พบผลลัพธ์ทั้งหมด 142 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่านาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 สิทธิการเช่าต่อเนื่องต้องมีการตกลงกันใหม่
โจทก์เช่านาจำเลยทำอยู่โดยไม่มีกำหนดเวลาก่อนพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 ใช้บังคับ โจทก์จึงมีสิทธิในการเช่านาจำเลยมีกำหนดหกปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาหกปีแล้ว จะต้องมีการตกลงเช่ากันอีกเป็นคราว ๆ จึงจะมีสิทธิในการเช่าต่อไปอีกคราวละหกปี หาใช่ว่าเมื่อตกลงเช่ากันครั้งแรกและครบกำหนดหกปีแล้วต้องถือว่าได้มีการเช่านากันไปเรื่อย ๆ คราวละหกปีโดยไม่ต้องมีการตกลงเช่ากันแต่อย่างใดไม่
หลังจากสิ้นระยะเวลาการเช่านาแล้ว แม้จำเลยผู้ให้เช่าจะมิได้บอกเลิกการเช่านา แต่ปรากฏว่าขณะนั้นโจทก์จำเลยกำลังดำเนินคดีกันอยู่โดยโต้เถียงเกี่ยวกับการเช่านาระงับลงแล้วหรือไม่ และโจทก์ผู้เช่ามิได้ทำนาต่อไปจึงถือไม่ได้ว่ามีการเช่านากันต่อไปตามมาตรา 5
สัญญาประนีประนอมยอมความที่ให้โจทก์เลิกเช่านาจำเลยใน พ.ศ. 2523 เป็นสัญญาที่โจทก์จำเลยทำไว้ล่วงหน้าเป็นเวลาเกินกว่าหกเดือนก่อนสิ้นระยะเวลาการเช่านาจึงถือไม่ได้ว่ามีการตกลงเลิกการเช่านาระหว่างโจทก์จำเลยตามความหมายของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาหกปีแล้ว จะต้องมีการตกลงเช่ากันอีกเป็นคราว ๆ จึงจะมีสิทธิในการเช่าต่อไปอีกคราวละหกปี หาใช่ว่าเมื่อตกลงเช่ากันครั้งแรกและครบกำหนดหกปีแล้วต้องถือว่าได้มีการเช่านากันไปเรื่อย ๆ คราวละหกปีโดยไม่ต้องมีการตกลงเช่ากันแต่อย่างใดไม่
หลังจากสิ้นระยะเวลาการเช่านาแล้ว แม้จำเลยผู้ให้เช่าจะมิได้บอกเลิกการเช่านา แต่ปรากฏว่าขณะนั้นโจทก์จำเลยกำลังดำเนินคดีกันอยู่โดยโต้เถียงเกี่ยวกับการเช่านาระงับลงแล้วหรือไม่ และโจทก์ผู้เช่ามิได้ทำนาต่อไปจึงถือไม่ได้ว่ามีการเช่านากันต่อไปตามมาตรา 5
สัญญาประนีประนอมยอมความที่ให้โจทก์เลิกเช่านาจำเลยใน พ.ศ. 2523 เป็นสัญญาที่โจทก์จำเลยทำไว้ล่วงหน้าเป็นเวลาเกินกว่าหกเดือนก่อนสิ้นระยะเวลาการเช่านาจึงถือไม่ได้ว่ามีการตกลงเลิกการเช่านาระหว่างโจทก์จำเลยตามความหมายของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3449/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเช่าโรงงานสุรา: การเสนอเช่าที่ไม่ได้รับการตอบรับ ไม่สร้างสิทธิ และไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนสัญญาเช่า
โจทก์เป็นเพียงผู้เสนอขอเช่าโรงงานสุราของรัฐว่ายินดีจะให้ผลประโยชน์แก่รัฐอย่างสูง เมื่อจำเลยที่1- ที่ 4 รับหลักการแล้ว ต่อมาปฏิเสธการขอเช่าเสียโดยอ้างว่าคณะกรรมการไม่สามารถรับเรื่องของโจทก์ไว้พิจารณาได้นั้น ย่อมเป็นอำนาจเด็ดขาดของจำเลยที่ 1-ที่ 4 และคณะกรรมการซึ่งเป็นฝ่ายผู้ให้เช่าที่จะทำการตกลงกับโจทก์ด้วยหรือไม่ เมื่อไม่มีการตกลงสนองรับข้อเสนอของโจทก์ ข้อเสนอของโจทก์ก็เป็นอันตกไป โจทก์จึงไม่ได้สิทธิเป็น ผู้เช่า และเมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเช่าโรงงานดังกล่าวแล้วการที่จำเลยที่ 1-ที่ 4 ให้จำเลยที่ 5 โดยจำเลยที่ 6 ที่ 7 เป็นผู้เช่าจึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอนสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ 1-ที่ 4กับจำเลยที่ 5-ที่ 7 ได้
