงดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษา ไม่ได้ให้จำเลยนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในคดีอาญาที่อัตราโทษสูงกว่าสิบปี: การสอบถามเรื่องทนาย และผลของการดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่เฉพาะตัวจำเลย
ในคดีอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีขึ้นไป มีจำเลยบางคนรับสารภาพ บางคนปฏิเสธ จำเลยที่รับสารภาพนั้นศาลชั้นต้นมิได้สอบถามเรื่องทนาย และมิได้มีทนายตลอดการพิจารณาของศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยที่ปฏิเสธได้แต่งตั้งทนายเข้าซักค้านพยานโจทก์ตลอดจนสืบพยานของตนมาแต่ต้นต่อมาศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่รับสารภาพ ศาลยังไม่ได้สอบถามว่าจะมีทนายหรือไม่ คำพิพากษายังไม่ชอบ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องแล้วพิพากษาใหม่ ศาลชั้นต้นได้ขอแรงทนายให้จำเลยที่รับสารภาพ ในวันนัดพร้อม โจทก์และจำเลยที่รับสารภาพและที่ปฏิเสธแถลงว่า ไม่ติดใจให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ โดยขอให้ถือเอาคำพยานที่สืบไว้เดิมเป็นการเพียงพอและทนายจำเลยที่รับสารภาพ ก็ไม่ติดใจซักค้านพยานโจทก์หรือสืบพยานจำเลยอีก ศาลชั้นต้นถือว่าได้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่เสร็จแล้วและพิจารณาคดีไปทีเดียว ดังนี้การให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่มุ่งเฉพาะตัวจำเลยที่รับสารภาพเท่านั้น กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่กระทำต่อจำเลยที่ปฏิเสธทั้งสองคราวจึงครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิแก้คำให้การในคดีอาญา: เหตุผลอันควรเมื่อจำเลยปรึกษาทนายความและเข้าใจสิทธิในการต่อสู้คดี
จำเลยถูกฟ้องว่าพยายามฆ่าผู้อื่น ตอนแรกจำเลยให้การรับสารภาพ และไม่ต้องการทนาย ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยได้แต่งทนาย และยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิม ขอให้การใหม่ว่ามิได้กระทำผิด อ้างเหตุผลว่ารับสารภาพเพราะเข้าใจผิด และไม่ตรงต่อความจริงดังนี้ เป็นเหตุผลที่อาจเป็นไปได้ เพราะขณะจำเลยให้การรับสารภาพ จำเลยไม่มีทนายความต่อเมื่อได้ปรึกษาทนายความแล้ว จึงเกิดความเข้าใจถูกต้องในการต่อสู้คดี นับว่าเป็นเหตุอันควรเมื่อประกอบกับในคดีอาญา จำเลยย่อมมีสิทธิต่อสู้คดีได้เต็มที่ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165วรรคหนึ่ง ตามรูปคดีจึงสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การได้ เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การ และสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาลงโทษจำเลย จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา