คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพลิงไหม้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 63 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300-1315/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากรถไฟชำรุด: ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่รถไฟทำให้เกิดเพลิงไหม้ แม้จะอ้าง พ.ร.บ.รถไฟ ก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาศาลไม่อนุญาตสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ แม้โจทก์จะไม่นำเงินมาชำระภายในกำหนด ต่อมาภายหลังโจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องได้ภายในกำหนดอายุความ
การที่กรมรถไฟใช้รถจักรเก่าจูงลากรถจนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้เสมอๆ โดยมิได้ป้องกันแต่อย่างใดนั้น กรมรถไฟจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติจัดการวางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464มาตรา 48 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผาไร่อ้อยประมาทเลินเล่อทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนผู้อื่น ความรับผิดทางอาญามาตรา 201
จำเลยจุดเผาไร่อ้อยของจำเลย แม้ไร่อ้อยจะอยู่ห่างเรือนผู้เสียหายเพียง 5 วา แต่ก็มีต้นมะพร้าวคั่นอยู่ 2 แถว และในการจุดเผา จำเลยก็มีพวกมาควบคุมดูแลอยู่หลายคน ทั้งขณะจุดเผา ลมก็ไม่แรง ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการจุดเผาทรัพย์โดยลักษณะอันน่ากลัวจะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่นตามมาตรา 187 ตามที่แก้ไขใหม่
แต่ในระหว่างจุดเผาไร่อ้อยอยู่นั้น มีชะมดหนีออกมาจากไร่อ้อย จำเลยกับพวกจึงละทิ้งไปไล่ชะมดเสีย ไม่คอยระวังดูแลประกอบกับมีลมพัดไปทางเรือนผู้เสียหาย จึงเป็นเหตุให้ไฟไหม้ลุกลามไปไหม้เรือนผู้เสียหายดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดฐานประมาทตามมาตรา 201

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43-44/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุเพลิงไหม้ทำลายทรัพย์สินทำให้คดีสิ้นสุด ศาลยกฎีกาไม่ต้องชี้ขาดค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าของโจทก์ และเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยระหว่างจำเลยฎีกา ไฟไหม้ตึกเช่ารายพิพาทหมดสิ้น ดังนี้เมื่อปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่า ซึ่งจำเลยจำต้องใช้ให้โจทก์จนเกิดเพลิงไหม้ เมื่อตึกเช่าหมดสิ้นไปจำเลยก็ไม่จำต้องใช้ค่าเสียหายภายหลังจากเพลิงไหม้อีก ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะชี้ขาดคดีต่อไป ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43-44/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุเพลิงไหม้ทำให้คดีเช่าสิ้นสุด ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากไม่มีประโยชน์ในการพิจารณาต่อไป
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าของโจทก์ และเรียกค่าเสียหายศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยระหว่างจำเลยฎีกา ไฟไหม้ตึกเช่ารายพิพาทหมดสิ้น ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่าซึ่งจำเลยจำต้องใช้ให้โจทก์จนเกิดเพลิงไหม้ เมื่อตึกเช่าหมดสิ้นไปจำเลยก็ไม่จำต้องใช้ค่าเสียหายภายหลังจากเพลิงไหม้อีก ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะชี้ขาดคดีต่อไปศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เช่ามีหน้าที่สืบแสดงเหตุเพลิงไหม้จากบ้านเช่า หากสืบไม่ได้ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
เกิดไฟไหม้บ้านเช่าในขณะที่ผู้เช่าเป็นผู้ครอบครอง ในฐานะเป็นผู้เช่านั้น แม้ผู้ให้เช่าจะสืบไม่ได้ความชัดว่า ไฟเกิดขึ้นด้วยเหตุใดหรือใครทำให้เกิดขึ้นก็ดี เมื่อได้ความว่าไฟเกิดขึ้นจากบ้านที่เช่า ไม่ใช่เกิดขึ้นที่อื่นแล้วลุกลามมาไหม้บ้านเช่าแล้วผู้เช่าก็ย่อมมีหน้าที่สืบแสดงข้อแก้ตัวเพื่อให้พ้นความรับผิด ถ้าสืบไม่ได้ก็ไม่พ้นความรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานวางเพลิงเผาทำลายทรัพย์สิน แม้เพลิงไม่ลุกลามแต่ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย
จุดเพลิงเผาหลังคาเรือนแต่ดับเสียทันจึงยังไม่ทันลุกลามไปไหม้บ้านเรือนใกล้เคียงคงไหม้ แต่จาก++ราคา 4 สคางค์มีผิดตามกฎหมายข้างบน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบเมื่อกล่าวอ้างความผิดของผู้อื่น: ผู้กล่าวอ้างมีหน้าที่นำสืบก่อน เว้นแต่กฎหมายบัญญัติ
ลักษณพะยาน หน้าที่นำสืบ ผู้ใดเป็นผู้กล่าวอ้างขึ้น ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องนำสืบก่อนเว้นไว้แต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เกิดเพลิงไหม้ที่บ้านเช่า เมื่อผู้ให้เช่าเรียกค่าเสียหายจากผู้เช่าโดยกล่าวว่าเกิดเพลิงใหม้เพราะผู้เช่าหรือคนของผู้เช่านั้น เป็นหน้าที่ผู้ให้เช่านำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2475

