คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เมทแอมเฟตามีน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 170 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6970/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปรับบทความผิดจาก พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ฯ เป็น พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ เมื่อเมทแอมเฟตามีนถูกระบุเป็นยาเสพติดให้โทษ
การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดเพื่อขายอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 แต่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 135 (พ.ศ. 2539) กำหนดให้เมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ดังนั้นการที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นการกระทำความผิดในวาระเดียวกัน และถูกจับได้พร้อมกัน แม้วัตถุ แห่งการกระทำต่างชนิดกัน แต่เมื่อเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดต่อบทกฎหมายมาตราเดียวกันเป็นการกระทำกรรมเดียว ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขาย จึงต้องปรับบทความผิดตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง เช่นเดียวกับความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยตาม ป.อ. มาตรา 3 วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานมี เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด เมื่อเมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 1 แล้ว แต่ไม่ถึง 20 กรัม จึงเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 67 ไม่เป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดอีกต่อไป เนื่องจากเมทแอมเฟตามีนเป็นจำนวนเดียวกันกับมีไว้ในครอบครองเพื่อขาย ซึ่งต้องปรับบทความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับบท ลงโทษมาตรา 67 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก และการริบเมทแอมเฟตามีนก็ไม่อาจริบให้แก่กระทรวงสาธารณสุขได้เพราะ ไม่ได้ลงโทษตามาตรา 89 แห่ง พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 จึงต้องริบตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5282/2543 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อจำหน่าย จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานอื่นนอกเหนือจากปริมาณยาเสพติด
ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิต ดังนั้น แม้จำเลยที่ 3 จะให้การรับสารภาพ ศาลจะต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยที่ 3 ผิดจริง ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 176 วรรคหนึ่งเว้นแต่ของกลางจะมีจำนวนตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ให้ถือว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย
ของกลางในคดีนี้คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้หนัก 11.4 กรัมไม่ถึง 20 กรัม ไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15 วรรคสอง โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบให้ได้ความจริง
พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาจำเลยทั้งสามว่ามียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเนื่องจากของกลางมีจำนวนมาก แต่ไม่มีพฤติการณ์อื่นใดอีก เช่น มีการล่อซื้อ หรือมีพยานยืนยันว่าเคยซื้อหรือเคยล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยทั้งสาม และตามทางนำสืบโจทก์รับฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 จะมิได้ฎีกาเรื่องนี้ขึ้นมาโดยตรงและจำเลยที่ 3 ฎีกาแต่เฉพาะขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3สถานเบา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
เมื่อศาลฎีกาจะต้องกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสม จึงไม่ต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยว่าสมควรลดโทษให้จำเลยอีกหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4935/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ศาลลดโทษจำคุกและริบของกลางตามกฎหมายวัตถุออกฤทธิ์
โจทก์ฟ้องและมีคำขอให้ริบของกลาง ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 89 จึงต้องริบวัตถุออกฤทธิ์ของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายหรือจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่เห็นสมควรตามมาตรา 116

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4579/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายและจำหน่ายยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีเจตนาเพื่อขาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 มีอาวุธปืนพกออโตเมติก บราวนิ่งขนาด .32 (7.65 มม.) เครื่องหมายเลขประจำปืนถูกขูดลูบแก้ไขไม่อาจยืนยันได้ว่าเลขหมายเดิมคืออะไร 1 กระบอก และมีซองบรรจุกระสุน 1 ซอง กระสุนปืนขนาดเดียวกัน 6 นัด ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และจำเลยที่ 2 ได้พาอาวุธปืนดังกล่าวไปในเมือง หมู่บ้าน ตามถนน ซึ่งเป็นทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72 และ 72 ทวิแต่โจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตาม ป.อ.มาตรา 371 ด้วย ศาลจะยกมาตราดังกล่าวมาปรับบทลงโทษไม่ได้ เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
จำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีน 1,650 เม็ด หนัก 144.375 กรัมคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 13.976 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนจับกุมจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชุดสืบสวนจับกุมของตำรวจได้จับกุมผู้ค้าเมทแอมเฟตามีน5 คน และสอบสวนขยายผลได้ความว่า ยังมีผู้ลักลอบค้าอยู่อีก จึงได้ให้ผู้ต้องหาคนหนึ่งพาไปห้องเกิดเหตุโดยผู้ต้องหาบอกว่าเป็นห้องของจำเลยที่ 1 เจ้าพนักงานตำรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางตามที่ผู้ต้องหาบอก เมทแอมเฟตามีนของกลางในคดีนี้พบอยู่บนตู้เสื้อผ้าของจำเลยที่ 1 และก่อนที่จะถูกจับจำเลยที่ 2 ยังได้มอบเมทแอมเฟตามีนให้ผู้ต้องหานำไปส่งให้ลูกค้ามาแล้ว ทั้งจำเลยที่ 1 ก็ถูกจับกุมพร้อมกับจำเลยที่ 2 พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจด้วยกับการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4579/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดร่วมกันครอบครองเมทแอมเฟตามีนเพื่อขาย และการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยที่ 1 เข้าสู่การกระทำความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 มีอาวุธปืนพกออโตเมติกบราวนิ่งขนาด .32(7.65 มม.) เครื่องหมายเลขประจำปืนถูกขูดลูบแก้ไขไม่อาจยืนยันได้ว่าเลขหมายเดิมคืออะไร 1 กระบอก และมีซองบรรจุกระสุน 1 ซอง กระสุนปืนขนาดเดียวกัน 6 นัด ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และจำเลยที่ 2 ได้พาอาวุธปืนดังกล่าวไปในเมืองหมู่บ้าน ตามถนน ซึ่งเป็นทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72 และ 72 ทวิแต่โจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ด้วย ศาลจะยกมาตราดังกล่าวมาปรับบทลงโทษไม่ได้เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
จำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีน 1,650 เม็ด หนัก 144.375 กรัมคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 13.976 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนจับกุมจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชุดสืบสวนจับกุมของตำรวจได้จับกุมผู้ค้าเมทแอมเฟตามีน 5 คน และสอบสวนขยายผลได้ความว่า ยังมีผู้ลักลอบค้าอยู่อีก จึงได้ให้ผู้ต้องหาคนหนึ่งพาไปห้องเกิดเหตุโดยผู้ต้องหาบอกว่าเป็นห้องของจำเลยที่ 1เจ้าพนักงานตำรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางตามที่ผู้ต้องหาบอกเมทแอมเฟตามีนของกลางในคดีนี้พบอยู่บนตู้เสื้อผ้าของจำเลยที่ 1 และก่อนที่จะถูกจับจำเลยที่ 2 ยังได้มอบเมทแอมเฟตามีนให้ผู้ต้องหานำไปส่งให้ลูกค้ามาแล้ว ทั้งจำเลยที่ 1 ก็ถูกจับกุมพร้อมกับจำเลยที่ 2พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจด้วยกับการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4541/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามขายเมทแอมเฟตามีน - การกระทำไม่สำเร็จบริบูรณ์ - ความผิดฐานพยายามและครอบครอง
การที่จำเลยที่ 2 รับเงินของกลางจากสายลับที่มาล่อซื้อเมทแอมเฟตามีน แล้วติดต่อให้จำเลยที่ 1 ซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง 5 เม็ดมายังหอพักที่เกิดเหตุ โดยเดินทางมาถึงพร้อมกัน พฤติการณ์ดังกล่าวจึงบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันขายเมทแอมเฟตามีนแก่สายลับ แต่การที่จำเลยที่ 2 ตกลงขายเมทแอมเฟตามีนและรับเงินจำนวน 200 บาท ที่สายลับนำมาล่อซื้อเก็บไว้ แล้วติดต่อให้จำเลยที่ 1 นำเมทแอมเฟตามีนมาส่งมอบแก่สายลับ และถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมเสียก่อนที่จะมีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนกัน การซื้อขายเมทแอมเฟตามีนระหว่างจำเลยทั้งสองจึงไม่สำเร็จบริบูรณ์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีนและฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4541/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามขายเมทแอมเฟตามีนและมีไว้ในครอบครอง ศาลฎีกายืนโทษฐานร้ายแรงต่อสังคม
จำเลยที่ 2 รับธนบัตรจากสายลับที่มาล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนแล้วติดต่อให้จำเลยที่ 1 ซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง 5 เม็ดมายังหอพักที่เกิดเหตุ โดยเดินทางมาถึงพร้อมกัน พฤติการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันขายเมทแอมเฟตามีนแก่สายลับโดย จำเลยที่ 2 ตกลงขายและรับเงิน แล้วติดต่อให้จำเลยที่ 1 นำ เมทแอมเฟตามีนมาส่งมอบแก่สายลับ เมื่อจำเลยทั้งสองมาถึงบริเวณหน้าหอพัก เจ้าพนักงานตำรวจเข้าแสดงตัวและจับกุม การซื้อขายเมทแอมเฟตามีนระหว่างจำเลยทั้งสองกับสายลับจึงไม่สำเร็จบริบูรณ์ เป็นความผิดฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลาง และฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
การกระทำผิดฐานขายเมทแอมเฟตามีน เป็นความผิดร้ายแรงด้วยส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสื่อมโทรมของสังคม บ่อนทำลายสถาบันครอบครัวและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติเป็นภัยร้ายแรงที่แพร่ระบาดในหมู่เยาวชนที่อยู่ในวัยศึกษายากแก่การปราบปรามแก้ไข จำเลยทั้งสองเป็นนักศึกษา ย่อมรู้ถึงพิษภัยร้ายแรงดังกล่าว แต่กลับร่วมกระทำผิดในลักษณะที่ช่วยให้เมทแอมเฟตามีนแพร่กระจายเข้าไปในกลุ่มนักศึกษาและหอพักนักศึกษาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงไม่มีเหตุอันควรแก่การปรานี ที่ศาลล่างทั้งสองไม่รอการลงโทษเหมาะสมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน: เจตนา, พฤติการณ์, และการแบ่งหน้าที่
