คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารหลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากหน้าที่ราชการ: ความประมาทเลินเล่อในการควบคุมเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและเอกสารหลักฐาน
สำเนาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงฟังประกอบพยานบุคคลรับฟังในคดีละเมิดได้ว่า จำเลยจ่ายน้ำมันไม่ตรงความจริงน้ำมันเชื้อเพลิงขาดจำนวนไป ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94 จำเลยฝ่าฝืนระเบียบที่วางไว้ไม่ทำหลักฐานการที่ผู้ขับยานพาหนะรับน้ำมันไป และยอมให้คนอื่นทำเอกสารแสดงการใช้น้ำมันแทนผู้ขับไม่ตรวจสอบแสดงยอดการใช้น้ำมันให้ตรงกัน น้ำมันที่ขาดหายเป็นผล โดยตรงจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลย ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งประเด็น, เอกสารหลักฐาน, และหน้าที่ตามสัญญา: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแก้ไขประเด็นหน้าที่นำสืบใหม่และระบุว่าหากศาลพิพากษาเห็นว่าไม่ควรแก้ไขให้ถือตามประเด็นเดิม จำเลยก็จะถือคำร้องฉบับนี้ เป็นคำร้องคัดค้านการกำหนดประเด็น เพื่อประโยชน์ในการอุทธรณ์ฎีกานั้น เป็นแต่เพียงการแสดงความประสงค์ของจำเลยไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งของศาลตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
เอกสารท้ายคำให้การยอ่มถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การด้วย เมื่อเอกสาร ล.1ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความเป็นอย่างเดียวกับสำเนาสัญญาการจำหน่ายแก๊สปิโตรเลี่ยมท้ายคำให้การจำเลย ดังนั้น แม้โจทก์มิได้ระบุอ้างเอกสาร ล.1ก็เป็นอำนาของศาลที่จะหยิบยกเอาข้อความในเอกสาร ล.1 ซึ่งเป็นประเด็นและพยนหลักฐานในสำนวนนี้ขึ้นมาเป็นข้อวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกา ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2205/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารหลักฐาน การรับมอบรถถือเป็นการซื้อขายเด็ดขาด ศาลรับฟังพยานบุคคลได้
เอกสารระบุว่าโจทก์เป็นผู้ชำระราคาและรับโอนรถยนต์พิพาทแต่การซื้อขายรถยนต์พิพาทอันเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างเช่นอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์บางประเภทดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคแรก และฝ่ายผู้ซื้อรถยนต์พิพาทได้รับมอบรถยนต์มาแล้วถือเป็นการซื้อขายเด็ดขาดซึ่งมีการชำระหนี้แล้ว การฟ้องร้องบังคับคดีจึงไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การซื้อขายรถยนต์พิพาทจึงไม่ใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ทั้งการที่จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบว่า ห้าง อ. เป็นผู้ซื้อ ที่ลงชื่อโจทก์เป็นผู้ชำระเงินค่าซื้อรถยนต์พิพาทและผู้รับโอนรถยนต์พิพาทในเอกสารนั้นเป็นการลงชื่อโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของห้าง อ. หรือในฐานะที่โจทก์เป็นตัวแทนของห้าง ก็เป็นการนำสืบถึงความเป็นจริงระหว่างตัวการกับตัวแทน จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน & การเพิกถอนเอกสารหลักฐาน - ข้อจำกัดการสืบพยาน & คำขอไม่ชัดเจน
ส.ค.1 ไม่ใช่พยานที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดงไม่อยู่ในบังคับ มาตรา 94 ที่ไม่ให้สืบพยานบุคคลแก้ไข
ฟ้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินและขอให้เพิกถอนบรรดาเอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับที่พิพาทซึ่งมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของเป็นคำขอไม่ชัดแจ้งว่าขอเพิกถอนเอกสารฉบับไหน ศาลไม่อาจบังคับให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมแพ้คดีตามคำท้า หากศาลพิจารณาเอกสารหลักฐานที่จำเลยส่งมอบเป็นเอกสารที่แท้จริง
