พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคดีจัดการมรดก: ศาลจำกัดเฉพาะประเด็นทายาท, ประเด็นกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินเป็นคดีต่างหาก
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอจัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก และทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของผู้คัดค้าน ดังนี้ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาคดีโดยไต่สวนคำร้องเฉพาะประเด็นที่ว่าผู้ร้องเป็นทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ว่าทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของผู้คัดค้านหรือไม่ ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านต้องไปดำเนินคดีเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องฟ้องผู้คัดค้านในประเด็นที่ว่า ทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของฝ่ายใดภายใน 1 เดือน เมื่อผู้ร้องไม่ฟ้องคดีภายในกำหนด แต่ได้อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีหาได้ไม่ เพราะการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) หมายถึงการไม่ดำเนินคดีในคดีนั้น ๆ เอง และการฟ้องร้องคดีใด ๆ เป็นสิทธิของบุคคลที่จะกระทำได้ภายในอายุความ ทั้งผู้ร้องก็ยังติดใจดำเนินคดีนี้ไม่ได้ทิ้งฟ้องแต่อย่างใด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องฟ้องผู้คัดค้านในประเด็นที่ว่า ทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของฝ่ายใดภายใน 1 เดือน เมื่อผู้ร้องไม่ฟ้องคดีภายในกำหนด แต่ได้อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีหาได้ไม่ เพราะการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) หมายถึงการไม่ดำเนินคดีในคดีนั้น ๆ เอง และการฟ้องร้องคดีใด ๆ เป็นสิทธิของบุคคลที่จะกระทำได้ภายในอายุความ ทั้งผู้ร้องก็ยังติดใจดำเนินคดีนี้ไม่ได้ทิ้งฟ้องแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคดีจัดการมรดก: ประเด็นทายาท vs. Ownership ทรัพย์สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอจัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ได้เป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก และทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของผู้คัดค้านดังนี้ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาคดีโดยไต่สวนคำร้องเฉพาะประเด็นที่ว่าผู้ร้องเป็นทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกหรือไม่ส่วนประเด็นที่ว่าทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของผู้คัดค้านหรือไม่ ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านต้องไปดำเนินคดีเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องฟ้องผู้คัดค้านในประเด็นที่ว่าทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของฝ่ายใดภายใน 1 เดือนเมื่อผู้ร้องไม่ฟ้องคดีภายในกำหนด แต่ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีหาได้ไม่ เพราะการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) หมายถึงการไม่ดำเนินคดีในคดีนั้น ๆ เอง และการฟ้องร้องคดีใด ๆ เป็นสิทธิของบุคคลที่จะกระทำได้ภายในอายุความ ทั้งผู้ร้องก็ยังติดใจดำเนินคดีนี้ไม่ได้ทิ้งฟ้องแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคดีมรดก: ทายาท/ผู้มีส่วนได้เสีย vs. สิทธิในทรัพย์สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอจัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก และทรัพย์สินตาม บัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของผู้คัดค้าน ดังนี้ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาคดีโดย ไต่สวนคำร้องเฉพาะ ประเด็นที่ว่าผู้ร้องเป็นทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ว่าทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของผู้คัดค้านหรือไม่ ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านต้อง ไปดำเนินคดีเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องฟ้องผู้คัดค้านในประเด็นที่ว่าทรัพย์สินตาม บัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องเป็นของฝ่ายใดภายใน 1 เดือนเมื่อผู้ร้องไม่ฟ้องคดีภายในกำหนด แต่ ได้ อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีหาได้ไม่ เพราะการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) หมายถึง การไม่ดำเนินคดีในคดีนั้น ๆ เอง และการฟ้องร้องคดีใด ๆ เป็นสิทธิของบุคคลที่จะกระทำได้ ภายในอายุความ ทั้งผู้ร้องก็ยังติดใจดำเนินคดีนี้ไม่ได้ทิ้งฟ้องแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเว้นทางภาระจำยอม ทายาทมีสิทธิบังคับคู่สัญญาจดทะเบียนได้
