คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใส่ความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 86 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การติดตามหนี้และการขอความช่วยเหลือจากปลัดจังหวัด ไม่เป็นความผิดฐานใส่ความ
โจทก์เป็นตัวแทนของบุตรซึ่งกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ ได้กู้เงินและทำสัญญาจำนองที่ดินและอาคารเรียนเป็นประกันเงินกู้กับจำเลยแล้วไม่ไถ่ถอนจำนอง จำเลยไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทางศาลเพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนถึงนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ จึงได้ทำหนังสือถึงปลัดจังหวัดมีข้อความขอให้ช่วยจำเลยได้รับชำระหนี้จากโจทก์แม้ตามหนังสือนั้นจะได้กล่าวว่าโจทก์เป็นหนี้จำเลย จำเลยเตือนให้ชำระก็เพิกเฉย ก็เป็นการกล่าวตามความจำเป็นแก่การที่จะขอให้ปลัดจังหวัดช่วยไกล่เกลี่ยเท่านั้น จึงไม่มีลักษณะเป็นการใส่ความการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การติดตามหนี้และการขอความช่วยเหลือจากปลัดจังหวัด ไม่เป็นการใส่ความ
โจทก์เป็นตัวแทนของบุตรซึ่งกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศได้กู้เงินและทำสัญญาจำนองที่ดินและอาคารเรียนเป็นประกันเงินกู้กับจำเลยแล้วไม่ไถ่ถอนจำนอง จำเลยไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทางศาลเพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนถึงนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ จึงได้ทำหนังสือถึงปลัดจังหวัดมีข้อความขอให้ช่วยจำเลยได้รับชำระหนี้จากโจทก์แม้ตามหนังสือนั้นจะได้กล่าวว่าโจทก์เป็นหนี้จำเลย จำเลยเตือนให้ชำระก็เพิกเฉย ก็เป็นการกล่าวตามความจำเป็นแก่การที่จะขอให้ปลัดจังหวัดช่วยไกล่เกลี่ยเท่านั้น จึงไม่มีลักษณะเป็นการใส่ความการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความหมิ่นประมาทต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถ้อยคำเปรียบเทียบไม่สุภาพไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท
การที่จำเลยพูดว่า "ตุ๊อย่าเอาไม้ไปแหย่ขี้เลย" ในขณะที่โจทก์กำลังโต้เถียงกับนายตุ๊สามีจำเลย เมื่อคณะผู้พิพากษาพร้อมด้วยโจทก์จำเลยในคดีแพ่งไปตรวจดูสถานที่พิพาทนั้นแม้คำว่า ขี้ จะหมายถึงตัวโจทก์ แต่ก็เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่ไม่สุภาพเท่านั้น ยังไม่พอถือได้ว่าเป็นการใส่ความตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์
ส่วนเรื่องละเมิดอำนาจศาลนั้น เมื่อมีผู้กระทำผิด ก็เป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะที่จะสั่งลงโทษผู้นั้นได้เองผู้อื่นหามีสิทธิที่จะเสนอคดีให้ศาลพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดในคดีเช่นนี้ไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยคำกล่าวอ้างการรับสินบน: ถ้อยคำใส่ความทำให้เสียชื่อเสียงถือเป็นการหมิ่นประมาท
จำเลยกล่าวต่อหน้าบุคคลอื่นว่า "นายกกินเนื้อของนายเนี้ยววันละ 8 กิโลจึงอนุญาตให้ฆ่า ถ้าไม่กินเนื้อวันละ 8 กิโล เขาก็คงไม่อนุญาต" ซึ่งมีความหมายว่าโจทก์ร่วมนายกเทศมนตรีจังหวัดชัยภูมิร่วมรับสินบนของนายสมชายหรือเนี้ยว คำกล่าวเช่นนี้ถือเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ร่วมให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยการใส่ความว่านายกเทศมนตรีรับสินบนจากพ่อค้าเนื้อ
จำเลยกล่าวต่อหน้าบุคคลอื่นว่า "นายกกินเนื้อของนายเนี้ยววันละ 8 กิโลจึงอนุญาตให้ฆ่า ถ้าไม่กินเนื้อวันละ 8 กิโล เขาก็คงไม่อนุญาต" ซึ่งมีความหมายว่าโจทก์ร่วมนายกเทศมนตรีจังหวัดชัยภูมิร่วมรับสินบนของนายสมชายหรือเนี้ยว คำกล่าวเช่นนี้ถือเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ร่วมให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: การคุ้มครองข่าวในศาล vs. การใส่ความเกินจริง
โจทก์ในคดีนี้ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร จำเลยในคดีนี้ได้นำข่าวลงในหนังสือพิมพ์ของจำเลยว่า "อดีตกำนันแนว 5 เป็นลมที่ศาลพยานระบุกลางศาลคบเขมร" และลงเนื้อข่าวต่อไปว่า"กำนันผู้ต้องหาขายชาตินำการเคลื่อนไหวของทางการตำรวจทหารไทยไปเปิดเผยให้เขมรเป็นลมฟุบกลางศาล เมื่อถูกพยานปากสำคัญให้การว่าถูกกำนันใช้ไปติดต่อทหารเขมร...." และดำเนินข่าวต่อไปว่า โจทก์คดีนี้ถูกตำรวจจับกุมและถูกฟ้องต่อศาลทหารกรุงเทพ(ศาลอาญา)ข้อความที่จำเลยลงข่าวนี้ เมื่ออ่านดูข้อความทั้งหมดแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นการรายงานข่าวเรื่องที่โจทก์คดีนี้ถูกฟ้องในข้อหาว่ากระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร แม้จะเป็นการเขียนข่าวโดยใช้ถ้อยคำให้ผิดเพี้ยนจากที่โจทก์ถูกฟ้องไปบ้าง เช่นใช้คำว่า "แนว5""คนขายชาติ" ก็ตาม แต่ก็เป็นถ้อยคำที่มีความหมายทำนองเดียวกับที่โจทก์ถูกฟ้องนั่นเอง ส่วนเรื่องที่จำเลยลงข่าวว่าโจทก์เป็นลมล้มพับลงกลางศาลนั้น ความจริงโจทก์เพียงแต่แถลงต่อศาลว่าปวดศีรษะมากจะเป็นลม