คู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยว่า เอกสารที่จำเลยจะนำส่งศาลเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง โจทก์ยอมแพ้คดี ต่อมาเมื่อจำเลยส่งเอกสารต่อศาล แม้โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่าเป็นเอกสารปลอม แต่เมื่อศาลเห็นว่าจากเอกสารนั้นเองพอจะพิจารณาว่าเอกสารปลอมหรือไม่แล้ว ศาลย่อมพิพากษาคดีตามคำท้ายนั้นได้ โดยไม่จำต้องไต่สวนเสียก่อนว่าเอกสารนั้นปลอมหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงิน - ความน่าเชื่อถือและขอบเขตของสัญญา
ฟ้องเรียกเงินกู้ 28,000 บาท กับดอกเบี้ย จำเลยให้การว่าได้กู้เงินโจทก์ 800 บาท แต่ไม่ได้ทำหนังสือกู้ในเอกสารที่ฟ้องเป็นลายมือชื่อจำเลยลงไว้ในเรื่องอื่นดังนี้ เอกสารที่ฟ้องไม่ใช่เอกสารการกู้เงินที่จำเลยรับศาลไม่พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 800 บาทตามที่รับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญากู้ยืมเงินหลังทำสัญญาแล้ว ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ หากจำเลยได้รับเงินกู้จริง
เดิมจำเลยทำสัญญากู้เงินไว้ให้โจทก์จำนวนหนึ่ง ต่อมาโจทก์ลอบเติมเลข 1 ลงหน้าจำนวนเงินในเอกสารนั้น ทำให้จำนวนเงินกู้มากขึ้นแล้วเอาเอกสารนั้นมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนเดิม คือจำนวนที่จำเลยยืมไปได้ การเติมเลข 1 ลงเพื่อเพิ่มจำนวนเงินกู้เดิมไม่ทำให้หลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือเดิมเสียไป.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงชี้เขตที่ดินคู่ความมีผลผูกพัน แม้เอกสารหลักฐานไม่ตรงกัน ศาลต้องบังคับตาม
โจทก์จำเลยพิพาทกันในเรื่องที่ดินที่สุดได้ตกลงให้ศาลเรียกเจ้าของที่ดินข้างเคียงมาชี้ว่าเขตของคนข้างเคียงว่าอยู่แค่ไหนแล้วให้จ่าศาลวัดจากที่ของคนข้างเคียงไปจำนวนหนึ่งให้เป็นของโจทก์ที่เหลือเป็นของจำเลย เช่นนี้แสดงว่าคู่ความยอมตกลงรับเอาตามเนื้อที่ที่คนข้างเคียงชี้ให้เป็นสำคัญฉนั้นแม้เอกสารหลักฐานการได้ที่ของคนข้างเคียงจะคลาดเคลื่อนไปจากที่ที่ชี้กันก็ตาม ศาลก็ชอบที่จะบังคับแบ่งไปตามทางที่คู่ความไว้ตกลงกันไว้ กล่าวคือตามทางที่คนข้างเคียงชี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารหลักฐานที่มิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่ต่อมาได้ปิดและสลักหลัง ย่อมใช้เป็นหลักฐานได้
จำเลยอ้างใบรับเงินเป็นพยานและได้คัดสำเนาให้ฝ่ายโจทก์แล้ว แต่ปรากฎว่าใบรับเงินนี้มิได้ปิดอากรแสตมป์ ต่อมาภายหลังจำเลยจึงนำใบรับเงินนั้นยื่นต่อพนนักงานเจ้าหน้าที่จึงสลักหลังให้ในใบรัลเงินนั้นจำเลยจึงยื่นคำร้องขออ้างสลักหลังนี้เป็นพยานเพิ่มเติมในตอนจวนเสร็จการสืบพยานโจทก์โดยมิได้คัดสำเนาสลักหลังส่งให้โจทก์ล่วง
หน้าตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 90 ดังนี้ ศาลก็ย่อมรับฟังเอกสารใบรับเงินนั้นเป็นพยานหลักฐานได้ เพราะข้อความสลักหลังเป็นเพียงข้อความของเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ว่า ใบรับเงินนั้นได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้แล้วเท่านั้น จึงมิใช่เป็นเอกสารพยานหลักฐานที่ฝ่ายจำเลยอ้างอิงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตนตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ส่งเอกสารหลักฐานต่อศาลแม้มีโอกาส ทำให้ศาลถือว่าไม่มีเอกสารนั้น
จำเลยแถลงต่อศาลว่าจะอ้างเอกสารเป็นพะยานต่อศาลใน 10 วัน ครั้นถึงกำหนดขอผัดส่งต่อไปอีก 10 วันศาลอนุญาตครั้นถึงกำหนดนัด จำเลยไม่ส่งเอกสารต่อศาลและจำเลยและทนาย จำเลยไม่มาศาลในวันนัด ดังนี้ถือว่าจำเลยไม่มีเอกสารเป็นพะยาน
of 7