คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบิกความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือพยาน การเบิกความไม่ตรงกันในชั้นสอบสวนและศาล ศาลฎีกาพิจารณาจากเหตุผลประกอบ
ประจักษ์พยานโจทก์ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งเมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้พยานดูตัว พยานก็ยืนยันอีกว่าจำเลยเป็นคนร้ายและลงชื่อไว้ในบันทึกการจับกุม แต่มาชั้นศาล พยานกลับเบิกความบ่ายเบี่ยงไปว่า ตอนพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้ดูนั้น พยานดูแล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า จำเลยคล้าย ๆ คนร้าย เห็นได้ชัดว่าพยานเบิกความชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลย คำเบิกความของพยานในชั้นศาลน่าจะไม่เป็นความจริง ส่วนคำยืนยันและคำให้การชั้นสอบสวนของพยานนั้นโจทก์มีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่า ชั้นสอบสวนพยานได้ยืนยันและให้การดังกล่าว น่าจะเป็นความจริงและรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความแทนจำเลย: ศาลไม่รับฟังคำเบิกความของผู้รับมอบอำนาจ เหตุเป็นกิจเฉพาะตัวของจำเลย
การเบิกความต่อศาลเป็นกิจเฉพาะตัว โดยสภาพไม่อาจตั้งให้ผู้อื่นทำแทนได้
ตามบัญชีพยานระบุว่าจำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมิได้ระบุ ส. เป็นพยานดังนี้แม้ปรากฏว่า ส. ได้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ยื่นคำให้การและเบิกความแทนจำเลยและศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยนำ ส. เข้าเบิกความศาลก็จะรับฟังคำเบิกความของ ส. เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2), 88

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเอกสารประกอบคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ไม่ถือเป็นการสืบพยานขัดต่อมาตรา 165 วรรคสอง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องทนายจำเลยถามค้านโจทก์ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานถึงการที่โจทก์ซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 โจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากบริษัท ส. จำกัด และต่อมาโจทก์นำเช็คธนาคาร ท. จำกัดไปแลกเปลี่ยนกับเช็คหมาย ล.1 และ ล.2 โดยเอาเอกสารที่เกี่ยวข้องให้โจทก์ดูและโจทก์รับรองว่าถูกต้อง ดังนี้ เอกสารดังกล่าวมิใช่เป็นพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง หากแต่เป็นเอกสารที่โจทก์เบิกความถึงและทนายจำเลยนำส่งศาลเพื่อประกอบถ้อยคำของโจทก์ให้ปรากฏรายละเอียดชัดเจนขึ้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยนำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง และการเบิกความพยานซ้ำ
คดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 (1) ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่า บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 009 ไม่มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของบัญชี โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องให้แจ้งชัดว่าโจทก์ได้เปิดบัญชีนั้นโดยใช้นามอื่น เชื่อไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏทางพิจารณา ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างตนเองเป็นพยานแล้ว เมื่อโจทก์ขออนุญาตเบิกความเป็นครั้งที่สอง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมอีก การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เบิกความเป็นพยานเพิ่มเติมอีกครั้ง เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะอนุญาตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228 คำเบิกความของโจทก์ครั้งที่สองจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3130/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยาน จำเลยต้องระบุชื่อตนเองในบัญชีหากต้องการเบิกความ
จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน จำเลยอ้างตัวเองเป็นพยานเข้าสืบไม่ได้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยเป็นคู่ความ ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุอ้างตนเองเป็นพยานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าสืบพยานเป็นข้อแพ้ชนะใช้บังคับได้ การอ้างพยานเบิกความไม่สุจริตหลังเบิกความแล้วฟังไม่ได้
