พบผลลัพธ์ทั้งหมด 92 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังและข่มขู่เพื่อชิงทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
ใช้มือผลักหน้าอกไม่ให้ลุกขึ้นและพูดว่า 'อย่าลุก'เพื่อจะแย่งเอาทรัพย์เขาดังนี้ฟังได้ว่าเป็นการใช้กำลังทำร้ายและใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้าย เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังเพื่อปกป้องตนเองจากผู้บุกรุกและโจมตี
มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่า เจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนรวา 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2 คำ ชายนั้นกลับวิ่งหนีพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้าน ๆ จึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฎว่าชายนั้นเป็นโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังเพื่อตอบโต้ผู้บุกรุกและการพิจารณาเหตุผลสมควรแก่เหตุ
มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่าเจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนราว 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2คำชายนั้นกลับวิ่งหนีเจ้าของบ้านวิ่งตาม และร้องขโมยพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้านเจ้าของบ้านจึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฏว่าชายนั้นเป็นคนโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชิงทรัพย์: การใช้กำลังแย่งทรัพย์ที่ลักมาคืนถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยลักไก่เขาไป เจ้าทรัพย์ติดตามพบในเวลากระชั้นชิด แล้วแย่งไก่คืนจากจำเลย จำเลยจึงทำร้ายเจ้าทรัพย์เพราะเจ้าทรัพย์แย่งไก่ที่จำเลยลักไปคืนจากจำเลย ย่อมเป็นการใช้กำลังทำร้ายเพื่อประสงค์จะเอาผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยลักทรัพย์ตามความในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298(3) จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์ กรรมที่จำเลยกระทำการลักและทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์นั้นเป็นกรรมที่ต่อเนื่องเรื่องเดียวกัน หาใช่ต่างกรรมต่างวาระกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ผู้เสียหายลวนลามหลานสาวของจำเลย จำเลยจึงถือมีดพร้าเข้ามาในห้องเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ใช้มีดบางแทงจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟันผู้เสียหายเป็นการป้องกันตัว แต่ปรากฏว่ามีดของจำเลยใหญ่ยาวกว่ามีดของผู้เสียหายมากประกอบกับขณะนั้นผู้เสียหายน่าจะคิดหนีไปให้พ้น ที่ใช้มีดทำร้ายจำเลยก็เพราะจำเลยถือมีดพร้ายืนขวางประตูอยู่หนีไปทางอื่นไม่ได้ และไม่ปรากฏว่าก่อนจำเลยจะฟันผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายจะแทงซ้ำอีกแต่อย่างใด เมื่อพิจารณาถึงอาวุธที่ใช้ทำร้ายประกอบกับบาดแผลและพฤติการณ์ต่างๆ ดังกล่าวมา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อต่อสู้ภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือกาย
ผู้ตายใช้มีดเหน็บปลายแหลมยาวราว 1 ศอกเศษเข้าไปฟันเขาถึงในห้อง เขาหลบไปจนติดฝาห้องและร้องห้ามก็ไม่ฟังและยังเข้าไปจะฟันอีก เขาจึงคว้ามีดข้าง+แทงเพียง 1 ทีถูกผู้ตายตายดังนี้รูปคดีฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การใช้กำลังทำร้ายถึงแก่ชีวิต
ผู้ตายเมาสุราขึ้นไปก่อเหตุบนเรือนของจำเลยและใช้ขวดเหล้าใช้ไม้รุกไล่ตีจำเลย ๆ จึงเอามีดที่ใช้สับเปลือกไม้กินหมากอยู่ในมือแทงตอบไป ย่อมฟังได้ว่าจำเลยทำากรป้องกันตาม ก.ม.แต่ปรากฎว่าไม้ที่ผู้ตายใช้ตีเป็นเพียงไม้ไผ่ ถึงตีถูกก็ปรากฎว่าเพียงแต่ทำให้ฟกช้ำเท่านั้น การที่จำเลยใช้มีดมีคมปลายแหลมยาคืบเศษแทงผู้ตายตรงหน้าอกโดยแรง มีดเข้าเนื้อทะลุในและแทงปักเข้าที่ซอกคออีกทีหนึ่ง จนลึกทลุในเป็นผลให้ผู้ตายล้มลงขาดใจตายโดยทันทีหรือเกือบจะทันทีเช่นนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุต้องมีโทษตามมาตรา 249, 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: คนยามไม่มีอำนาจจับ การใช้กำลังเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายเป็นเหตุสมควร
คนยามไปรษณีย์ไม่มีอำนาจจับราษฎรที่พูดโต้เถียงกับพนักงานไปรษณีย์
จำเลยโต้เถียงกับพนักงานไปรษณีย์ แล้วมีพวกพนักงานไปรษณีย์ร้องบอกให้จับ คนยามไปรษณีย์เข้าจับจำเลย ๆ จึงต่อยเอา ดังนี้ เป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
จำเลยโต้เถียงกับพนักงานไปรษณีย์ แล้วมีพวกพนักงานไปรษณีย์ร้องบอกให้จับ คนยามไปรษณีย์เข้าจับจำเลย ๆ จึงต่อยเอา ดังนี้ เป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายโดยผู้ไม่มีอำนาจจับ และการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
คนยามไปรษณีย์ไม่มีอำนาจจับราษฎรที่พูดโต้เถียงกับพนักงานไปรษณีย์
จำเลยโต้เถียงกับพนักงานไปรษณีย์ แล้วมีพวกพนักงานไปรษณีย์ร้องบอกให้จับ คนยามไปรษณีย์เข้าจับจำเลย จำเลยจึงต่อยเอาดังนี้ เป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยโต้เถียงกับพนักงานไปรษณีย์ แล้วมีพวกพนักงานไปรษณีย์ร้องบอกให้จับ คนยามไปรษณีย์เข้าจับจำเลย จำเลยจึงต่อยเอาดังนี้ เป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426-1427/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังเกินเหตุของเจ้าพนักงานตำรวจในการวิวาทเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ร่วมไปจับปลากับผู้ตายและพวกเพื่อขอปลาเป็นส่วนแบ่ง ผู้ตายแบ่งให้น้อย จำเลยกลับอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงานจะทำการจับกุม ได้เกิดต่อสู้ทำร้ายกันขึ้น จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย และทำร้ายผู้อื่นถึงบาดเจ็บ ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่นับว่าเป็นการกระทำตามหน้าที่อันชอบ และจำเลยจะอ้างว่าได้กระทำโดยป้องกันตัวก็ไม่ได้.