พบผลลัพธ์ทั้งหมด 84 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปรรูปและครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ถือเป็นความผิด 2 กระทง ศาลลงโทษกระทงเดียวได้
ไม้ซึ่งแต่แรกจำเลยได้รับอนุญาตให้ทำ และมีไว้โดยชอบนั้นถ้าจำเลยจะมีไม้นั้นซึ่งได้แปรรูปแล้วไว้ในครอบครองต่อไป จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตอีกชั้นหนึ่ง มิฉะนั้นเป็นผิดตามมาตรา 48 การถากซ้อมไม้นั้นเป็นเสาโดยไม่ได้ขออนุญาต ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 50(1)จำเลยจึงมีความผิดฐานแปรรูปไม้ตามมาตรา 48 ด้วย และไม้นั้นเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ฯต้องริบตามมาตรา 74(อ้างฎีกาที่ 1551/2497)
จำเลยกระทำผิด 2 กระทง คือ ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท แล้วลดรับสารภาพ ก็เห็นได้ว่า ลงโทษมาเฉพาะกระทงเดียว ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73(2) แก้ไขโดย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แล้ว เพราะความผิดแต่ละกระทง โทษหนักเท่ากัน ศาลจะลงโทษกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 167/2507)
จำเลยกระทำผิด 2 กระทง คือ ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท แล้วลดรับสารภาพ ก็เห็นได้ว่า ลงโทษมาเฉพาะกระทงเดียว ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73(2) แก้ไขโดย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แล้ว เพราะความผิดแต่ละกระทง โทษหนักเท่ากัน ศาลจะลงโทษกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 167/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลาง (เกวียน, โค) ที่ใช้ในการกระทำความผิดฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการรับสารภาพของจำเลย
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำการแปรรูปไม้สักและมีไม้สักแปรรูปไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ตามฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าเกวียน 1 เล่ม โค 2 ตัวของกลางที่โจทก์ขอให้ริบนั้นเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเลยร่วมกันใช้ในการกระทำผิดและใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดคดีนี้ ย่อมหมายความว่า รวมทั้งจำเลยร่วมกันใช้เกวียนและโคนั้นเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด คือ การแปรรูปไม้สักและมีไม้สักแปรรูปไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยนั่นเอง เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่ต่อสู้คดี ก็ต้องถือว่า เกวียนและโคของกลางนั้นเป็นของที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามที่โจทก์บรรยายไว้ในฟ้องอันต้องริบเสียตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตใบอนุญาตแปรรูปไม้: การกระทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาตไม่ใช่ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ แต่จำเลยจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมประกอบใบอนุญาต แม้ข้อกำหนดระบุไว้ว่าผู้รับอนุญาตจะตั้งโรงงานไม้แปรรูปได้ด้วยเครื่องจักรเพื่อประดิษฐ์เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปจำหน่าย แต่จเลยแปรรูปไม้หมอนรถไฟโดยรับจ้างตบแต่งด้วยการใช้เครื่องจักรถากไม้หมอนให้ได้ขนาดเรียบร้อย การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 หากแต่เป็นการกระทำผิดต่อข้อกำหนดซึ่งให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งพักใช้ใบอนุญาตนี้ได้ ไม่ใช่กรณีที่จะฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษจำเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2506)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตใบอนุญาตและการกระทำผิดสัญญาอนุญาต: การแปรรูปไม้หมอนรถไฟ
จำเลยได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้แต่จำเลยจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมประกอบใบอนุญาต แม้ข้อกำหนดระบุไว้ว่าผู้รับอนุญาตจะตั้งโรงงานแปรรูปไม้ด้วยเครื่องจักรเพื่อประดิษฐ์เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปจำหน่ายแต่จำเลยแปรรูปไม้หมอนรถไฟโดยรับจ้างตบแต่งด้วยการใช้เครื่องจักรถากไม้หมอนให้ได้ขนาดเรียบร้อยการกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 หากแต่เป็นการกระทำผิดต่อข้อกำหนดซึ่งให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งพักใช้ใบอนุญาตนี้ได้ ไม่ใช่กรณีที่จะฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปรรูปไม้เพื่อการชักลากโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ให้ความหมายการแปรรูปไม้ว่า การกระทำอย่างใดอย่างแก่ไม่คือ เลื่อย ผ่า ถาก ขุดหรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือ ขนาดไปจากเดิม นอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอันจำเป็นแก่การชักลาก ฉะนั้นการที่จำเลยถากไม้ของกลางเป็นเหลี่ยม เพื่อสดวกแก่การชักลาก และเป็นไม่ที่จำเลยซื้อไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงถือได้ว่า จำเลยได้ตกแต่งอันจำเป็นโดยมิได้มีเจตนาที่จะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใดจำเลยจึงไม่ควรมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปรรูปไม้เพื่อสะดวกการชักลาก ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ หากเป็นการตกแต่งจำเป็น
ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ให้ความหมายการแปรรูปไม้ว่าการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ไม้ คือเลื่อย ผ่า ถาก ขุดหรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิมนอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอันจำเป็นแก่การชักลากฉะนั้น การที่จำเลยถากไม้ของกลางเป็นเหลี่ยมเพื่อสะดวกแก่การชักลาก และเป็นไม้ที่จำเลยซื้อไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงถือได้ว่าจำเลยได้ตบแต่งอันจำเป็นโดยมิได้มีเจตนาที่จะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใดจำเลยจึงไม่ควรมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้ในเขตป่าสงวนโดยได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และข้อยกเว้นการแปรรูปไม้ที่ตอ
ไม่ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17(1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าโดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผล จำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้นเมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอันจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรกกรณีเช่นนี้ไม่ผิดฐานนำไม้เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ในมาตรา 50(1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ในมาตรา 50(1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความผิดฐานแปรรูปไม้เถื่อน: แยกความผิดฐานครอบครองและแปรรูป
ผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้นำไม้ที่ไม่ได้เสียค่าภาคหลวงเข้ามาในโรงงานมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 51 เท่านั้น หามีผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 48 อีกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้ทำประโยชน์บำรุงป่าได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตแปรรูปตามกฎหมาย
ไม้รายนี้เป็นไม้ที่ป่าไม้เขตทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าตามอำนาจและหน้าที่ จึงเป็นไม้ที่อยู่นอกบังคับของมาตรา 11 เรื่องการทำไม้หวงห้ามโดยข้อยกเว้นของมาตรา 17(1) จำเลยทำไม้ตามสัญญาที่ป่าไม้เขตจ้างจำเลย ฉะนั้น การแปรรูปไม้รายนี้ไม่อยู่ในข้อบังคับของบทบัญญัติเรื่องแปรรูปไม้ที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่อนุญาต เช่นกรณีปกติอื่นๆ ตามนัยที่ยกเว้นไว้ในมาตรา 50 ข้อ 1.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทการแปรรูปไม้: ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อเท็จจริงเกินกว่าฎีกา
ปัญหาที่ว่า การที่จำเลยทำไม้ที่ตัดฟันแล้วให้เป็นเหลี่ยมเป็นการเกินกว่าความจำเป็นเพื่อการชักลากไม้หรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่างทั้ง 2 พิพากษายืนตามกันมาให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อนี้ไม่ได้