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันขอให้สืบ ส.เป็นพยานหากส. เบิกความเจือสมฝ่ายใด ให้ฝ่ายนั้นชนะคดี ดังนี้ คำท้าของโจทก์จำเลยจึงเป็นคำท้าที่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาท ใช้บังคับได้ เมื่อ ส. เบิกความเจือสมฝ่ายโจทก์โจทก์ก็เป็นฝ่ายชนะคดีตามคำท้า จำเลยจะกลับมายื่นคำร้องอ้างว่า ส. เบิกความโดยไม่สุจริต ขอให้ศาลไต่สวนและเพิกถอนคำท้าภายหลังที่ ส. ได้เบิกความต่อศาลไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลให้รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการเบิกความ แม้ขาดนัดยื่นคำให้การ และผลของการไม่โต้แย้งคำสั่งศาล
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสองบัญญัติให้สิทธิจำเลยที่จะสาบานตนเข้าเบิกความเป็นพยานได้ แม้จะขาดนัดยื่นคำให้การ แต่เมื่อจำเลยไม่ได้ขอใช้สิทธินั้น และเมื่อศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ คดีเสร็จสำนวน นัดฟังคำพิพากษาจำเลยก็ไม่โต้แย้งคำสั่งนี้อันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามอุทธรณ์
ฎีกาของจำเลยที่ว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยเหตุผลและหลักแห่งความยุติธรรม มิได้ยกขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้งว่าไม่ชอบด้วยเหตุผลและหลักความยุติธรรมในข้อใดอย่างไรหรือเพราะเหตุผลอย่างใด ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1937/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานที่สอดคล้องกันและการเบิกความที่ไม่น่าเชื่อถือของพยาน
ยิง 4-5 นัด เจตนาฆ่า ก. กระสุนถูก ก. ตาย ถูก ส. อันตรายสาหัส เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 กับมาตรา 288,80 อีกบทหนึ่งคำพิพากษาต้องอ้างความผิดทั้ง 2 บท ให้ลงโทษตาม มาตรา 288 บทหนัก
คำให้การชั้นสอบสวนของพยานโจทก์ที่ได้ตัวมาเบิกความ และที่ไม่ได้ตัวมาเบิกความเพราะติดตามตัวไม่พบ ระบุชื่อผู้ยิงว่านายประทีป สุขเกษม มาในชั้นศาลพยานโจทก์ว่าคนยิงไม่ใช่จำเลย แต่เป็นคนในร้านตัดเสื้อที่ชื่อประทีป แต่ไม่ทราบนามสกุล ศาลรับฟังได้ว่านายประทีป สุขเกษม จำเลยคือผู้ยิงตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเห็นผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้ง – รับฟังได้แม้ไม่เบิกความ
ผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้งทำความเห็นเป็นหนังสือ แม้ไม่ได้มาเบิกความต่อศาล ก็อาจรับฟังความเห็นนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเบิกความในฐานะพยานไม่ใช่หน้าที่โดยตรงตามกฎหมาย การรับสินบนเพื่อเบิกความเท็จจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143
การปฏิบัติการของเจ้าพนักงานคนหนึ่งคนใดจะเป็นการกระทำในหน้าที่หรือไม่ ย่อมเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดอำนาจและหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือตามระเบียบหรือคำสั่งของทางราชการ
เจ้าพนักงานตำรวจย่อมมีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดส่วนการฟ้องร้องผู้กระทำความผิดหรือไม่ย่อมอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ และการที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมจะต้องไปเบิกความเป็นพยานหรือไม่ ย่อมอยู่ในดุลพินิจของพนักงานอัยการและศาล มิใช่ว่าเมื่อตำรวจคนใดได้จับผู้กระทำความผิดแล้วจะต้องไปเบิกความเป็นพยานต่อศาลเสมอไปจนถือว่าเป็นหน้าที่
การที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมผู้กระทำความผิดมีหน้าที่ต้องเบิกความต่อศาลตามความสัจจริงในฐานะเป็นพยานในคดีที่ผู้กระทำความผิดถูกฟ้องนั้น เป็นหน้าที่อย่างเดียวกับประชาชนทั่วๆ ไป หาใช่เป็นหน้าที่โดยตรงอันสืบเนื่องมาจากการที่เป็นเจ้าพนักงานผู้จับกุมผู้กระทำความผิดไม่ หน้าที่ที่ต้องเบิกความตามความสัจจริง จึงไม่เป็นการกระทำการในหน้าที่ของเจ้าพนักงานโดยเฉพาะแม้จำเลยจะเรียกและรับเงินจากผู้อื่นเพื่อจูงใจเจ้าพนักงานดังกล่าวให้เบิกความผิดไปจากความจริง ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143
of 10