คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องแย้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 754 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณา ต้องรอคำพิพากษาคดีหลักก่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าที่ดินและตึกพิพาทจากโจทก์ จำเลยไม่ชำระค่าเช่าค่าภาษีโรงเรือนให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร ให้จำเลยชำระค่าเช่าค่าเสียหาย และค่าภาษีโรงเรือน จำเลยฟ้องแย่งว่าให้โจทก์ไปจัดการจดทะเบียนการเช่าให้แก่จำเลยมีกำหนด 10 ปี ดังนี้ เมื่อสัญญาเช่านั้นมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยจะมาฟ้องบังคับโจทก์ให้จดทะเบียนหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1538/2509) แม้ศาลจะรับฟ้องแย้งจำเลยไว้ จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดี
ส่วนข้อที่จำเลยฟ้องแย้งว่า ให้โจทก์ไปจัดการเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนตามประเพณีผู้ให้เช่าเดิมปฏิบัติให้โจทก์จัดการให้มีกระแสไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ในตึกแถวรายพิพาท เมื่อโจทก์ปฏิบัติการดังกล่าวแล้ว จึงให้โจทก์ไปจัดการเก็บค่าเช่าและค่าภาษีโรงเรือนที่จำเลยยังไม่ได้ชำระให้ ดังนี้ ล้วนแต่เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ทั้งเป็นฟ้องล่วงหน้าที่มีเงื่อนไขซึ่งหมายความว่า หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี มีสิทธิอยู่ในตึกพิพาท จึงจะมีสิทธิขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติการตามฟ้องแย้งได้ เมื่อเป็นฟ้องแย้งที่จะรวมพิจารณาร่วมกับฟ้องเดิมไม่ได้ ก็ยังไม่เป็นฟ้องแย้งที่ควรจะพึงรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม & สัญญาเช่าไม่จดทะเบียนบังคับไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าที่ดินและตึกพิพาทจากโจทก์จำเลยไม่ชำระค่าเช่าค่าภาษีโรงเรือนให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร ให้จำเลยชำระค่าเช่าค่าเสียหาย และค่าภาษีโรงเรือน จำเลยฟ้องแย้งว่าให้โจทก์ไปจัดการจดทะเบียนการเช่าให้แก่จำเลยมีกำหนด 10 ปี ดังนี้เมื่อสัญญาเช่านั้นมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยจะมาฟ้องบังคับโจทก์ให้จดทะเบียนหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1538/2509) แม้ศาลจะรับฟ้องแย้งจำเลยไว้ จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดี
ส่วนข้อที่จำเลยฟ้องแย้งว่า ให้โจทก์ไปจัดการเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนตามประเพณีผู้ให้เช่าเดิมปฏิบัติให้โจทก์จัดการให้มีกระแสไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ในตึกแถวรายพิพาท เมื่อโจทก์ปฏิบัติการดังกล่าวแล้ว จึงให้โจทก์ไปจัดการเก็บค่าเช่าและค่าภาษีโรงเรือนที่จำเลยยังไม่ได้ชำระให้ดังนี้ ล้วนแต่เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมทั้งเป็นฟ้องล่วงหน้าที่มีเงื่อนไขซึ่งหมายความว่า หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี มีสิทธิอยู่ในตึกพิพาท จึงจะมีสิทธิขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติการตามฟ้องแย้งได้เมื่อเป็นฟ้องแย้งที่จะรวมพิจารณาร่วมกับฟ้องเดิมไม่ได้ก็ยังไม่เป็นฟ้องแย้งที่ควรจะพึงรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขพิจารณารวมกับฟ้องเดิมไม่ได้ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่าเพื่อขอให้ยกฟ้องโจทก์ และฟ้องแย้งว่าเมื่อโจทก์จะให้จำเลยเลิกเช่า โจทก์จะต้องคืนเงินค่าเช่าบางส่วนแก่จำเลย ดังนี้ เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไขพิจารณารวมไปกับฟ้องเดิมไม่ได้ จึงไม่ชอบที่จะรับฟ้องแย้งเช่นนี้ไว้พิจารณา (อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขไม่ชอบ ศาลไม่รับพิจารณารวมกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้เพื่อขอให้ยกฟ้องโจทก์ และฟ้องแย้งว่าเมื่อโจทก์จะให้จำเลยเลิกเช่าโจทก์จะต้องคืนเงินค่าเช่าบางส่วนแก่จำเลย ดังนี้เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไขพิจารณารวมไปกับฟ้องเดิมไม่ได้จึงไม่ชอบที่จะรับฟ้องแย้งเช่นนี้ไว้พิจารณา (อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีพิพาทที่ดินสาธารณสมบัติ การฟ้องแย้งขับไล่ไม่ใช่คดีกรรมสิทธิ์
จำเลยฟ้องแย้งในฐานะนายอำเภอและประธานสุขาธิบาล ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทีพิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย มิใช่เป็นคดีที่พิพาทโต้แย้งด้วยกรรมสิทธิ์ที่พิพาท จึงเสียค่าขึ้นศาลอย่างมีคดีที่มีคำให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้งกรณีที่ดินสาธารณสมบัติ - มิใช่คดีกรรมสิทธิ์
จำเลยฟ้องแย้งในฐานะนายอำเภอและประธานสุขาภิบาล ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยมิใช่เป็นคดีที่พิพาทโต้แย้งด้วยกรรมสิทธิ์ที่พิพาท จึงเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข ไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม จึงไม่รวมพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้ และฟ้องแย้งว่าถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่า ก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและใช้ค่าขนย้ายกับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่ ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข คือ ขอให้บับคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาขับไล่ จึงไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณา และชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 3 และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย.
(อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม จึงรวมพิจารณาไม่ได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้และฟ้องแย้งว่าถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่า ก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและใช้ค่าขนย้ายกับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข คือขอให้บังคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาขับไล่จึงไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย(อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งทำลายสัญญาเช่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย และเรียกค่าเสียหายโดยอ้างสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกมาประกอบการเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกทำขึ้นโดยไม่สุจริตและฟ้องแย้งขอให้ทำลายสัญญาเช่า ศาลสั่งรับเฉพาะคำให้การ ส่วนฟ้องแย้งนั้นถือว่าสัญญาเช่านั้นเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอก จำเลยไม่มีส่วนได้เสียถึงกับจะขอให้ศาลสั่งทำลายสัญญานั้นได้ ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จำเลยจะฟ้องแย้งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งทำลายสัญญาเช่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย และเรียกค่าเสียหายโดยอ้างสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกมาประกอบการเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกทำขึ้นโดยไม่สุจริตและฟ้องแย้งขอให้ทำลายสัญญาเช่า ศาลสั่งรับเฉพาะคำให้การ ส่วนฟ้องแย้งนั้นถือว่าสัญญาเช่านั้นเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอก จำเลยไม่มีส่วนได้เสียถึงกับจะขอให้ศาลสั่งทำลายสัญญานั้นได้ ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมจำเลยจะฟ้องแย้งไม่ได้
of 76