พบผลลัพธ์ทั้งหมด 77 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการขอพิจารณาใหม่เนื่องจากความเจ็บป่วย โดยต้องพิสูจน์การได้รับหมายเรียกชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับหมายเรียกและสำเนาฟ้องโดยชอบแล้ว จะถือว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาไม่ได้
จำเลยเจ็บป่วยไม่สามารถยื่นคำของให้พิจารณาใหม่ได้ภายในระยะเวลา 15 วันนับจากวันที่ได้รับคำบังคับนั้น ถือได้ว่าเป็นเพราะพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ เมื่อจำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับจากจำเลยหายป่วย จึงกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
จำเลยเจ็บป่วยไม่สามารถยื่นคำของให้พิจารณาใหม่ได้ภายในระยะเวลา 15 วันนับจากวันที่ได้รับคำบังคับนั้น ถือได้ว่าเป็นเพราะพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ เมื่อจำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับจากจำเลยหายป่วย จึงกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวคดีอาญา: ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามนัด แม้ผู้ประกันไม่ได้รับหมายเรียก
ผู้ร้องทำสัญญาประกันตัวจำเลยคดีอาญาไปจากศาลมีข้อความว่า ในระหว่างประกันผู้ร้องหรือจำเลยจะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นผู้ร้องยอมใช้เงินจำนวนหนึ่ง ดังนี้ เมื่อจำเลยเซ็นทราบวันนัดของศาลแล้ว จำเลยไม่มาศาลตามนัด เพราะหลงลืมจำวันนัดผิด อันเป็นความผิดของจำเลยเอง ก็ถือได้ว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามนัดของศาล และต้องถือว่าผู้ร้องซึ่งเป็นนายประกันได้ประพฤติผิดข้อสัญญาประกันดังกล่าวแล้ว ศาลมีอำนาจที่จะสั่งบังคับตามสัญญาประกันหรือตามที่ศาลเห็นควรได้แล้ว
ในวันที่ผู้ร้องซึ่งเป็นนายประกันผิดนัด ศาลเพียงแต่มีคำสั่งว่าจำเลยและผู้ร้องผิดสัญญาประกัน กับให้หมายนัดผู้ร้องส่งตัวจำเลยใน 7 วัน ผู้ร้องและจำเลยไม่ได้มาศาลตามหมายนัด ศาลจึงสั่งปรับผู้ร้องในวันนัดถัดมา แม้ในนัดหลังนี้ผู้ร้องและจำเลยไม่มาศาล เพราะไม่ได้รับหมายนัดให้ส่งตัวจำเลย ก็ไม่เป็นการขัดขวางแก่การที่ศาล จะสั่งปรับผู้ร้อง เพราะถือได้ว่าผู้ร้องผิดสัญญาประกันมาตั้งแต่นัดแรกนั้นแล้ว
ในวันที่ผู้ร้องซึ่งเป็นนายประกันผิดนัด ศาลเพียงแต่มีคำสั่งว่าจำเลยและผู้ร้องผิดสัญญาประกัน กับให้หมายนัดผู้ร้องส่งตัวจำเลยใน 7 วัน ผู้ร้องและจำเลยไม่ได้มาศาลตามหมายนัด ศาลจึงสั่งปรับผู้ร้องในวันนัดถัดมา แม้ในนัดหลังนี้ผู้ร้องและจำเลยไม่มาศาล เพราะไม่ได้รับหมายนัดให้ส่งตัวจำเลย ก็ไม่เป็นการขัดขวางแก่การที่ศาล จะสั่งปรับผู้ร้อง เพราะถือได้ว่าผู้ร้องผิดสัญญาประกันมาตั้งแต่นัดแรกนั้นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขับไล่บริวารของจำเลย แม้จำเลยออกไปแล้ว ศาลมีอำนาจออกหมายเรียกบริวารมาสอบถามได้
ศาลพิพากษาและออกคำบังคับให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะแถลงว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว แต่ก็แถลงว่าคงเหลือแต่บริวารของจำเลย และตามสำเนาทะเบียนบ้านก็ปรากฏว่ามีชื่อผู้ร้องอยู่ในอาคารนี้ อันเป็นหลักฐานในเบื้องต้นว่าผู้ร้องอยู่ในอาคารของโจทก์ในฐานะเป็นบริวารของจำเลย โจทก์ย่อมขอและศาลมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ร้องมาสอบถามได้ ผู้ร้องจะอ้างว่าการที่ศาลหมายเรียกผู้ร้องไม่ชอบเพราะตนเป็นบุคคลนอกคดี คำบังคับที่ศาลออกบังคับแก่จำเลยมิได้บังคับรวมถึงบริวาร หรือบุคคลภายนอกด้วย และโจทก์ได้รับว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว ทำให้คำบังคับสิ้นผลไปแล้ว ดังนี้ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกจำเลยชาวต่างชาติที่มีภูมิลำเนาต่างประเทศ การส่งหมายทางหนังสือพิมพ์มีผลเฉพาะจำเลยที่มีภูมิลำเนาในไทย
การลงโฆษณาหมายเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์นั้น ย่อมมีผลเฉพาะจำเลยซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย หรือได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยชั่วคราวในระหว่างระยะเวลาที่ได้มีการลงโฆษณา
