คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุนทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 764 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีล้มละลายเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท
ในคดีล้มละลายที่บุคคลคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หากทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองพันบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่า 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 248
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411-1412/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาที่บังคับใช้กับบริวาร และข้อจำกัดการฎีกาในคดีที่มีทุนทรัพย์น้อย
ศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ คดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวกจำเลยนั้น นายดวกต่อสู้กรรมสิทธิ์ ทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สำนวนที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายหนูจำเลย นายหนูไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ถึงแม้นายหนูจะฎีกาได้ก็ตาม แต่ปรากฏว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวก เมื่อนายหนูต่อสู้ว่าอาศัยสิทธินายดวก จึงเป็นบริวารนายดวก ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งบังคับแก่นายดวก ย่อมบังคับถึงนายหนูจำเลยด้วย นายหนูจะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้ว ให้วินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411-1412/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดสิทธิฎีกาข้อเท็จจริงในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และผลกระทบของคำพิพากษาต่อบริวาร
ศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ คดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวกจำเลยนั้นนายดวกต่อสู้กรรมสิทธิ์ ทุนทรัพย์ไม่เกิน5,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สำนวนที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายหนูจำเลย นายหนูไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ถึงแม้นายหนูจะฎีกาได้ก็ตาม แต่ปรากฏว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่โจทก์ฟ้องขับไล่นายดวก เมื่อนายหนูต่อสู้ว่าอาศัยสิทธินายดวก จึงเป็นบริวารนายดวก ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งบังคับแก่นายดวก ย่อมบังคับถึงนายหนูจำเลยด้วย นายหนูจะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้วให้วินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: การต่อสู้คดีโดยอ้างสิทธิของผู้อื่นทำให้คดีไม่มีทุนทรัพย์
โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลย จำเลยปลูกบ้านเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของมารดา เมื่อจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีกรรมสิทธิ์ที่ดิน: ประเด็นทุนทรัพย์และข้อจำกัดการยกข้อต่อสู้ในชั้นฎีกา
ฟ้องว่าจำเลยบุกรุก ขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นจำเลย ดังนี้ เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แม้จะมีคำขอให้ขับไล่รวมอยู่ด้วย ก็เป็นเพียงผลต่อเนื่องในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่พิพาทเท่านั้น ประเด็นสำคัญของคดีอยู่ที่ว่าที่พิพาทเป็นของใคร จึงถือไม่ได้ว่าเป็นคดีมีคำขออันไม่มีทุนทรัพย์แยกกันได้จากคำขอที่เป็นทุนทรัพย์ เมื่อศาอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและที่พิพาทมีราคาไม่เกิน 5,000 บาท คู่ความจึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงมิได้(อ้างคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 568/2504)
คดีก่อน โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก คดีหลังโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินที่ได้มาจากคดีก่อนเป็นคนละประเด็นไม่เป็นฟ้องซ้ำ
จำเลยต่อสู้ในศาลชั้นต้นว่า ฟ้องเคลือบคลุม แต่มิได้ยกขึ้นอ้างในชั้นศาลอุทธรณ์ ดังนี้ จะมาอ้างในชั้นศาลฎีกามิได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และสิทธิในที่ดิน: การฎีกาถูกจำกัดเนื่องจากข้อเท็จจริงและทุนทรัพย์
แม้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาท จำเลยที่ 1 เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท แต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้สละการครอบครองให้บุตรีโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองแล้ว ก็ถือได้ว่าทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์ เมื่อคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของทุนทรัพย์ ไม่ใช่การแบ่งส่วนทรัพย์สิน
สัญญาจ้างว่าความที่ทนายความเรียกค่าจ้างจากลูกความยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องคิดเป็นเงินค่าจ้าง 24,200 บาทนั้น เป็นค่าจ้างที่แน่นอน การที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ เป็นเพียงอาศัยเป็นเกณฑ์คำนวณค่าจ้างว่าความว่าจะเรียกร้องค่าจ้างคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าใดของทุนทรัพย์ที่ฟ้องเท่านั้น หาใช่เป็นสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทที่ลูกความจะพึงได้รับเมื่อชนะคดีไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฉะนั้น จึงย่อมบังคับกันได้ตามสัญญานั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาและการฎีกาข้อเท็จจริงที่ถูกจำกัดเนื่องจากแก้ไขคำพิพากษาเพียงเล็กน้อย
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในอนาคตแก่โจทก์ในอัตราวันละ 10 บาทจนกว่าจำเลยจะเลิกเกี่ยวข้องในที่พิพาทด้วยนอกนั้นยืน เช่นนี้ เป็นเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และจำเลยจะคำนวณค่าเสียหายในอนาคตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์รวมเข้ากับทุนทรัพย์ที่ตั้งพิพาทกันมาเพื่อให้เกินห้าพันบาทโดยถือเอาเป็นทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาและขอฎีกาในข้อเท็จจริงเช่นนี้ หาชอบที่จะกระทำได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทุนทรัพย์ในการฎีกา: คำนวณจากทุนทรัพย์ที่ฟ้องในศาลชั้นต้น แม้ทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาจะต่ำกว่าเกณฑ์
ทุนทรัพย์ที่จะถือเป็นหลักฎีกาในข้อเท็จจริงได้หรือไม่นั้น ให้ถือทุนทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้องในศาลชั้นต้นเป็นเกณฑ์ ไม่ใช่ที่ศาลล่างตัดสินให้
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทราคา 5,000 บาทเป็นของโจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ละเมิดเก็บเกี่ยวข้าวในที่พิพาทไปเป็นราคาเงิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์แม้ว่าค่าเสียหายจะให้เพียง 200 บาทเท่านั้นก็ตาม คู่ความก็ฎีกาข้อเท็จจริงได้
of 77