พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกไม่มีอำนาจคัดค้านคำสั่งศาลหากไม่ได้รับกระทบโดยตรง
ผู้ร้องสอดโจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดิน ศาลสั่งให้บุคคลภายนอกเป็นผู้มีอำนาจบอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าในที่พิพาทได้ ดังนี้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เช่าจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลโดยปรากฎว่ายังมิได้มีการบอกเลิกสัญญากับผู้ร้องเลยไม่ได้เพราะยังไม่มีฐานะที่จะสอดเข้ามาเกี่ยวข้องในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจแก้ไขเอกสารราชการ แม้จะอยู่ในหน้าที่ แต่ไม่เข้าข่ายความผิดตาม ม.229
จำเลยเป็นเสมียนแผนกสรรพากรมีหน้าที่เขียนใบอนุญาตฆ่าสุกร มีผู้มาขอแก้วันเลื่อนวันฆ่าสุกรจำเลยก็ขูดแก้ให้โดยมิได้รับอนุญาตจากนายอำเภอมีผู้มีหน้าที่โดยตรงดังนี้มีผิดตาม ม.224 แต่ไม่เป็นผิดตาม ม.229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้อำนาจโดยพละการทำให้เสียทรัพย์ แม้เชื่อว่ามีสิทธิแต่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายก็ต้องรับผิด
บอกให้ผู้นำของมาวางไว้ในที่ซึ่งตนเข้าใจว่ามีอำนาจหวงห้ามได้ ให้นำออกไปผู้นั้นไม่นำออกไป จึงได้ขนของ ๆเขาโยนออกไปอย่างไม่ปราณี เป็นเหตุให้ทรัพย์ของเขาแตกหักเสียหายนั้นเป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ วิธีพิจารณาความอาชญา หลักวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เช่าไม่มีสิทธิโดยตรง เจ้าของกรรมสิทธิฟ้องขับไล่ได้เมื่อสัญญาเช่าทำโดยผู้ไม่มีอำนาจ
ผู้ให้เช่าไม่มีกรรมสิทธิในทรัพย์ที่ให้เขาเช่า เจ้าของกรรมสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้
ต่อสู้ดีโดยอาศัยอำนาจผู้อื่นเมื่อคดีของผู้นั้นแพ้แลยุตติแล้วตนก็ไม่มีโอกาศชนะคดีได้
ต่อสู้ดีโดยอาศัยอำนาจผู้อื่นเมื่อคดีของผู้นั้นแพ้แลยุตติแล้วตนก็ไม่มีโอกาศชนะคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการประทับตราโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีความประมาทเลินเล่อ
การที่บุคคลที่ 3 เขียนตั๋วแลลอบประทับตราของจำเลยแล้วนำไปซื้อของจาก โจทก์โดยไม่ได้รับอำนาจจากจำเลย แลทั้งมิใช่ความเลินเล่อของจำเลยในการระวังรักษาดวงตราดังนี้ จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อ โจทก์
จำเลยบังคับอังกฤษ คู่ความฎีกาได้แต่ปัญหากฎหมาย
จำเลยบังคับอังกฤษ คู่ความฎีกาได้แต่ปัญหากฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากผู้พิพากษาลงลายมือชื่อเพียงคนเดียว ทำให้ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณา
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี โดยมีผู้พิพากษาลงลายมือชื่อในคำพิพากษาเพียงคนเดียว เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 (5) ทั้งนี้เพราะผู้พิพากษาคนเดียวจะพิพากษาลงโทษจำคุกเกินหกเดือน หรือปรับเกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งโทษจำคุกหรือปรับอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างเกินอัตราที่กล่าวแล้วไม่ได้ คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยบทกฎหมายข้างต้น ซึ่งมีผลทำให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยังไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้ ต้องให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ถูกต้องก่อน ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 และพ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และพ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17093/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขาย: ผู้รับโอนสิทธิไม่มีอำนาจฟ้องแทนคู่สัญญาเดิม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในฐานะจำเลยเป็นผู้ขาย อันเป็นการฟ้องให้รับผิดตามสัญญาซื้อขาย เมื่อโจทก์โอนสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ทำไว้กับจำเลยให้แก่ ข. ต่อมา ข. ทำสัญญาซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกับจำเลยและจดทะเบียนรับโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมาแล้ว ข. จึงเป็นคู่สัญญากับจำเลย โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลย แม้โจทก์จะได้รับการให้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจาก ข. ก็ตาม แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะให้ ไม่มีบทบัญญัติว่าผู้รับต้องรับสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ ของผู้ให้ไปด้วย ซึ่งต่างจากกรณีทายาทรับมรดกที่จะเป็นผู้สืบสิทธิได้ สิทธิที่จะฟ้องบังคับให้รับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องตามสัญญาซื้อขายเป็นบุคคลสิทธิบังคับได้ระหว่างคู่สัญญาเท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลยจึงไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8871/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของโจทก์ร่วม: ผู้ตายเป็นผู้กระทำผิดก่อน จึงไม่มีอำนาจเป็นโจทก์
ผู้ตายบุกรุกเข้าไปในบ้านของจำเลยโดยถือมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตร เข้าไปหา ฉ. บิดาจำเลยแล้วใช้มีดดาบดังกล่าวฟัน ฉ. เป็นเหตุให้ ฉ. ได้รับอันตรายแก่กาย เมื่อผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ฉ. ก่อน ผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (4) โจทก์ร่วมซึ่งเป็นมารดาของผู้ตายย่อมไม่มีอำนาจจัดการแทนผู้ตายได้ตาม มาตรา 5 (2) และไม่มีอำนาจเข้าร่วมเป็นโจทก์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 30 ดังนี้ โจทก์ร่วมจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม ปัญหาข้อนี้เป็นเรื่องอำนาจฟ้องซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์จากธนาคาร: การกระทำโดยไม่มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดทางอาญา
เงินที่หมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองนำฝากไว้ที่ธนาคารย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารผู้รับฝาก ธนาคารมีหน้าที่ต้องคืนเงินดังกล่าวให้แก่เจ้าของบัญชีตามเงื่อนไขที่ตกลงกันให้ครบถ้วน จำเลยทั้งสามไม่ได้รับมอบการครอบครองและไม่มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลเงินดังกล่าว ดังนั้น เมื่อจำเลยทั้งสามร่วมกันทำเอกสารเท็จนำไปขอเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจลงนามและเงื่อนไขในการสั่งจ่ายเพื่อเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของหมู่บ้านแล้วถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าวโดยไม่มีอำนาจ จึงเป็นการเอาเงินจากบัญชีเงินฝากของหมู่บ้านซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารไปโดยทุจริต การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ของธนาคาร หาใช่เป็นความผิดฐานยักยอกไม่ เพราะการครอบครองเงินมิได้อยู่กับจำเลยทั้งสามในขณะที่จำเลยทั้งสามกระทำความผิด