คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไถ่ถอน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 141 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินกฎหมาย-การบังคับจำนอง: แม้ตกลงนอกสัญญาแต่ไม่มีสิทธิเรียกคืน/ฟ้องบังคับจำนองได้หากยินดีไถ่ถอน
แม้สัญญาจำนองกำหนดดอกเบี้ยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้จำนองผู้รับจำนองตกลงกันนอกสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดทางอาญา เมื่อผู้จำนองชำระดอกเบี้ยให้ไป ย่อมไม่มีสิทธิจะเรียกคืนได้ และไม่มีสิทธิจะเอาดอกเบี้ยส่วนที่ชำระเกินคิดหักชำระต้นเงิน
ผู้รับจำนองฟ้องขอให้ผู้จำนองไถ่ถอนจำนอง ผู้จำนองให้การว่า ผู้รับจำนองไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนอง วันชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับว่ายินดีไถ่ถอนการจำนอง เพียงแต่โต้เถียงกันเรื่องจำนวนเงินที่จะไถ่ถอน ดังนี้ถือว่า คู่ความไม่ติดใจโต้เถียงกันเรื่องการบังคับจำนอง เมื่อศาลชี้ขาดถึงจำนวนเงินที่ต้องชำระกัน ก็ชอบจะพิพาทบังคับจำนองไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาจำเลยเกี่ยวกับอำนาจฟ้องในคดีไถ่ถอนขายฝากที่ศาลล่างตัดสินเป็นแนวเดียวกัน คดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า "โจทก์ได้ขอไถ่ที่ดินขายฝากจากจำเลยภายในกำหนด แล้วจำเลยหลีกเลี่ยไม่ยอมให้ไถ่" จำเลยฎีกามีใจความว่า โจทก์ไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้อง เพราะโจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายแห่งและพาณิชย์ มาตรา 163, 496 ดังนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท ฎีกาจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลเกี่ยวกับการไถ่ถอนการขายฝาก และการเกิดหนี้ตามคำพิพากษา
คดีที่ศาลพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากได้นั้น ศาลบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน ย่อมเป็นการบังคับทั้งโจทก์และจำเลย แต่เมื่อพ้นระยะเวลา 15 วันตามคำบังคับจะถือว่าเป็นอันหมดสิทธิไถ่ถอนยังไม่ได้ เพราะคำพิพากษามิได้กล่าวไว้เช่นนั้น เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ดำเนินการบังคับคดีให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาแล้วย่อมเกิดเป็นหนี้ตามคำพิพากษาขึ้น โจทก์จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น โดยโจทก์จำเลยต่างก็กลายสภาพเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา อันจะบังคับกันได้ภายในกำหนด 10 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 หาใช่เป็นการขยายระยะเวลาไถ่ถอนไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาไถ่ถอนการขายฝาก: อายุความและการปฏิบัติตามคำบังคับ
คดีที่ศาลพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากได้นั้นศาลบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน ย่อมเป็นการบังคับทั้งโจทก์และจำเลย แต่เมื่อพ้นระยะเวลา 15 วันตามคำบังคับจะถือว่าเป็นอันหมดสิทธิไถ่ถอนยังไม่ได้เพราะคำพิพากษามิได้กล่าวไว้เช่นนั้นเมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ดำเนินการบังคับคดีให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาแล้วย่อมเกิดเป็นหนี้ตามคำพิพากษาขึ้นโจทก์จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น โดยโจทก์จำเลยต่างก็กลายสภาพเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา อันจะบังคับกันได้ภายในกำหนด 10 ปีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 หาใช่เป็นการขยายระยะเวลาไถ่ถอนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝาก: ผลของการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้สิทธิไถ่ถอนสิ้นสุด
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝาก และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับไถ่การขายฝาก โดยให้นำเงินสินไถ่มาวางศาลเพื่อชำระแก่จำเลยภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันพิพากษา เมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ต่อมาได้ยื่นคำแถลงว่าโจทก์ผิดนัดไม่นำเงินสินไถ่มาวางศาลภายในกำหนดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้ คดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป เพราะทรัพย์ที่ขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย โจทก์หมดสิทธิที่จะไถ่ถอนคืนแล้ว ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดี คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาของจำเลย 3 ใน 4 พร้อมด้วยคาตัดสินและค่าคำบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝากผิดนัด นำสู่การหลุดกรรมสิทธิ์ และการจำหน่ายคดี