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินผู้อื่น แม้มีการป้องกันเบื้องต้น
ก่อนจุดไฟจำเลยได้ทำการป้องกัน แต่ไฟยังลามไปไหม้ทรัพย์ของคนอื่นมีผิดตาม ม. 201

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เพลิงไหม้ลุกลามจากบ้านจำเลย โจทก์พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากจำเลย จำเลยต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าต้นเพลิงเกิดจากบ้านของจำเลยแล้วไฟไหม้ลุกลามไปไหม้บ้านของโจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงได้รับประโยชน์จากข้อกฎหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84/1 โดยกรณีนี้ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ต้นเพลิงเกิดจากบ้านของจำเลยแล้วไฟไหม้ลุกลามไปไหม้บ้านของโจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดชอบเพราะถือว่าเป็นข้อสันนิษฐานที่ควรจะเป็นซึ่งปรากฏจากสภาพปกติธรรมดาของเหตุการณ์เป็นคุณแก่โจทก์ จำเลยมีหน้าที่ต้องพิสูจน์เพื่อหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8565-8566/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากเหตุเพลิงไหม้ในสถานบันเทิง และการกำหนดค่าสินไหมทดแทนสำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
แม้จำเลยที่ 6 จะเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด แต่เมื่อจำเลยที่ 6 มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการจัดระบบแสง สี เสียง ภาพ ประกอบการแสดง เวทีการแสดงต่าง ๆ การที่จำเลยที่ 7 ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 6 รับจ้างติดตั้งดอกไม้เพลิงในการทำฉากเอฟเฟกต์ในร้านเกิดเหตุตามขอบแห่งวัตถุประสงค์ ย่อมต้องถือว่าเป็นการกระทำของจำเลยที่ 6 เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 7 เป็นความผิดอาญา แม้จะเป็นการกระทำโดยประมาท จำเลยที่ 6 ก็ต้องรับโทษทางอาญาด้วยเช่นกัน
จำเลยที่ 1 แก้ฎีกาว่า โจทก์บรรยายฟ้องในส่วนของจำเลยที่ 1 ขัดแย้งกัน เป็นไปไม่ได้เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 จึงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามคำแก้ฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่า ฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 หรือไม่
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า บริษัท ว. เป็นนิติบุคคล มี ส. เป็นกรรมการผู้แทนนิติบุคคลตามกฎหมาย และมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้บริหารดำเนินกิจการตามความเป็นจริง เท่ากับโจทก์ยืนยันว่าบริษัทได้เชิด ส. ออกแสดงเป็นผู้แทนของตน แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้มีชื่อเป็นผู้แทนตามหนังสือรับรองแต่ก็เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทโดยผ่านทาง ส. นั่นเอง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1167 ที่กำหนดให้ความเกี่ยวพันในระหว่างกรรมการและบริษัทและบุคคลภายนอกนั้น ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน คำฟ้องโจทก์จึงไม่ขัดแย้งกันหรือเป็นไปไม่ได้ดังคำแก้ฎีกาของจำเลยที่ 1 หากแต่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 แล้ว
of 7