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ของประชาชนเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ไว้แล้วในระหว่างพิจารณา ศาลมีอำนาจหยิบยกเรื่องอำนาจฟ้องขึ้นวินิจฉัยได้ และเมื่อเห็นว่าโจทก์ไม่มี อำนาจฟ้องก่อนถึงขั้นตอนที่จะมีรายการแห่งคดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ของประชาชนเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ไว้แล้วในระหว่างพิจารณา ศาลมีอำนาจหยิบยกเรื่องอำนาจฟ้องขึ้นวินิจฉัยได้ และเมื่อเห็นว่าโจทก์ไม่มี อำนาจฟ้องก่อนถึงขั้นตอนที่จะมีรายการแห่งคดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3243/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจครอบคลุมการแก้ฟ้องแย้ง สิทธิเช่าที่ดินเป็นไปตามการจดทะเบียน
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุให้ ส.ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจตั้งทนายความเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆในศาล ย่อมมีความหมายรวมถึงให้ตั้งทนายความแก้ต่าง และให้การแก้ฟ้องแย้งด้วย โจทก์มีอำนาจฟ้องและให้การแก้ฟ้องแย้ง
โจทก์จดทะเบียนเลิกการเช่าที่ดินกับ ช. และวันเดียวกันโจทก์ได้จดทะเบียนการเช่าให้ ป. แม้ต่อมาภายหลังจำเลยจะซื้อบ้านจาก ช. และโจทก์ทำหนังสือยินยอมให้จำเลยมีสิทธิการเช่าที่ดินสืบต่อจาก ช. ดังนี้ สิทธิการเช่าของจำเลยเป็นเพียงหลักฐานการเช่าแต่ไม่ได้จดทะเบียน ป.มีสิทธิยิ่งกว่าจำเลยในการเช่าที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 543 จำเลยไม่มีสิทธิบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนการเช่าอีกได้
โจทก์จดทะเบียนเลิกการเช่าที่ดินกับ ช. และวันเดียวกันโจทก์ได้จดทะเบียนการเช่าให้ ป. แม้ต่อมาภายหลังจำเลยจะซื้อบ้านจาก ช. และโจทก์ทำหนังสือยินยอมให้จำเลยมีสิทธิการเช่าที่ดินสืบต่อจาก ช. ดังนี้ สิทธิการเช่าของจำเลยเป็นเพียงหลักฐานการเช่าแต่ไม่ได้จดทะเบียน ป.มีสิทธิยิ่งกว่าจำเลยในการเช่าที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 543 จำเลยไม่มีสิทธิบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนการเช่าอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3079/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่ vs. สิทธิเช่า: ศาลไม่รับฟ้องแย้งเรื่องค่าเสียหายที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นหลัก
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทจำเลยให้การว่าได้เช่าบ้านจาก ช. จำเลยมีสิทธิอยู่ต่อไปจนครบสัญญาเช่า ประเด็นตามคำฟ้องเดิมจึงมีว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่
ที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การที่โจทก์บังคับให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทเป็นการรอนสิทธิ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยได้เสียเงินซ่อมบ้านพิพาทเงินกินเปล่าและค่าเช่าล่วงหน้าให้ ช. ผู้ให้เช่าไปนั้น สิทธิของจำเลยหากถูกรบกวนผู้ที่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิคือ ช.ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยฟ้องแย้งจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การดำเนินคดีทางศาลเป็นเหตุให้จำเลยไม่มีเวลาและกำลังใจประกอบการค้าขายทำให้ขาดประโยชน์นั้น ค่าขาดประโยชน์ในการค้าขายไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การที่โจทก์บังคับให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทเป็นการรอนสิทธิ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยได้เสียเงินซ่อมบ้านพิพาทเงินกินเปล่าและค่าเช่าล่วงหน้าให้ ช. ผู้ให้เช่าไปนั้น สิทธิของจำเลยหากถูกรบกวนผู้ที่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิคือ ช.ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยฟ้องแย้งจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การดำเนินคดีทางศาลเป็นเหตุให้จำเลยไม่มีเวลาและกำลังใจประกอบการค้าขายทำให้ขาดประโยชน์นั้น ค่าขาดประโยชน์ในการค้าขายไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงและการต่อสัญญาเช่า: สิทธิการเช่าช่วงสิ้นสุดเมื่อสัญญาเช่าเดิมหมดอายุ และการเชื่อโดยสุจริตว่าสัญญาจะต่ออายุ
จำเลยให้ ต. เช่าช่วงบ้านพิพาทขณะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยฉบับเดิมซึ่งจำเลยมีสิทธิให้เช่าช่วงได้ยังมีผลบังคับ และที่จำเลยให้เช่าช่วงเกินกำหนดเวลาตามสัญญาเช่าฉบับเดิมก็เพราะเชื่อว่าโจทก์จะต่อสัญญาเช่าและอนุญาต ให้เช่าช่วงได้เช่นเดิมทั้งตามสัญญาที่จำเลยให้ ต.เช่าช่วงก็มีเงื่อนไขว่าจำเลยมีสิทธิให้ ต. ออกไปก่อนครบกำหนดเวลาได้ แสดงว่าถ้าโจทก์ไม่อนุญาตให้เช่าช่วงจำเลยก็ไม่ยินยอมให้ ต. เช่าช่วงต่อไปได้ซึ่งจำเลยก็ได้ขับไล่ ต. อันถือได้ว่าเป็นการเลิกสัญญาให้เช่าช่วงแล้ว กรณียังไม่พอฟังว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเช่าที่ดินหลังสัญญาประนีประนอม: สิทธิใหม่ของผู้ร้องไม่ผูกพันกับสัญญาเดิม
ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยรื้อถอนสิ่งก่อสร้างและออกไปจากที่พิพาทแล้วต่อมาโจทก์ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกระทรวงการคลังเจ้าของที่พิพาทกระทรวงการคลังจึงได้ยกเลิกสิทธิการเช่าของโจทก์ และอนุญาตให้จำเลยมีสิทธิแทนโจทก์แต่จำเลยตายเสียก่อน ผู้ร้องจึงได้รับอนุญาตให้เป็นผู้มีสิทธิเช่าแทนจำเลยดังนี้ผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกมีสิทธิขึ้นใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลย ผู้ร้องจึงมิใช่บริวารของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่านา: สิทธิเช่าต่อเนื่องและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา
สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความว่า จำเลยยอมให้โจทก์เช่าทำนาต่อไปอีกในปีการทำนา 2518 ตามข้อสัญญาดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยตกลงให้โจทก์ได้เช่าทำนาในปี 2518 ต่อไปมิได้มีข้อความว่าโจทก์ตกลงเช่านาพิพาทเพียง 1 ปีทั้งไม่มีข้อความว่าโจทก์สละสิทธิการเช่านาพิพาทในปีต่อๆ ไปจำเลยย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 มาตรา 31โจทก์มีสิทธิเช่านาของจำเลยต่อไปโดยได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองหลังคำพิพากษาถึงที่สุด: จำเลยไม่อาจอ้างสิทธิเจ้าของได้อีก เมื่อคดีก่อนพิพากษาว่าเช่า