แม้จำเลยจะได้แจ้งข่าวเกินเลยความจริงไปบ้างก็ตาม แต่ยังไม่พอที่จะถือได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยไม่สุจริต ฉะนั้นเนื้อข่าวของจำเลยตอนนี้จึงถือได้ว่าได้แจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลย่อมได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 329(4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยลงภาพโจทก์และเขียนข้อความลงใต้ภาพของโจทก์ว่า"คนขายชาติอดีตกำนันยีตันยี คนไทยผู้ยอมเป็นลูกมือเขมรสืบราชการลับ เมื่อถูกตีแผ่ความผิดถึงกับเป็นลมกลางศาล" ข้อความในตอนนี้เป็นคนละตอนแยกออกต่างหากจากเนื้อข่าวที่กล่าวแล้วในตอนแรก และไม่ใช่เป็นการแจ้งข่าวเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาล แต่เป็นถ้อยคำของหนังสือพิมพ์จำเลยเอง ประชาชนผู้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ย่อมเข้าใจ ได้ว่าโจทก์เป็นคนขายชาติเป็นคนไทยผู้ยอมเป็นลูกมือเขมรสืบราชการลับ ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ความจริงโจทก์เพียงแต่ถูกฟ้องร้องต่อศาลเท่านั้น เมื่อโจทก์ลงข่าวโดยแสดงความเห็นเสียเองเช่นนี้ จึงเป็นการใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ประกอบกับมาตรา 328 และการลงข่าวตอนนี้ไม่ใช่เป็นการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(4)
จำเลยที่ 1 เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับที่โจทก์นำมาฟ้อง จึงต้องรับผิดเป็นตัวการในการที่หนังสือพิมพ์จำเลยลงข่าวหมิ่นประมาทโจทก์ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์พ.ศ. 2484 มาตรา 48 วรรค 2 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ลงข่าวนี้โดยได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการแทนก็ตามจำเลยที่ 1 หาพ้นผิดไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิพากษ์วิจารณ์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วยถ้อยคำที่ไม่สมควร ไม่ถึงขั้นดูหมิ่นใส่ความ
จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า 'ผู้อำนวยการคนนี้ใครว่าดีเดี๋ยวนี้ดีแตกเสียแล้ว ไปติดต่อเรื่องคนไข้ก็มาไล่โรงพยาบาลเป็นของรัฐบาล ไม่ใช่ของผู้อำนวยการตึกบุญเอี่ยมเป็นของชาวเมืองเพชรสร้าง บ้านที่ผู้อำนวยการอยู่ก็ต้องอาศัยเขาอยู่ เป็นหมอควรจะใจเย็นแต่นี่ใจร้อนยังกับไฟ ใช้ไม่ได้ ถึงเจ็บก็ไม่มารักษาที่นี่ จะเอาเรื่องทุกอย่างไปลงสาสน์เพชร'จำเลยกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นด้วยความน้อยใจและมีอารมณ์โกรธเนื่องจาก ถูกนายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพูดเป็นทำนองไล่อันเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นการขาดคารวะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นการดูหมิ่นหรือใส่ความ ตามมาตรา 136และ 326 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน: การใส่ความต่อบุคคลที่ 3 และการดูหมิ่นผู้พิพากษา
หนังสือใส่ความผู้อื่นนั้น แม้จะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ก็ถือว่าใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ตามมาตรา 326 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา และได้ร่วมเป็นองค์คณะตัดสินคดีที่ทำให้จำเลยแพ้และจำเลยได้กล่าวข้อความซึ่งเป็นการดูหมิ่น โจทก์ในฐานะที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ย่อมเป็นความผิดต่อมาตรา 198ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นเจ้าพนักงานในหน้าที่ แม้ส่งถึงบุคคลที่สามก็มีความผิดตามกฎหมาย
หนังสือใส่ความผู้อื่นนั้นแม้จะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวก็ถือว่าใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ตามมาตรา 326 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาและได้ร่วมเป็นองค์คณะตัดสินคดีที่ทำให้จำเลยแพ้ และจำเลยได้กล่าวข้อความซึ่งเป็นการดูหมิ่นโจทก์ในฐานะที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาย่อมเป็นความผิดต่อมาตรา 198ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความผู้อื่นให้เสียชื่อเสียงจากคำพูดที่ชี้นำว่าการสั่งการขัดขวางพยานทำให้เสียความยุติธรรม ไม่เป็นการติชมโดยสุจริต
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีหนึ่งแล้วมากล่าวว่า'คดีนี้ไม่น่าจะแพ้เลยที่แพ้ก็เพราะเจ้าเมืองสั่งนายอำเภอเมืองไม่ให้ไปเป็นพยาน นายอำเภอเมืองเสียใจร้องไห้ที่ไม่ได้เป็นพยานเจ้าเมืองอย่างนี้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน' เช่นนี้ แปลได้ว่า จำเลยว่าการสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดทำให้เสียความยุติธรรมเป็นเหตุให้จำเลยแพ้คดีผู้ปกครองทำอย่างนี้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ย่อมทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชังเป็นความผิดแล้ว หาใช่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) ไม่
of 9