คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุกรุก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรมการอำเภอในการสั่งให้ผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ออกจากพื้นที่และการขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
กรมการอำเภอมีอำนาจสั่งให้ผู้บุกรุกเข้าทำนา ออกจากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งจัดไว้ให้ราษฎรเลี้ยงสัตว์ร่วมกันถ้าขัดขืนอาจมีความผิดฐานขัดคำสั่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน กรณีบุกรุกเหมืองสาธารณะ กรมการอำเภอมีอำนาจสั่งให้แก้ไข
การที่จำเลยไม่ยอมให้ใครเข้าไปซ่อมเหมืองสาธารณะ ซึ่งคันเหมือนถูกทำลายเป็นเหตุให้น้ำไม่ไหล ไปตามลำเหมืองไปสู่นาของราษฎรตามปกตินั้น กรมการอำเภอย่อมมีอำนาจตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457
มาตรา 122 ที่จะสั่งให้จำเลยเลิกถอนการบุกรุกเหมืองนี้ได้ เมื่อสั่งแล้ว จำเลยบังอาจขัดขืนโดยยึดถือเอาเหมืองนั้น
เป็นที่ของตนเสีย ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าไปซ่อม หรือทำเหมืองให้น้ำไหลไปตามปกติแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิดฐานขัด
คำสั่งเจ้าพนักงานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 334(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์เพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นความผิดทางอาญา
ที่ดินที่เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ.มาตรา 1304 (2) และเป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษามิให้ผู้ใดเกียดกันเอาไปเป็นประโยชน์เฉพาะตัวตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ 2457 ฉะนั้นเมื่อปรากฎว่ามีบุคคลบุกรุกเข้ามาทำนาหรือครอบครองเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียกรมการอำเภอย่อมมีอำนาจมีคำสั่งให้ผู้บุกรุกนั้นออกไปได้ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนก็ย่อมมีความผิดฐานขัดคำสั่งตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 334

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อประโยชน์ส่วนตัว นายอำเภอมีอำนาจสั่งให้รื้อถอน
ที่ดินที่เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) และเป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษามิให้ผู้ใดเกียดกันเอาไปเป็นประโยชน์เฉพาะตัวตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ 2457 ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่ามีบุคคลบุกรุกเข้ามาทำนาหรือครอบครองเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย กรมการอำเภอย่อมมีอำนาจมีคำสั่งให้ผู้บุกรุกนั้นออกไปได้ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนก็ย่อมมีความผิดฐานขัดคำสั่งตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่พิพากษายกฟ้องเนื่องจากเป็นข้อพิพาทเรื่องสัญญาเช่าและสิทธิในทางแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกห้องเช่าที่ผู้เสียหายเช่ามา ขอให้ลงโทษฐานบุกรุกทางอาญา เมื่อผู้เสียหายแถลงรับว่าจำเลยเป็นภรรยาผู้ให้เช่าและเป็นผู้ดูแลสถานที่ ที่ผู้เสียหายเช่าอยู่ ผู้เสียหายว่าได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง จำเลยว่าเช่าเพียงหนึ่งคูหา ดังนี้ แม้จะให้สืบพยานต่อไปและได้ความว่า ผู้เสียหายได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง มิใช่หนึ่งคูหา ดังที่จำเลยกล่าวก็เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า อันเป็นกรณีแพ่งนั่นเอง ศาลจึงพิพากษายกฟ้องเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการเช่าพื้นที่และการฟ้องบุกรุก: กรณีขัดแย้งเรื่องพื้นที่เช่าที่แท้จริงเป็นประเด็นแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกห้องเช่าที่ผู้เสียหายเช่ามา ขอให้ลงโทษฐานบุกรุกทางอาญา เมื่อผู้เสียหายแถลงรับว่าจำเลยเป็นภรรยาผู้ให้เช่าและเป็นผู้ดูแลสถานที่ที่ผู้เสียหายเช่าอยู่ ผู้เสียหายว่าเช่าเพียงหนึ่งคูหาครึ่ง จำเลยว่าเช่าเพียงหนึ่งคูหา ดังนี้ แม้จะให้สืบพยานต่อไปและได้ความว่า ผู้เสียหายได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่งมิใช่หนึ่งคูหาดังที่จำเลยกล่าวก็เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า อันเป็นกรณีแพ่งนั่นเอง ศาลจึงพิพากษายกฟ้องเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238-1240/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหะสถานของผู้ให้เช่า ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
ความผิดฐานบุกรุก ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 329 นั้น เคหะที่บุกรุกนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นของจำเลย
จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องของจำเลย ซึ่งได้ให้โจทก์เช่าอยู่อาศัย ดังนี้
ยังไม่เป็นความผิดในทางอาญาฐานบุกรุก
(อ้างฎีกาที่ 816 - 817 /2493

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238-1240/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกต้องไม่ใช่เคหะของตนเอง
ความผิดฐานบุกรุก ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 329 นั้นเคหะที่บุกรุกนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นของจำเลย
จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องของจำเลย ซึ่งได้ให้โจทก์เช่าอยู่อาศัย ดังนี้ ยังไม่เป็นความผิดในทางอาญาฐานบุกรุก (อ้างฎีกาที่ 816-817/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท แม้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว หากเจ้าของกรรมสิทธิยังไม่ได้เข้าครอบครอง การกระทำของผู้ครอบครองเดิมจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยครอบครองทำนาพิพาทอยู่ก่อน ภายหลังเป็นความกับโจทก์ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่นาพิพาท แต่โจทก์ยังมิได้จัดการให้ได้มาซึ่งการครอบครองแต่ประการใด จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทต่อไปตามเคย ดังนี้การกระทำของจำเลยยังไม่เข้าหลักอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 327

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาทหลังศาลตัดสินให้กรรมสิทธิ์ตกแก่ผู้อื่น ไม่ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยครอบครองทำนาพิพาทอยู่ก่อน ภายหลังเป็นความกับโจทก์ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่นาพิพาทแต่โจทก์ยังมิได้จัดการให้ได้มาซึ่งการครอบครองแต่ประการใด จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทต่อไปตามเคย ดังนี้การกระทำของจำเลยยังไม่เข้าหลักอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 327
of 79