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝาก และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับไถ่การขายฝาก โดยให้นำเงินสินไถ่มาวางศาลเพื่อชำระแก่จำเลยภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันพิพากษา เมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ต่อมาได้ยื่นคำแถลงว่าโจทก์ผิดนัดไม่นำเงินสินไถ่มาวางศาลภายในกำหนดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้ คดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป เพราะทรัพย์ที่ขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย โจทก์หมดสิทธิที่จะไถ่ถอนคืนแล้ว ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดี คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาของจำเลย 3 ใน 4 พร้อมด้วยค่าตัดสินและค่าคำบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาขายฝากบ้านบนที่ดินเช่า: กรรมสิทธิ์ย่อมตกแก่ผู้ซื้อฝากเมื่อไม่ไถ่ถอน
โจทก์สร้างบ้านรายพิพาทลงในที่ดินที่โจทก์เช่ามา แล้วขายฝากบ้านไว้กับจำเลยโดยไม่ได้พูดกันถึงเรื่องที่ดินที่ปลูกบ้านพิพาทแต่ขายฝากไว้ในราคาสูงมาก ดังนี้ แสดงให้เห็นว่า สัญญาขายฝากบ้านรายพิพาทนี้โจทก์จำเลยมีความเข้าใจต่อกัน และเจตนาขายฝากบ้านรายพิพาทโดยประสงค์ให้บ้านรายพิพาทคงปลูกอยู่ในที่ดินนั้น ไม่ต้องรื้อบ้านรายพิพาทไป เมื่อโจทก์ไม่ไถ่คืนภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา กรรมสิทธิ์ย่อมตกไปเป็นของจำเลยโดยโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยรื้อบ้านรายพิพาทไป
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินที่ติดจำนอง: สิทธิไถ่ถอนของผู้รับโอนและผลของการยกให้โดยเสน่หา
การที่จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทซึ่งติดจำนองให้แก่ผู้ร้องสิทธิจำนองย่อมติดไปกับที่พิพาทด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 จึงเป็นสิทธิของผู้ร้องจะไถ่จำนองในฐานะผู้รับโอนที่พิพาทมาก็ได้ ถ้าหากผู้ร้องประสงค์จะไถ่ถอนแล้วก็จำต้องใช้เงินค่าไถ่ถอนเองจะถือเอาการที่ต้องไถ่จำนองเองเป็นค่าตอบแทนการโอนหาได้ไม่
ข้อที่ว่าโจทก์ชอบที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการการยกให้เสียก่อนนั้นเมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลสูงก็ย่อมไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปว่าแม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนเสียก่อน ศาลก็มีอำนาจชี้ขาดได้นั้นไม่ทำให้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายชั้นอุทธรณ์ที่ผู้ร้องจะฎีกาต่อมาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินที่มีจำนอง: สิทธิการไถ่ถอนและผลของการโอนโดยเสน่หา
การที่จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทซึ่งติดจำนองให้แก่ผู้รอง สิทธิจำนองย่อมติดไปกับที่พิพาทด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 จึงเป็นสิทธิของผู้ร้องจะไถ่จำนองในฐานะผู้รับโอนที่พิพาทมาก็ได้ ถ้าหากผู้ร้องประสงค์จะไถ่ถอนแล้ว ก็จำต้องใช้เงินค่าไถ่ถอนเอง จะถือเอาการที่ต้องไถ่จำนองเองเป็นค่าตอบแทนการโอนหาได้ไม่
ข้อที่ว่าโจทก์ชอบทีจะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการยกให้เสียก่อนนั้น เมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลสูงก็ย่อมไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปว่า แม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนเสียก่อน ศาลก็มีอำนาจชึ้ขาดได้นั้น ไม่ทำให้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายชั้นอุทธรณ์ที่ผู้ร้องจะฎีกาต่อมาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนขายฝากภายในกำหนด: กรรมสิทธิ์กลับคืนสู่ผู้ขายฝาก โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องาขอให้ขับไล่จำเลยออกจากเรือนซึ่งโจทก์รับซื้อฝากจากจำเลยและพ้นกำหนดไถ่ถอนแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าได้ติดต่อขอไถ่คืนภายในกำหนดแล้ว แต่โจทก์เบี่ยงบ่ายจนพ้นกำหนดอายุขายฝากทั้งเมื่อพ้นกำหนดแล้วจำเลยขอไถ่ โจทก์ก็ยินยอมและรับเงินสินไถ่บางส่วนไปแล้ว ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังข้อต่อสู้ของจำเลย กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทก็จะต้องกลับคืนไปเป็นของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 492 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ คดีจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามข้อต่อสู้ของจำเลยต่อไป จะงดสืบพยานเสียมิชอบ
of 15