คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลูกหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 829 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินโดยลูกหนี้รู้ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ผู้รับโอนต้องรับผิดชอบ
ทำสัญญาจะขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก โดยส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองและได้รับเงินค่าที่ดินไปแล้ว กลับเอาที่ดินนั้นไปจดทะเบียนโอนขายให้คนอื่นโดยผู้รับโดยได้รู้ถึงคามจริงเป็นทางให้ผู้ซื้อคนแรกซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่พิพาทนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโกงเจ้าหนี้ (ม.350) ต้องมีการใช้สิทธิทางศาลเรียกหนี้แล้ว หรือกำลังดำเนินการ
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 นั้น เจ้าหนี้จะต้องใช้สิทธิทางศาลให้ชำระหนี้แล้วอย่างหนึ่ง หรือว่าจะใช้สิทธิทางศาลให้ลูกหนี้ชำระหนี้อีกอย่างหนึ่ง เป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย ฉะนั้น เมื่อเจ้าหนี้ยังไม่ได้ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่ง หรือการที่เจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีอาญาก็เพียงเพื่อให้ลูกหนี้หาประกันมาให้เจ้าหนี้เป็นที่พอใจแล้วจะไม่เอาเรื่องแก่ลูกหนี้ อันเป็นการแสดงว่าเจ้าหนี้ยังจะไม่ใช้สิทธิทางศาลเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แล้ว การที่ลูกหนี้โอนที่ดินให้ผู้อื่นไป จึงยังไม่ผิดฐานโกงเจ้าหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ผิดแปลง: ศาลวินิจฉัยสิทธิในทรัพย์สินของผู้ซื้อจากบุคคลที่ไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
(1) เมื่อผู้ร้องกล่าวในคำร้องขัดทรัพย์ว่าโจทก์นำยึดได้เฉพาะทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา แต่โจทก์กลับไปยึดทรัพย์ของคนอื่นดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าคนอื่นนั้นเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ การวินิจฉันเช่นนี้ ไม่ใช่นอกประเด็น
(2) เมื่อฟังได้ว่าผู้ร้องซื้อที่พิพาทจากคนอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ เช่นนี้ย่อมไม่มีประเด็นที่จำพึงวินิจฉัยว่า ที่นั้นคนอื่นได้มาอย่างไร เคยตกอยู่ในกองมรดกของใครหรือไม่
(3) การเรียกค่าธรรมเนียมเป็นดุลพินิจของศาล ถ้าเรียกน้อย อาจเรียกเพิ่มได้ เมื่อศาลชั้นต้นเห็นไม่ควรเรียก ก็ไม่ทำให้การพิจารณาคดีเปลี่ยนแปลงไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ผิดพลาด: ศาลวินิจฉัยว่าการยึดทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ
(1) เมื่อผู้ร้องกล่าวในคำร้องขัดทรัพย์ว่าโจทก์นำยึดได้เฉพาะทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่โจทก์กลับไปยึดทรัพย์ของคนอื่นดังนี้ จึงเป็นประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าคนอื่นนั้นเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ การวินิจฉัยเช่นนี้ ไม่ใช่นอกประเด็น
(2) เมื่อฟังได้ว่าผู้ร้องซื้อที่พิพาทจากคนอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์เช่นนี้ย่อมไม่มีประเด็นที่จะพึงวินิจฉัยว่า ที่นั้นคนอื่นได้มาอย่างไรเคยตกอยู่ในกองมรดกของใครหรือไม่
(3) การเรียกค่าธรรมเนียมเป็นดุลพินิจของศาลถ้าเรียกน้อย อาจเรียกเพิ่มได้ เมื่อศาลชั้นต้นเห็นไม่ควรเรียกก็ไม่ทำให้การพิจารณาคดีเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายซ้ำ: สิทธิเรียกร้องหนี้ที่หมดอายุในคดีล้มละลายก่อนหน้า ไม่อาจฟ้องล้มละลายซ้ำได้
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 2 จำนวน โจทก์เคยฟ้องจำเลยให้ล้มละลายในหนี้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทั้ง 2 จำนวนในกำหนด ศาลจึงสั่งยกเลิกการล้มละลายเสีย ดังนี้ โจทก์จะเอาหนี้ 2 จำนวนนั้นมาฟ้องล้มละลายอีกไม่ได้ เพราะถ้ายอมให้ฟ้องได้ก็เท่ากับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาขอรับชำระหนี้อันผิดบทบัญญัติในพระราชบัญญัติล้มละลาย
การที่ศาลจะสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือให้ล้มละลายนั้น ย่อมทำให้ลูกหนี้ถูกจำกัดสิทธิและไม่สามารถจัดกิจการทรัพย์สินได้ด้วยตนเอง จึงต้องเป็นไปโดยมีเหตุสมควรจริง ๆ ไม่ใช่ให้ใช้กฎหมายล้มละลายเป็นเครื่องมือบีบคั้นลูกหนี้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับเงินอย่างเดียวไม่ถือเป็นหลักฐานการกู้ยืม ต้องมีข้อความแสดงความเป็นลูกหนี้
