คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ส่งออก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616-2617/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ช่วยซุกซ่อนยาเสพติดในเฝือก ถือเป็นผู้สนับสนุนการพยายามส่งออก ไม่ใช่ตัวการร่วม
การที่จำเลยที่ 2 เพียงช่วยพันเฝือกที่ขาของจำเลยที่ 1 และเอาเฮโรอีนซุกซ่อนไว้ในเฝือก เป็นการสนับสนุนในการที่จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานพยายามนำเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้นมิใช่ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราโทษความผิดพ.ร.บ.ศุลกากรและพ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกฯ: ศาลเลือกใช้กฎหมายที่มีโทษหนักกว่าตามประมวลกฎหมายอาญา ม.90
การคำนวณค่าปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ มาตรา 27 นั้น ต้องถือเอาราคาของในท้องตลาดอันเป็นราคาที่แท้จริงและรวมค่าอากรเข้าด้วย เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
การลักลอบนำข้าวออกนอกประเทศเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2490 มาตรา 3 กับตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี เท่ากัน แต่การกระทำฐานพยายามนั้นพระราชบัญญัติศุลกากรถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 27 เสมือนกับเป็นความผิดสำเร็จลงโทษจำคุกได้ถึง 10 ปี แต่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ ลงโทษได้เพียง 2 ใน 3 จำคุกได้อย่างสูง 6 ปี 8 เดือนจึงต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร อันเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90(อ้างฎีกาที่ 1027/2504)
การกระทำผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ศาลต้องนำพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ.2489 มาใช้บังคับในการสั่งจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับ
จำเลยทั้ง 3 พยายามนำข้าวออกนอกประเทศ ข้าวสารเป็นของจำเลยที่ 2 จำนวน 6 กระสอบ เป็นของจำเลยที่ 3 จำนวน 6 กระสอบจำเลยที่ 2,3 ไม่ได้สมคบกันส่วนจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2,3ดังนี้ เมื่อค่าปรับทั้งหมด 8,002.56 บาท จึงปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 4,001.28 บาท จำเลยที่ 2,3 คนละ 2,000.64บาท จำเลยที่ 2,3 รับสารภาพลดกึ่ง คงปรับคนละ1,000.32 บาท
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 32 บัญญัติว่าเรือ...รถ...หากใช้ในการย้าย ถอน ซ่อนเร้น หรือขนของที่ยังมิได้เสียภาษี...ให้ริบเสียสิ้น นั้น หากเจ้าของมิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องในการกระทำผิดแล้ว ศาลไม่ริบ(อ้างฎีกาที่ 193/2491) ฉะนั้น เมื่อศาลชั้นต้นยังมิได้ไต่สวนข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏว่าเจ้าของรถยนต์ของกลางรู้เห็นเกี่ยวข้องในการกระทำหรือไม่อัยการโจทก์ก็ค้านอยู่ว่ารู้เห็นเป็นใจ จึงชอบที่ศาลชั้นต้นจะดำเนินการไต่สวนแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามทัณฑ์บนศุลกากร: การส่งออกโดยผู้ประกอบการอื่นไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
บริษัทจำเลยและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลยู่ฮงจั่นเซ่งเฮง ได้ร่วมกันทำทัณฑ์บนให้ไว้ต่อกรมศุลกากรโจทก์ว่าจะใช้ถุงกระดาษที่บริษัทจำเลยสั่งเข้ามานั้นบรรจุผลิดภัณฑ์ภายใน 1 ปี เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลยู่ฮงจั่นเซ่งเฮงได้ใช้ถุงกระดาษเพื่อกิจการนั้นไปบางส่วนแล้ว ก็เลิกกิจการค้าไป บริษัทจำเลยจึงได้ให้บริษัทไทวาเทรดดิ้งจำกัดผู้ประกอบอุตสาหกรรมใช้ถุงกระดาษนั้นบรรจุผลิตภัณฑ์ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศแทนภายในกำหนด 1 ปีตามทัณฑ์บน การที่บริษัทจำเลยจัดให้มีการกระทำตามทัณฑ์บนได้และในทัณฑ์บนก็ไม่มีข้อความใดห้ามไม่ให้ผู้อื่นนอกจากผู้ทำทัณฑ์บนเป็นผู้ส่งออก เช่นนี้ จะว่าจำเลยทำผิดทัณฑ์บนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งออกสิ่งของชำรุดเพื่อซ่อมแซม ไม่ถือเป็นสินค้าต้องห้าม ตาม พ.ร.ก. ควบคุมการส่งออก
จำเลยได้นำเครื่องขยายเสียและสิ่งอุปกรณ์ซึ่งเป็นของจำเลยมีไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2496 สำหรับรับจ้างโฆษณาในงานต่าง ๆ ออกไปนอกราชอาณาจักร สู่ประเทศลาว เพื่อให้วาดผาทดซึ่งอยู่ในประเทศ ลาวคนฝั่งแม่น้ำโขงกับจังหวัดเลยเช่าเมื่อเดือน มิถุนายน 2500 ต่อมาเครื่องชำรุดระหว่างงานจำเลยจังได้ขายเครื่องนี้ให้แก่วัดผาหดไปในราคา 6,200 บาท โดยมิได้รับอนุญาตพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบ เพื่อการนำออกนอกราชอาณาจักร ดังนี้ มิใช่เป็นเรื่องจำเลยได้นำเครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้ไปในฐานะสินค้าเพื่อเสนอขายแต่เป็นเรื่องที่จำเลยมีเครื่องขยายเสียงไว้สำหรับให้เช่าใช้โฆษณาในงานของวัดผาหด แล้วจะกลับเข้ามา แต่ในระหว่างงานเครื่องได้เกิดชำรุด จำเลยจึงขายให้แก่วัดผาหดไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าว ถือไม่ได้ว่า เครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้ เป็นสินค้าตามความหมายแห่งพระราชกฤษฎีกาควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า บางอย่าง (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2482 มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเครื่องขยายเสียงออกนอกราชอาณาจักรเพื่อเช่า ไม่ใช่การส่งออกสินค้าต้องขออนุญาต