จ. ทำสัญญาขายที่ดินในโฉนดบางส่วนทางด้านติดถนนให้จำเลยตามสัญญาซื้อขายระบุว่า จำเลยสัญญาและรับรองจะเว้นที่ดินทางขวามือเป็นถนนกว้าง 3 เมตร ยาวจดที่ดินของจำเลยให้ จ. มีสิทธิเดินและใช้รถยนต์เข้าไปถึงที่ดินส่วนที่เหลือของ จ. ได้ตลอดไป ดังนี้ ข้อสัญญาดังกล่าวเป็นข้อสัญญาก่อตั้งภาระจำยอมในทางพิพาท เมื่อ จ. ตาย โจทก์ในฐานะทายาทผู้รับมรดกที่ดินส่วนที่เหลือของ จ. ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาให้ไปจดทะเบียนทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินที่มีข้อกำหนดเว้นที่ดินเป็นทางภารจำยอม ทายาทมีสิทธิบังคับให้จดทะเบียนได้
จ. ทำสัญญาขายที่ดินในโฉนดบางส่วนทางด้านติดถนนให้จำเลยตามสัญญาซื้อขายระบุว่า จำเลยสัญญาและรับรองจะเว้นที่ดินทางขวามือเป็นถนนกว้าง 3 เมตร ยาวจดที่ดินของจำเลยให้ จ. มีสิทธิเดินและใช้รถยนต์เข้าไปถึงที่ดินส่วนที่เหลือของ จ.ได้ตลอดไป ดังนี้ข้อสัญญาดังกล่าวเป็นข้อสัญญาก่อตั้งภารจำยอมในทางพิพาท เมื่อจ. ตาย โจทก์ในฐานะทายาทผู้รับมรดกที่ดินส่วนที่เหลือของ จ.ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาให้ไปจดทะเบียนทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมจากการสัญญาซื้อขายที่ดิน: สิทธิของทายาทในการบังคับใช้สิทธิทางภาระจำยอม
จ. ทำสัญญาขายที่ดินในโฉนด บางส่วนทางด้าน ติดถนน ให้จำเลยตาม สัญญาซื้อขายระบุว่า จำเลยสัญญาและรับรองจะเว้น ที่ดินทางขวามือเป็นถนน กว้าง 3 เมตร ยาวจดที่ดินของจำเลยให้ จ. มีสิทธิเดิน และใช้ รถยนต์ เข้าไปถึง ที่ดินส่วนที่เหลือของ จ. ได้ตลอดไป ดังนี้ ข้อสัญญาดังกล่าวเป็นข้อสัญญาก่อตั้งภาระจำยอมในทางพิพาทเมื่อ จ. ตาย โจทก์ในฐานะ ทายาทผู้รับมรดกที่ดินส่วนที่เหลือของ จ. ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยซึ่ง เป็นคู่สัญญาให้ไปจดทะเบียนทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบอกล้างโมฆียกรรมของทายาท: ต้องรอการเสียชีวิตของเจ้าของนิติกรรม
คำว่า "ทายาทของบุคคลเช่นว่านั้น" ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 อันจะมีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมซึ่งผู้ไร้ความสามารถหรือผู้ได้ทำการแสดงเจตนาโดยวิปริตได้กระทำลง จะมีได้ก็ต่อเมื่อบุคคลดังกล่าวถึงแก่ความตายไปแล้ว ดังนั้น เมื่อบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่และได้ทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินอันเป็นโมฆียะ ผู้สืบสันดานของบุคคลเช่นว่านั้นจึงไม่มีสิทธิบอกล้างนิติกรรมอันเป็นโมฆียะได้ และไม่มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรม: ทายาทต้องรอการตายของผู้ทำนิติกรรมวิกลจริต จึงจะมีสิทธิ
สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมของทายาทของผู้ไร้ความสามารถหรือผู้ได้ทำการแสดงเจตนาโดยวิปริตตาม ป.พ.พ. มาตรา 137นั้น จะมีได้ต่อเมื่อผู้ไร้ความสามารถหรือผู้ได้แสดงเจตนาโดยวิปริตได้ถึงแก่ความตายลงโดยมิได้มีการบอกล้างโมฆียะกรรมก่อนถึงแก่ความตาย ฉะนั้นเมื่อบิดาโจทก์ยังมีชีวิตอยู่แม้จะทำนิติกรรมขณะวิกลจริต โจทก์ก็เป็นเพียงผู้สืบสันดานเท่านั้น โจทก์จึงมิใช่ทายาทอันจะมีสิทธิบอกล้างนิติกรรมอันเป็นโมฆียะได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างโมฆียกรรมของทายาท: ต้องรอจนเจ้ามรดกถึงแก่ความตายก่อน
คำว่า "ทายาทของบุคคลเช่นว่านั้น" ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 อันจะมีสิทธิบอกล้างโมฆียกรรมซึ่งผู้ไร้ความสามารถ หรือผู้ได้ทำการแสดงเจตนาโดยวิปริตได้กระทำลง จะมีได้ก็ต่อเมื่อบุคคลดังกล่าวถึงแก่ความตายไปแล้วดังนั้น เมื่อบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่และได้ทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินอันเป็นโมฆียะ ผู้สืบสันดานของบุคคลเช่นว่านั้นจึงไม่มีสิทธิบอกล้างนิติกรรมอันเป็นโมฆียะได้ และไม่มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบอกล้างโมฆียะกรรม: ทายาทมีสิทธิหลังเจ้ามรดกถึงแก่ความตายเท่านั้น
คำว่า "ทายาทของบุคคลเช่นว่านั้น" ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 อันจะมีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมซึ่งผู้ไร้ความสามารถหรือผู้ได้ทำการแสดงเจตนาโดยวิปริตได้กระทำลง จะมีได้ก็ต่อเมื่อบุคคลดังกล่าวถึงแก่ความตายไปแล้ว ดังนั้น เมื่อบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่และได้ทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินอันเป็นโมฆียะ ผู้สืบสันดานของบุคคลเช่นว่านั้นจึงไม่มีสิทธิบอกล้างนิติกรรมอันเป็นโมฆียะได้ และไม่มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าว.