เอกสารที่มีข้อความเพียงว่ารับเงินไปจำนวนหนึ่งแล้วลงชื่อจำเลยโดยไม่มีข้อความแสดงว่า ในการรับเงินจำเลยเป็นลูกหนี้จะใช้เงินคืนแก่โจทก์แต่อย่างใดนั้น ฟังเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาล้มละลายเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ตามข้อตกลง
การที่เจ้าหนี้บางรายในคดีล้มละลายเสนอเงื่อนไขในการประชุมพิจารณาคำขอประนอมหนี้ว่า ถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ ตาม+ในการประนอมหนี้ จะยอมถอนคำขอรับชำระหนี้นั้น เป็นคำมั่นที่จะให้เจ้าหนี้อื่นได้รับผลเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ หาใช่เป็นการค้ำประกันเพื่อให้เป็นการประนอมหนี้เด็ดขาดหรือให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากการที่ศาลจะพิพากษาให้ล้มละลายไม่ฉะนั้น เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงไว้ ศาลย่อมมีอำนาจยกเลิกการประนอมประหนี้ และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจยึดทรัพย์ภาษีอากรอยู่ภายใต้กฎหมายล้มละลาย ทรัพย์สินยังเป็นของลูกหนี้จนกว่าจะมีการขายทอดตลาด
อำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายล้มละลาย ฉะนั้น การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ยึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระค่าภาษีอากรที่ค้าง แต่ยังไม่ทันได้ขาย จำเลยได้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เสียก่อนเช่นนี้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นจึงยังคงอยู่แก่จำเลย และเป็นทรัพย์ที่จำเลยมีอยู่ในเวลาเริ่มต้นแห่งการล้มละลายซึ่งตามกฎหมายย่อมเป็นทรัพย์ที่อาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ไม่มีทางที่จะถือได้ว่าทรัพย์นั้นได้ตกเป็นของแผ่นดินไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ จำเป็นต้องพิสูจน์เจตนาลูกหนี้ขณะทำนิติกรรม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 มีข้อความระบุว่าจะต้องเป็นนิติกรรมที่ลูกหนี้ได้กระทำลงโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ การรู้ดังกล่าวนี้จะต้องรู้อยู่ขณะที่ทำนิติกรรมการโอน และฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างถึงเหตุดังกล่าวนี้ ฝ่ายจำเลยให้การปฏิเสธจึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้รับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1102/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีหนี้เงินกู้: การมีส่วนร่วมในการทำสัญญาและการไม่มีหนี้โดยตรง
ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เงินสามีโจทก์ไป ต่อมาสามีโจทก์ตาย โจทก์เป็นผู้รับมรดก ได้มอบให้ ส.เป็นผู้รักษาสัญญาไว้ และจัดการทรัพย์สินตามเอกสารสัญญา ส.นำสัญญากู้คืนให้จำเลยที่ 1 แล้วทำสัญญากู้ใหม่ โดยใส่ชื่อ ส.เป็นผู้ให้กู้และใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้กู้แทน โจทก์กับ ส. จึงมีคดีพิพาทกันและทำสัญญายอมความกันไว้ โดยส.รับว่าเงินรายนี้เป็นของสามีโจทก์จริง โจทก์จึงขอให้บังคับให้จำเลยทั้งสองใช้หนี้ เงินกู้นั้น ดังนี้ เมื่อเป็นที่เห็นได้ตามคำฟ้องว่า ส.กระทำไปโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมในการกระทำระหว่าง ส.กับจำเลยทั้งสอง จะถือว่าโจทก์ฟ้องว่ากรณีเป็นการแปลงหนี้ โดยชอบแล้วหาได้ไม่โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะที่จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เงินสามีโจทก์ไปได้ ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ได้กู้เงินสามีโจทก์ไป ก็ไม่มีหนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 โจทก์จะฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดด้วยไม่ได้ (อนึ่ง ในปัญหาข้อนี้ แม้จำเลยจะขอให้ ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นว่า โจทก์ฟ้องโดยอาศัยสิทธิเรียกร้องของ ส. ตามสัญญาประนีประนอม แต่โจทก์หรือ ส. มิได้แจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ทราบ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แต่เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 เพราะไม่มีหนี้ต่อกัน ดังนี้ ศาลก็ย่อมพิพากษาให้ยกฟ้องคดีสำหรับจำเลยที 2 เสียได้
of 83