จำเลยได้นำเครื่องขยายเสียงและสิ่งอุปกรณ์ซึ่งเป็นของจำเลยมีไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2496 สำหรับรับจ้างโฆษณาในงานต่างๆ ออกไปนอกราชอาณาจักรสู่ประเทศลาว เพื่อให้วัดผาหดซึ่งอยู่ในประเทศลาวคนละฝั่งแม่น้ำโขงกับจังหวัดเลยเช่าเมื่อเดือนมิถุนายน 2500 ต่อมาเครื่องชำรุดระหว่างงาน จำเลยจึงได้ขายเครื่องนี้ให้แก่วัดผาหดไปในราคา 6,200 บาทโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบ เพื่อการนำออกนอกราชอาณาจักร ดังนี้ มิใช่เป็นเรื่องจำเลยได้นำเครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้ไปในฐานะสินค้าเพื่อเสนอขายแต่เป็นเรื่องที่จำเลยมีเครื่องขยายเสียงไว้สำหรับให้เช่าใช้โฆษณาในงานของวัดผาหดแล้วจะนำกลับเข้ามาแต่ในระหว่างงานเครื่องได้เกิดชำรุด จำเลยจึงขายให้แก่วัดผาหดไป ตามพฤติการณ์ ดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าเครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้เป็นสินค้าตามความหมายแห่งพระราชกฤษฎีกาควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าบางอย่าง (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2492 มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษีการค้าจากเงินทดรองจ่ายค่าภาษีส่งออก: เงินชดใช้คืนไม่ใช่รายรับจากการค้า
เงินค่าภาษีอากรขายข้าวส่งไปขายต่างประเทศเป็นหน้าที่ของผู้ส่งออกจะต้องเสียเงินค่าภาษีอากร
โจทก์ขายข้าวให้สำนักงานข้าวเพื่อส่งออกไปขายต่างประเทศการที่โจทก์ได้ออกเงินค่าภาษีทดรองให้สำนักงานข้าวไปก่อน และได้รับชดใช้คืนในภายหลังนั้น เงินจำนวนนี้ไม่ถือว่า เป็นรายรับที่ได้รับจากการค้า อันจะต้องคำนวณเสียภาษีการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามส่งออกข้าวสารเหนียวออกนอกราชอาณาจักร แม้ยังไม่ถึงกลางแม่น้ำโขง
จำเลยมีเจตนาจะขนข้าวสารเหนียวออกนอกราชอาณาจักร แต่ถูกจับขณะเรือยังเทียบท่าริมแม่น้ำโขงอยู่ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าคั่นความผิดฐานพยายามแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เกณฑ์การพิจารณาความผิดฐานพยายามส่งสินค้าต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร: ระยะทางไม่ใช่ข้อชี้ขาด
ความผิดฐานลักลอบนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อใดการกระทำจะพ้นขั้นตระเตรียมเข้าสู่ขั้นพยายามกระทำความผิดแล้วหรือไม่ ย่อมจะต้องพิเคราะห์ดูว่า ขณะถูกจับนั้นการกระทำอยู่ในลักษณะที่ใกล้ชิดความผิดจวนจะสำเร็จลงแล้วหรือยัง จะถือเอาระยะทางใกล้ไกลจากพรมแดนเท่าใดเป็นเกณฑ์วินิจฉัยไม่ได้
การจ่ายเงินค่าสินบนค่ารางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) มาตรา 3 นั้น ถ้าหากศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกสถานเดียวตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 ศาลก็ย่อมยกคำขอนั้นเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปรับบทหนัก พ.ร.บ.ศุลกากรและควบคุมการส่งออก-นำเข้า: ปรับตามราคาสินค้า
จำเลยกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากรและพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างซึ่งศาลให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติฉบับหลังเป็นบทหนักนั้นตามมาตรา 3 แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปฯลฯ (ฉบับที่3)2490 ศาลย่อมมีอำนาจปรับจำเลยเป็นรายตัวคนละ5 เท่าของราคาสินค้าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งออกน้ำมันพืชโดยไม่แสดงรายการและการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ศาลฎีกาพิพากษายึดของกลางไว้จนกว่าจะถูกต้องตามกฎหมาย
การส่งของชะนิดที่ไม่ต้องห้ามและไม่ต้องเสียภาษีออกนอกราชอาณาจักร์โดยไม่ได้แสดงรายการของที่ส่งและไม่หยุดให้เจ้าพนักงานตรวจ เป็นผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2480 ม. 8 และ ม. 11 แต่ไม่เป็นผิด พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 ม. 27 ของเช่นนี้ศาลให้ยึดไว้จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามกฎหมาย จะริบไม่ได้
เดิมมีพระราชกฤษฎีกาห้ามส่งน้ำมันพืชออกนอกราชอาณาจักรต่อมามีฉะบับใหม่ยกเลิกฉะบับเก่าและไม่มีข้อห้ามส่งน้ำมันพืช ดังนี้ ถือว่ามีกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อความผิดที่ศาลลงโทษไม่มีการริบทรัพย์แล้ว ก็จ่ายเงินสินบลหรือรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนของกลางให้ผู้ร้อง โจทก์ฎีกาขอให้ริบ แต่ไม่ได้บรรยายข้อที่ควรริบมาในฎีกาเลยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
of 7