สิบตำรวจตรี ว. ได้เจรจาตกลงซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของกลางจากจำเลยที่ 2 ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุและนัดสถานที่ส่งมอบในวันรุ่งขึ้น ต่อมาสิบตำรวจตรี ว. กับสายลับได้มาพบจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ยังทำหน้าที่ประสานงานติดต่อโดยขับรถพาไปพบจำเลยที่ 1 และ ช. เพื่อจะไปเอาของกลาง โดยให้ ช. พาสิบตำรวจตรี ว. กับสายลับไปที่ทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง จากนั้นจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์นำของกลางมามอบให้สิบตำรวจตรี ว. เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าจับกุมได้เมทแอมเฟตามีนของกลางส่วนหนึ่ง และติดตามจับจำเลยที่ 2 ได้โดยพบเมทแอมเฟตามีนจากกระเป๋าสะพายของจำเลยที่ 2 อีกจำนวนหนึ่ง ตามพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ 2มิใช่เป็นเพียงคนกลางติดต่อซื้อขายเมทแอมเฟตามีนเท่านั้น แต่ยังร่วมกับจำเลยที่ 1 และ ช. จัดหาเมทแอมเฟตามีนจำนวนที่ตกลงกันไว้ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อยู่ด้วยในขณะส่งมอบเมทแอมเฟตามีนก็ตาม การกระทำของจำเลยที่ 2 ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานขายเมทแอมเฟตามีน ร่วมกันกระทำผิด แบ่งหน้าที่ชัดเจน พยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิด
เจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าจับกุมจำเลยที่ 1 หลังจากที่ให้สายลับล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน 1 เม็ด จากจำเลยที่ 1 เมื่อเข้าตรวจค้นบ้านจำเลยที่ 1 พบจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกนั่งตัดหลอดพลาสติกอยู่ในห้อง และค้นพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกแขวนอยู่ที่ข้างฝา กับมีหลอดกาแฟตัดสั้น เทียนไข ไฟแช็ก และมีดคัทเตอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อบรรจุเมทแอมเฟตามีน โดยของกลางที่สายลับได้มาจากการล่อซื้อเป็นเมทแอมเฟตามีน 1 เม็ด บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกปิดหัวท้าย พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 กับพวกบรรจุเมทแอมเฟตามีนและขายเมทแอมเฟตามีน โดยจำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายตระเตรียมอุปกรณ์ในการบรรจุเมทแอมเฟตามีนลงในหลอดพลาสติกและจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขายอันเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำและร่วมกระทำผิดด้วยกัน จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขายเมทแอมเฟตามีนด้วย
จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 3 กับพวกมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในความครอบครองเพื่อขายและขาย จำเลยทั้งสามมิได้กระทำผิดโดยลำพัง จำเลยทั้งสามจึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง , 89 พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง , 67 ประกอบด้วย ป.อ. มาตรา 83 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่ระบุมาตรา 83 แห่ง ป.อ. ไว้ยังไม่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน เตรียมอุปกรณ์แบ่งบรรจุ แสดงเจตนาเพื่อขาย
เจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าจับกุมจำเลยที่ 1 หลังจากที่ให้สายลับล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน 1 เม็ด จากจำเลยที่ 1 พบจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกนั่งตัดหลอดพลาสติกอยู่ในห้องและค้นพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกแขวนอยู่ที่ข้างฝา จำเลยที่ 2 ถูกจับกุมในห้องนั้นเอง พร้อมอุปกรณ์มีหลอดกาแฟตัดสั้น เทียนไข ไฟแช็ก และมีดคัทเตอร์ซึ่งมีไว้เพื่อบรรจุเมทแอมเฟตามีน โดยของกลางที่สายลับได้มาจากการล่อซื้อเป็นเมทแอมเฟตามีน 1 เม็ด บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกปิดหัวท้าย การที่จำเลยที่ 2 ถูกจับขณะตัดหลอดพลาสติกกับมีอุปกรณ์ในการบรรจุเมทแอมเฟตามีนครบครันและมีเมทแอมเฟตามีนอีกจำนวน780 เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกแขวนอยู่ในห้อง ซึ่งเตรียมพร้อมที่จะบรรจุเมทแอมเฟตามีนในหลอดกาแฟโดยมีเทียนไขและไฟแช็กเพื่อใช้ในการลนหลอดพลาสติกปิดหัวท้ายในการบรรจุเมทแอมเฟตามีนพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 กับพวกบรรจุเมทแอมเฟตามีนและขายเมทแอมเฟตามีนโดยจำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายตระเตรียมอุปกรณ์ในการบรรจุเมทแอมเฟตามีนลงในหลอดพลาสติกและจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขายอันเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำและร่วม กระทำผิดด้วยกัน จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการกระทำผิดฐาน ขายเมทแอมเฟตามีนด้วย
จำเลยทั้งสามร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและจำหน่าย จำเลยทั้งสามมิได้กระทำผิดโดยลำพัง จึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง,89 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15 วรรคหนึ่ง,67 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
of 17