คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เลือกตั้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3985-3987/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นกรรมการสหภาพแรงงานมีผลทันทีเมื่อที่ประชุมใหญ่เลือกตั้ง แม้ยังมิได้จดทะเบียนต่อ นายทะเบียน
ที่ประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานได้เลือกตั้งผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงาน แม้จะยังมิได้มีการแจ้งจดทะเบียนต่อนายทะเบียนก็ตาม ผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นกรรมการสหภาพแรงงานตามความหมายของพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 121 แล้ว ความคุ้มกันประการใดที่มาตราดังกล่าวบัญญัติไว้เพื่อปกป้องกรรมการสหภาพแรงงาน ความคุ้มกันนั้น ๆ ย่อมตกแก่กรรมการสหภาพแรงงานผู้ได้รับเลือกตั้งนั้นทุกอย่างทุกประการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3985-3987/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการสหภาพแรงงาน: ความคุ้มกันตามกฎหมาย แม้ยังมิได้จดทะเบียน
ที่ประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานได้เลือกตั้งผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานแม้จะยังมิได้มีการแจ้งจดทะเบียนต่อนายทะเบียนก็ตามผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นกรรมการสหภาพแรงงานตามความหมายของพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518มาตรา121แล้วความคุ้มกันประการใดที่มาตราดังกล่าวบัญญัติไว้เพื่อปกป้องกรรมการสหภาพแรงงานความคุ้มกันนั้นๆย่อมตกแก่กรรมการสหภาพแรงงานผู้ได้รับเลือกตั้งนั้นทุกอย่างทุกประการ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพ.ร.บ.เลือกตั้ง: การทำให้บัตรเลือกตั้งเสียหายต้องเป็นหลังใช้สิทธิลงคะแนน
การทำให้ชำรุดหรือเสียหายซึ่ง 'บัตรเลือกตั้ง' อันเป็น ความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 74 นั้นจะต้องเป็นการกระทำต่อบัตรเลือกตั้ง ที่ผู้เลือกตั้งได้ใช้สิทธิลงคะแนนแล้วการที่จำเลยฉีกบัตรเลือกตั้งที่จำเลยยังมิได้ใช้สิทธิลงคะแนนให้ชำรุดเสียหาย จึงไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 74 ต้องเป็นการทำให้บัตรเลือกตั้งที่ใช้สิทธิแล้วชำรุดเสียหาย
การทำให้ชำรุดหรือเสียหายซึ่ง 'บัตรเลือกตั้ง' อันเป็น ความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 74 นั้นจะต้องเป็นการกระทำต่อบัตรเลือกตั้ง ที่ผู้เลือกตั้งได้ใช้สิทธิลงคะแนนแล้ว การที่จำเลยฉีกบัตรเลือกตั้งที่จำเลยยังมิได้ใช้สิทธิ ลงคะแนนให้ชำรุดเสียหาย จึงไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งกรรมการลูกจ้าง: แม้ไม่มีการลงคะแนนเสียง ก็ชอบด้วยกฎหมายได้ หากจำนวนผู้สมัครครบตามกำหนด
จำเลยที่ 1 มีลูกจ้างทั้งหมดประมาณ 110 คน ซึ่งตามกฎหมายจะมีคณะกรรมการลูกจ้างได้ 7 คน การที่คณะกรรมการดำเนินการเลือกตั้งกรรมการลูกจ้างมีมติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งมีจำนวนเพียง 7 คนและมีโจทก์รวมอยู่ด้วย เป็นคณะกรรมการลูกจ้างโดยมิต้องมีการลงคะแนนเสียง เพราะหากจัดให้มีการลงคะแนนเสียง ผลที่ได้รับก็จะไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอื่นไปได้ ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการตามประกาศกรมแรงงานฯ แล้ว โจทก์จึงเป็นกรรมการลูกจ้างโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3063-3073/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นรายการค่าใช้จ่ายเลือกตั้งภายในกำหนด: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเนื่องจากเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว
ฎีกาโจทก์อ้างว่าจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดเป็นการยื่นที่ไม่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายจึงต้องมีความผิดฐานไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งภายในกำหนดตามฟ้อง เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ยื่นภายในกำหนดแล้ว จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องซ้ำในคดีเลือกตั้งกรรมการสมาคม และการขาดอายุความตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องทั้งสี่เคยร่วมกับพวกอีกสองคนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ส.นายกสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 17 ได้ดำเนินการเลือกตั้งสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 18 ไปโดยไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคณะกรรมการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมให้เพิกถอนคณะกรรมการชุดนี้ออกจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมใหม่โดยเร็ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรรมการชุดที่ 18 ขอจดทะเบียนอยู่ กองบังคับการตำรวจสันติบาลให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เมื่อกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้จดทะเบียนก็ไม่จำต้องสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และศาลก็ไม่มีหน้าที่สั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่กับพวกคดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีนี้อีกโดยบรรยายข้อเท็จจริงในคำร้องคดีนี้ทำนองเดียวกับข้อเท็จจริงที่บรรยายในคำร้องคดีก่อนเพียงแต่มีคำขอท้ายคำร้องเพี้ยนไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย ย่อมเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องทั้งสี่มาร้องเป็นคดีนี้อีกด้วยเหตุอย่างเดียวกันและคำขอทำนองเดียวกัน จึงเป็นการร้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3107/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานยื่นรายการค่าใช้จ่ายเลือกตั้งเท็จ โจทก์ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามฟ้อง หากพิสูจน์ไม่ได้ แม้จำเลยไม่ได้ยื่นหลักฐานก็ลงโทษไม่ได้
การกระทำซึ่งจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 87 มี 2อย่างคือ ไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายภายในกำหนด และยื่นรายการค่าใช้จ่ายเท็จ คำฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่า จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จประการเดียว เมื่อทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องแม้ตามคำแถลงรับของจำเลยนั้นแสดงว่าจำเลยมิได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินก็ตามแต่ก็ต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาลจึงลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2522 มาตรา 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งรายการค่าใช้จ่ายเลือกตั้งเป็นเท็จ – โจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่ารายการเป็นเท็จ ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 34, 87แต่ตามคำบรรยายฟ้องเป็นเรื่องกล่าวหาว่าจำเลยซึ่งสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเท็จ และยืนยันความจริงว่าจำเลยมิได้ใช้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งไว้เลยเพราะจำเลยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินมาแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตามที่กฎหมายบังคับ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มุ่งประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในฐานที่จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จเท่านั้น เมื่อจำเลยไม่ยอมรับว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยื่นนั้นเป็นเท็จ และโจทก์ไม่นำสืบพยานหลักฐานให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงไม่พอฟังว่ารายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จำเลยยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นเป็นเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงวิทยฐานะทางการศึกษาเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม หากไม่มีเจตนาประกอบวิชาชีพจริง
จำเลยศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับปริญญา "ดอกเตอร์ ออฟ ออปโต เมตรี" แปลว่า "จักษุแพทย์ศาสตร์บัณฑิต" ซึ่งความหมายของ "จักษุแพทย์" นั้น ได้แก่ผู้ตรวจสอบสายตา ผู้ประกอบแว่น (ไม่ได้หมายถึงผู้รักษาตาด้วยยาหรือการผ่าตัด) จำเลยได้รับอนุญาตให้ตั้งสถานพยาบาลแผนปัจจุบัน สาขาเวชกรรม ซึ่งมีแพทย์ประจำ แต่ตัวจำเลยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเมื่อจำเลยสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำเลยได้พิมพ์นามบัตรและใบปลิวโฆษณา มีคำว่า จักษุแพทย์ และชื่อสถานพยาบาลของจำเลย แต่ไม่ได้แสดงออกซึ่งการกระทำใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่ได้แสดงใบปลิว และนามบัตรว่าได้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับการตรวจ การป้องกันและการบำบัดโรคตา และพร้อมที่จะประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามใบปลิวและนามบัตรที่ใช้โฆษณานั้น ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะแสดงวิทยฐานะทางการศึกษา กับแสดงหลักฐานการประกอบอาชีพเพื่อหาคะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้นหาได้มีเจตนาที่จะแสดงว่า จำเลยพร้อมที่จะประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่
of 11