พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีอนาถาและการสั่งรับฟ้อง การไม่มาศาลไม่ถือเป็นการทิ้งฟ้อง แต่ให้ยกคำร้องอนาถา
โจทก์ยื่นฟ้องและยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลสั่งรับคำร้องนั้นและนัดไต่สวนคำร้อง ครั้นถึงวันนัดโจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ดังนี้ ศาลจะถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องและสั่งให้จำหน่ายคดีเสียย่อมไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เพราะในชั้นนี้ศาลเพียงแต่สั่งรับคำร้องขอดำเนินคดีอนาถา และสั่งให้ไต่สวนคำร้องเท่านั้น ยังมิได้สั่งรับคำฟ้องไว้เพียงแต่ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีพยานมาให้ไต่สวนให้ได้ความว่าโจทก์เป็นคนอนาถาจริง จึงต้องยกคำร้องเสีย หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในเวลาที่ศาลจะกำหนดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3035/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสัญญาประกันตัวจากการไม่มาศาลและการละเลยหน้าที่ ศาลลดค่าปรับได้หลังยอมความ
ผู้ประกันทำสัญญาประกันตัวจำเลยไปจากศาลมีข้อความว่าถ้าผู้ประกันและจำเลยไม่ปฏิบัติตามหมายนัดหรือหมายเรียกของศาลยอมรับผิดชดใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ศาลนับแต่ประกันตัวจำเลยไปแล้วผู้ประกันมิได้มาศาลตามนัด โดยมีพฤติการณ์แสดงว่าผู้ประกันไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่ของตน ในนัดวันที่ 16 พฤษภาคม 2517 ผู้ประกันก็ไม่มาศาล และจำเลยป่วย ศาลจึงเลื่อนคดีไปวันที่ 1 กรกฎาคม 2517 ได้ออกหมายนัดส่งให้ผู้ประกันรับไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 16มิถุนายน 2517 ครั้นถึงวันที่ 1 จำเลยกับผู้ประกันก็ไม่มาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องต่อศาล แม้ต่อมาจะปรากฏว่าจำเลยได้ส่งจดหมายและใบรับรองของโรงพยาบาลแสดงว่าจำเลยป่วยไปยังทนายจำเลย และมีหนังสือของนายไปรษณีย์แสดงว่าผู้รับเพิ่งได้รับเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2517ก็ตาม แต่ผู้ประกันก็ละเลยต่อหน้าที่ไม่มาศาลและแจ้งข้อขัดข้องที่พึงทราบต่อศาล ดังนี้ เป็นการผิดสัญญาและศาลชอบที่จะสั่งปรับตามสัญญาประกันได้แล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ปรับเต็มตามสัญญาประกันแล้ว โจทก์ได้ถอนฟ้องศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีไปแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจลดค่าปรับให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถาน ไม่ถือเป็นการทิ้งฟ้อง หากศาลยังไม่ได้สั่งให้ชี้สองสถาน
ศาลกำหนดวันชี้สองสถานให้คู่ความทราบวันนัดแล้ว ครั้นถึงกำหนดวันนัด โจทก์ไม่มาศาล เช่นนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถาน ไม่ถือเป็นเหตุทิ้งฟ้อง หากศาลยังสามารถดำเนินกระบวนการต่อไปได้
ศาลกำหนดวันชี้สองสถานให้คู่ความทราบวันนัดแล้ว ครั้นถึงกำหนดวันนัด โจทก์ไม่มาศาล เช่นนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอให้ยกฟ้องเมื่อโจทก์ไม่มาศาล มิใช่การขอให้จำหน่ายคดี
โจทก์รับในเรื่องหน้าที่นำสืบว่าโจทก์จะนำสืบก่อนครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาลตามเวลานัดคงมาแต่ฝ่ายจำเลย จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องของโจทก์เสีย ดังนี้ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามความใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรค 2เพราะเห็นได้ว่าการที่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาคดีนั้นศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้นศาลจะไปสั่งจำหน่ายคดีเสียไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งเอกสารประกอบการต่อสู้คดี และไม่มาศาล ทำให้ศาลถือว่าไม่มีเอกสารนั้น
จำเลยแถลงต่อศาลว่าจะอ้างเอกสารเป็นพยานต่อศาลใน 10วันครั้นถึงกำหนดขอผัดส่งต่อไปอีก 10 วันศาลอนุญาต ครั้นถึงกำหนดนัด จำเลยไม่ส่งเอกสารต่อศาลและจำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาลในวันนัดดังนี้ถือว่าจำเลยไม่มีเอกสารเป็นพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลรับทราบวันนัด ไม่ถือเป็นการไม่มาตามกำหนดนัดตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 166
โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดเพื่อฟังกำหนดวันพิจารณานั้น ไม่เรียกว่า โจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามความหมายในมาตรา 166 ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นศาลจะยกฟ้อง โจทก์ไม่ได้ อ้างฎีกา 93/2483
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6403/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกหมายจับและอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยที่ไม่มาศาลตามนัด แม้ศาลจะนัดฟังคำพิพากษาใหม่แล้ว
จำเลยที่ 2 ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2553 แล้ว แต่เมื่อถึงวันนัดจำเลยที่ 2 ไม่มาศาล แม้หลังจากนั้นศาลชั้นต้นจะเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2553 และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ใหม่ในวันที่ 25 มกราคม 2554 ก็ตาม แต่พฤติการณ์ของจำเลยที่ไม่มาศาลในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2553 ถือได้ว่ามีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 2 หลบหนีหรือจงใจไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 แล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะออกหมายจับจำเลยที่ 2 มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 182 วรรคสาม โดยไม่จำต้องออกหมายนัดแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 มกราคม 2554 ให้จำเลยที่ 2 ทราบอีก ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลับหลังจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8381/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีข้อยุ่งยาก: ศาลฎีกาวินิจฉัยการจำหน่ายคดีเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด โดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้อง
คดีนี้ศาลชั้นต้นให้ดำเนินคดีอย่างคดีไม่มีข้อยุ่งยาก ซึ่ง ป.วิ.พ. มาตรา 196 วรรคสอง บัญญัติให้นำบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ เว้นแต่ มาตรา 190 จัตวา มาใช้บังคับโดยมาตรา 193 ทวิ วรรคหนึ่ง ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นให้อำนาจแก่ศาลที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดี หากปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งให้มาศาลตามมาตรา 193 แล้วไม่มาในวันนัดพิจารณา โดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาล ให้ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ตามบทบัญญัติดังกล่าวแสดงว่าการดำเนินคดีไม่มีข้อยุ่งยาก หากโจทก์ทราบนัดแล้วไม่ได้ขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาล ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ซึ่งเป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้ว กรณีจึงไม่อาจนำ ป.วิ.พ. มาตรา 198 ทวิ มาใช้บังคับแก่คดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเนื่องจากไม่มาศาล ถือว่าคดีถึงที่สุด และไม่มีสิทธิยื่นคำร้องไกล่เกลี่ย
ในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจดแจ้งรายงานไว้ด้านหลังคำพิพากษาว่า "นัดฟังคำพิพากษาฎีกาวันนี้ โจทก์ทั้งสามทราบนัดโดยชอบแล้วแต่ไม่มาศาล จึงให้งดการอ่าน และถือว่าคำพิพากษาได้อ่านให้โจทก์ทั้งสามฟังตามกฎหมาย" กรณีดังกล่าวจึงถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟังโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ส่วนที่โจทก์ที่ 1 อ้างเหตุที่ไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาเพราะเจ็บป่วย ก็ไม่เป็นเหตุให้ต้องมีการนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์ที่ 1 ฟังใหม่ และถือว่าคดีถึงที่สุดในวันที่ถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟังแล้ว การที่โจทก์ที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไกล่เกลี่ยในวันถัดจากวันที่คดีถึงที่สุด จึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาตามคำร้องของโจทก์ที่ 1 อีกต่อไป