พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายอำนาจตัวแทนต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ สัญญาประนีประนอมยอมความจะผูกพันได้เมื่อตัวแทนมีอำนาจ
พนักงานบริษัทจำเลยอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยให้มาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับโจทก์ และได้ทำข้อตกลงกับ โจทก์ในเรื่องค่าเสียหายที่บริษัทจำเลยจะชดใช้ให้โจทก์ ดังนี้พนักงานบริษัทจำเลยผู้นั้นอาจเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยได้โดยผลของการให้สัตยาบัน แต่บริษัทจำเลยมิได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำของพนักงานบริษัทจำเลยดังกล่าว บริษัทจำเลยจึงใช้เอกสารข้อตกลงดังกล่าวมาผูกมัดโจทก์หาได้ไม่
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์ แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์ แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือและการเปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่า ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน
ห้องเช่ารายพิพาทอยู่ในทำเลการค้า จำเลยเช่าห้องดังกล่าวจากเจ้าของเดิม ทำการค้าขายกาแฟ ต่อมาโจทก์ซื้อห้องนั้นจากเจ้าของเดิม จำเลยผู้เช่าห้องนั้นจึงได้เช่าจากโจทก์ต่อมา และคงทำการค้าขายกาแฟดังเดิมอีก 1 ปี แล้วจำเลยหยุดไม่ขายกาแฟคงได้แต่อยู่อาศัย การที่จำเลยหยุดทำการค้าคงอยู่อาศัยต่อมานั้น เป็นการเปลี่ยนเจตนาของฝ่ายจำเลยผู้เช่าแต่เพียงฝ่ายเดียว โจทก์ไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย การที่จำเลยเช่าห้องอยู่ต่อมานั้นจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504
จำเลยเช่าห้องพิพาทโดยไม่มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือ เมื่อการเช่านั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ กรณีก็ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 538 กล่าวคือ จะฟ้องร้องให้ศาลรับบังคับคดีเกี่ยวกับการเช่าให้ไม่ได้
จำเลยเช่าห้องพิพาทโดยไม่มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือ เมื่อการเช่านั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ กรณีก็ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 538 กล่าวคือ จะฟ้องร้องให้ศาลรับบังคับคดีเกี่ยวกับการเช่าให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หากไม่มีจะนำสืบพยานบุคคลไม่ได้
มารดาตาย โจทก์จำเลยได้รับโอนมรดกที่พิพาทร่วมกัน ต่อมาได้ตกลงแบ่งแยกกันครอบครอง ถือว่าเป็นการตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทซึ่งจะมีขึ้นให้เสร็จไป เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 850 แต่เมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851 จะนำพยานบุคคลมาสืบหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 โดยมีคำพิพากษาฎีกาที่ 530/2496 และ 1420/2510
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาทโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทำให้สิทธิเรียกร้องทางศาลและทางอาญาไม่สมบูรณ์
ผู้เสียหายให้จำเลยกู้ยืมเงิน 10,000 บาท โดยจำเลยมิได้ทำหลักฐานแห่งการกู้เป็นหนังสือให้ไว้นั้น เป็นการยืมเงินเกิน 50 บาท โดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทำให้สิทธิเรียกร้องทางศาลเป็นอันตกไป
ผู้เสียหายให้จำเลยกู้ยืมเงิน 10,000 บาท โดยจำเลยมิได้ทำหลักฐานแห่งการกู้เป็นหนังสือให้ไว้นั้น เป็นการยืมเงินเกิน 50 บาท โดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาทโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทำให้สิทธิเรียกร้องทางศาลและอาญาไม่สามารถใช้บังคับได้
ผู้เสียหายให้จำเลยกู้ยืมเงิน 10,000 บาท. โดยจำเลยมิได้ทำหลักฐานแห่งการกู้เป็นหนังสือให้ไว้นั้น. เป็นการยืมเงินเกิน 50 บาท. โดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ. ซึ่งต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653.
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350.
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิในการอ้างเงื่อนเวลาทำไม่ได้ คดีขับไล่ผู้ละเมิดอุทธรณ์ฎีกาได้
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่า. ผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่.
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์. ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย.
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์. จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511).
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์. ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย.
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์. จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงลดหนี้และการคืนเช็ค ถือเป็นการประนีประนอมยอมความ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องบังคับคดีได้
ผู้ทรงเช็คชอบที่จะเรียกให้ผู้สั่งจ่ายชำระหนี้เต็มจำนวนตามเช็คได้ การที่ผู้ทรงและผู้สั่งจ่ายตกลงกัน โดยผู้ทรงยอมให้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และผู้ทรงยอมคืนเช็คให้ผู้สั่งจ่าย จึงเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นการประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืม ต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงินเต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไป ด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืม ต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงินเต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไป ด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงลดหนี้และการคืนเช็คถือเป็นการประนีประนอมยอมความ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องบังคับคดีได้
ผู้ทรงเช็คชอบที่จะเรียกให้ผู้สั่งจ่ายชำระหนี้เต็มจำนวนตามเช็คได้ การที่ผู้ทรงและผู้สั่งจ่ายตกลงกัน โดยผู้ทรงยอมให้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และผู้ทรงยอมคืนเช็คให้ผู้สั่งจ่าย จึงเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอันเป็น การประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืมต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย เป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงิน เต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไปด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตาม สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐาน เป็นหนังสือก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ออกเช็คให้จำเลยเพื่อชำระหนี้เงินยืมต่อมาโจทก์ไม่มีเงินพอชำระหนี้ โจทก์กับจำเลยตกลงกันลดหนี้ให้โจทก์ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ชำระหนี้เพียงบางส่วน และจำเลยจะคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์ชำระหนี้ตามที่ตกลงแต่จำเลยไม่คืนเช็คให้จึงขอบังคับให้จำเลยคืนเช็ค ดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย เป็นการประนอมหนี้ อันเป็นการระงับข้อพิพาทที่จะเรียกร้องเงิน เต็มจำนวนตามเช็คให้เสร็จสิ้นไปด้วยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ซึ่งเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เมื่อสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและ คำขอบังคับตามฟ้องเป็นเรื่องขอให้บังคับจำเลยคืนเช็คให้ตาม สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีหลักฐาน เป็นหนังสือก็จะฟ้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231-1232/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุตรบุญธรรมที่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดก และสัญญาประนีประนอมต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
บุตรบุญธรรมที่มิได้มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม
พูดยกที่พิพาทให้ โดยเป็นเรื่องที่สั่งเผื่อไว้เมื่อผู้พูดถึงแก่กรรมแล้ว มิได้ยกให้ในขณะนั้น ถือว่าเป็นพินัยกรรม ถ้าไม่ได้ทำเป็นพินัยกรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตกลงยอมแบ่งที่พิพาทกัน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญา ย่อมไม่มีผลที่บังคับกันได้ตามกฎหมาย
พูดยกที่พิพาทให้ โดยเป็นเรื่องที่สั่งเผื่อไว้เมื่อผู้พูดถึงแก่กรรมแล้ว มิได้ยกให้ในขณะนั้น ถือว่าเป็นพินัยกรรม ถ้าไม่ได้ทำเป็นพินัยกรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตกลงยอมแบ่งที่พิพาทกัน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญา ย่อมไม่มีผลที่บังคับกันได้ตามกฎหมาย