จำเลยเป็นบุคคลสัญชาติมาเลเซีย มีภูมิลำเนาอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อพนักงานสอบสวนปล่อยตัวจำเลย จำเลยกลับไปประเทศมาเลเซียก่อนศาลชั้นต้นลงโฆษณาหมายเรียกจำเลย และไม่ปรากฏว่าหลังจากนั้น จำเลยได้กลับมาในประเทศไทยอีก ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าได้มีการส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยในประเทศโดยชอบแล้ว ศาลจึงดำเนินคดีต่อไปไม่ได้
จำเลยเป็นบุคคลสัญชาติมาเลเซีย มีภูมิลำเนาอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อพนักงานสอบสวนปล่อยตัวจำเลย จำเลยกลับไปประเทศมาเลเซียก่อนศาลชั้นต้นลงโฆษณาหมายเรียกจำเลย และไม่ปรากฏว่าหลังจากนั้น จำเลยได้กลับมาในประเทศไทยอีก ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าได้มีการส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยในประเทศโดยชอบแล้ว ศาลจึงดำเนินคดีต่อไปไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลจำกัดในคดีหนี้เหนือบุคคล จำเลยต่างชาติ – ต้องส่งหมายเรียกก่อน
ในกรณีเกี่ยวกับหนี้เหนือบุคคล ถ้าจำเลยเป็นชาวต่างประเทศและอยู่ในต่างประเทศ ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยแม้มูลกรณีจะเกิดในเขตศาลไทยหรือจำเลยมีทรัพย์อยู่ในเขตศาลนั้น โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยต่อศาลไทย จนกว่าจำเลยจะได้เข้ามาในประเทศไทย และศาลจะดำเนินคดีต่อไปได้ก็ต่อเมื่อได้ส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยแล้ว
การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในเมืองต่างประเทศตามมาตรา 34 นั้น ใช้ในกรณีที่ศาลรับฟ้องของโจทก์ไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาในต่างประเทศซึ่งศาลอาจขอร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดการให้ตามความสัมพันธ์ทางการต่างประเทศได้
การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในเมืองต่างประเทศตามมาตรา 34 นั้น ใช้ในกรณีที่ศาลรับฟ้องของโจทก์ไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาในต่างประเทศซึ่งศาลอาจขอร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดการให้ตามความสัมพันธ์ทางการต่างประเทศได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีอาญาเนื่องจากความยากลำบากในการส่งหมายเรียกพยาน
คดีอาญา ในวันสืบพยานโจทก์นัดแรก โจทก์ได้ขอหมายศาลเพื่อส่งให้แก่พยานแล้วแต่พยานอยู่ไกล จึงส่งหมายให้ไม่ทัน เป็นเหตุให้ไม่มีพยานมาศาลนั้นนับว่ามีเหตุสมควรให้เลื่อนการพิจารณาไปสักครั้งหนึ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต่อศาลเกี่ยวกับหมายเรียก ส่งผลให้ชนะคดี ถือเป็นความเท็จที่สำคัญ
จำเลยได้ทราบหมายเรียกและสำเนาฟ้องของโจทก์แล้ว มาเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ทราบเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีได้ และเป็นผลให้จำเลยชนะคดีโจทก์ในที่สุดนั้น ความเท็จที่จำเลยเบิกความถือว่าเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่คู่ความในการส่งหมายเรียกพยาน และผลของการไม่ปฏิบัติตาม
กฎหมายกำหนดหน้าที่ให้คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานเป็นผู้ส่งหมายเรียกให้แก่พยาน และจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดกวดขันไม่ปล่อยตามยถากรรม ฉะนั้น เมื่อนัดแรกพยานไม่มาศาลเลย และโจทก์แถลงว่าไม่ทราบเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้เลื่อน โดยกำชับว่าถ้านัดต่อไปไม่มาโดยไม่มีเหตุสมควรอาจตัดพยาน ครั้นถึงวันนัดพยานมาศาลคนเดียว ส่วนที่ไม่มาโจทก์ว่าไม่ทราบยังไม่ได้รับรายงาน ดังนี้ ศาลตัดพยานโจทก์ ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 127/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับราชการทหาร: นายอำเภอต้องประกาศให้ทหารกองเกินไปรับหมายเรียกก่อน จึงจะมีความผิด
ตาม พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา25 นายอำเภอต้องประกาศให้ไปรับหมายเรียกที่อำเภอ ถ้าฟ้องไม่บรรยายความข้อนี้จำเลยรับสารภาพ ก็ลงโทษไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกจำเลยคดีอาญา: การที่จำเลยไม่ได้หลบหนี ย่อมไม่ออกหมายจับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย 40 บาท จำเลยชำระค่าปรับครบแล้ว อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา แต่ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ไหน มิใช่ว่าจำเลยพยายามจะหลบตัว ไม่รับสำเนาฎีกาของโจทก์หรือตั้งใจจะหลบหนีคดี ดังนี้ ศาลย่อมไม่ออกหมายจับจำเลย