เมื่อคำพิพากษาในคดีก่อนซึ่งถึงที่สุดไปแล้วฟังว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยทั้งสองอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าจากบิดาโจทก์ เช่นนี้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าและฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเป็นคดีใหม่ จำเลยจะยกสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของขึ้นต่อสู้โจทก์อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเช่าเดิมไม่ผูกพันผู้รับโอนที่ดิน-ตึก ผู้รับโอนไม่ต้องรับผิดตามสัญญาเช่าเดิม
โจทก์รับโอนที่ดินและตึกแถวจำเลยเช่าตึกอยู่ก่อนและเสียเงินแก่ผู้ให้เช่าเดิมเพื่อเช่า 15 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียน ข้อที่ให้เงินและเช่า 15 ปี เป็นบุคคลสิทธิ ไม่ผูกพันโจทก์ จึงไม่ต้องกำหนดประเด็นในข้อนี้ตามฟ้องแย้ง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งนี้ในระหว่างพิจารณาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่านา แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ไม่ตกเป็นโมฆะ และมีสิทธิเช่าต่อเนื่องตามกฎหมาย
โจทก์ให้จำเลยทำนาในที่นาของโจทก์โดยโจทก์เป็นผู้จัดหาพันธุ์ข้าวและปุ๋ยเป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่และซ่อมแซมผนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันมิให้ข้าวในนาเสียหาย ส่วนจำเลยเป็นผู้ออกแรง ไถคราด ตกกล้า ปักดำ เก็บเกี่ยวและนวดข้าว โดยใช้อุปกรณ์การทำนาของจำเลย เมื่อทำนาได้ข้าวแล้ว ตวงเอาข้าวจำนวนหนึ่งไว้เป็นพันธุ์ข้าวในปีต่อไป ข้าวที่เหลือแบ่งกันคนละครึ่งระหว่างโจทก์จำเลย หากปีใดการทำนาไม่ได้ผลต่าง ไม่ต้องเสียอะไรให้แก่กัน การที่โจทก์มอบนาให้จำเลยทำและได้รับข้าวเป็นค่าตอบแทนเช่นนี้ ถือว่าเป็นการเช่าที่ดินเพื่อทำนาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 หาใช่เป็นการจ้างจำเลยทำนาไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 บัญญัติว่า เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ ตามบทบัญญัตินี้หาได้บัญญัติให้การเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือตกเป็นโมฆะไม่ และตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 การเช่านาเพื่อทำนาไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ดังนั้น การเช่านาของจำเลยจากโจทก์ แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ไม่เป็นโมฆะ
โจทก์ให้จำเลยเช่าที่ดินเพื่อทำนาโดยไม่มีกำหนดเวลาไว้ก่อนพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ใช้บังคับ จำเลยมีสิทธิเช่าทำนาในที่ดินดังกล่าวต่อไปอีก 6 ปี ตามมาตรา 46
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 บัญญัติว่า เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ ตามบทบัญญัตินี้หาได้บัญญัติให้การเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือตกเป็นโมฆะไม่ และตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 การเช่านาเพื่อทำนาไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ดังนั้น การเช่านาของจำเลยจากโจทก์ แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ไม่เป็นโมฆะ
โจทก์ให้จำเลยเช่าที่ดินเพื่อทำนาโดยไม่มีกำหนดเวลาไว้ก่อนพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ใช้บังคับ จำเลยมีสิทธิเช่าทำนาในที่ดินดังกล่าวต่อไปอีก 6 ปี ตามมาตรา 46