คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีแพ่ง: การไม่มาศาลตามนัดของจำเลยทำให้ศาลดำเนินการสืบพยานฝ่ายเดียวได้ และเหตุลืมวันนัดไม่ใช่เหตุสมควรขอพิจารณาคดีใหม่
คดีแพ่ง ในวันเริ่มต้นสืบพยานโจทก์ จำเลยทราบวันนัดแล้วไม่มาศาล ศาลจึงสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว นั้น เป็นการชอบแล้ว ข้อที่จำเลยอ้างว่าพลั้งเผลอหลงลืมวันนัดนั้น หาใช่เหตุสมควรที่จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารสัญญาที่ส่งหลังสืบพยานเป็นผลเสียต่อโจทก์, จำเลยร่วมในฐานะบริวารไม่คุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การที่จำเลยเพิ่งส่งสำเนาเอกสารสัญญาหลังจากโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว ย่อมทำให้โจทก์เสียเปรียบในทางคดี เพราะอย่างน้อยก็ทำให้หมดโอกาสที่จะซักถามพยานโจทก์หรือนำสืบหักล้างได้ศาลย่อมไม่ฟังเอกสารสัญญานั้นเป็นพยานหลักฐาน
จำเลยร่วมซึ่งเช่าห้องแถวจากจำเลยแม้จะเช่าเพื่ออยู่อาศัยก็ตามเมื่ออยู่ในฐานะเป็นบริวารของจำเลยแล้ว ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษอาญาตามข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกับฟ้อง แม้การสืบพยานจะยังไม่สมบูรณ์
ฟ้องกล่าวบรรยายข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยหลายประการ และโจทก์ได้สืบได้สมบ้างไม่สมบ้าง เมื่อการกระทำที่ฟังได้สมฟ้องนั้นเป็นการกระทำซึ่งเป็นควาผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้ว ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง จะถือว่าเป็นกรณีข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในการพิจารณาแตกต่งกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเอกสารสูญหายในคดีหย่า: จำเลยมีสิทธิขอสืบพยานบุคคลแทนเอกสารได้ แม้ไม่ได้กล่าวไว้ในคำให้การ
โจทก์ฟ้องขอหย่ากับจำเลย จำเลยให้การว่าโจทก์กับจำเลยได้หย่ากันแล้วโดยทำหนังสือหย่า ในชั้นสืบพยาน จำเลยย่อมอ้างได้ว่าเอกสารการหย่าสูญหายไป ขอนำสืบพยานบุคคลแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 (ก) โดยสืบให้ฟังได้ด้วยว่าจำเลยไม่สามารถนำเอกสารนั้นมาแสดงเสียแล้ว ทั้งนี้ โดยจำเลยไม่จำต้องกล่าวไว้ในคำให้การด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานแทนเอกสารสูญหายในคดีหย่าและการแบ่งสินสมรส ศาลต้องอนุญาตหากจำเลยพิสูจน์ความพยายามในการหาเอกสาร
โจทก์ฟ้องขอหย่ากับจำเลย จำเลยให้การว่า โจทก์กับจำเลยได้หย่ากันแล้วโดยทำหนังสือหย่า ในชั้นสืบพยาน จำเลยย่อมอ้างได้ว่าเอกสารการหย่าสูญหายไป ขอนำสืบพยานบุคคลแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ก) โดยสืบให้ฟังได้ด้วยว่าจำเลยไม่สามารถนำเอกสารนั้นมาแสดงเสียแล้วทั้งนี้โดยจำเลยไม่จำต้องกล่าวไว้ในคำให้การด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาไม่ตัดสิทธิจำเลยในการนำสืบพยาน และการขอตั้งผู้เชี่ยวชาญร่วมกันย่อมมีผลผูกพัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรค 2 บัญญัติห้ามมิให้จำเลยเรียกพยานเข้าสืบเฉพาะกรณีที่ขาดนัดยื่นคำให้การเท่านั้นฉะนั้นเมื่อจำเลยเพียงแต่ขาดนัดพิจารณาแต่มิได้ขาดนัดยื่นคำให้การจำเลยจึงหาหมดสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานของตนเข้าสืบไม่
การขาดนัดพิจารณาในนัดหนึ่งนัดใด ถ้าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานหลักฐานเข้าสืบยังไม่หมด นัดต่อไปคู่ความที่ขาดนัดมาศาลก็ย่อมมีสิทธิที่จะถามค้านได้ เพราะไม่ใช่เป็นพยานที่ได้สืบไปแล้ว
การที่คู่ความแถลงร่วมกันขอให้ศาลตั้งผู้เชียวชาญแล้วแม้ต่อมาจะไม่ตกลงกันในเรื่องค่าใช้จ่ายและในที่สุดฝ่ายหนึ่งได้ขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญไปฝ่ายเดียว ดังนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกลับมาคัดค้านภายหลังหาได้ไม่
การขออ้างพยานเพิ่มเติม แม้จะล่วงเวลาหลังจากสืบพยานฝ่ายตรงข้ามแล้วถ้าศาลเห็นมีเหตุสมควร ก็มีอำนาจอนุญาตได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาฐานจ้างวานเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องไม่เคลือบคลุม พยานเบิกความสำคัญ และความแตกต่างเล็กน้อยในการสืบพยาน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยสมคบกันใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมให้พยานเบิกความเท็จนั้น ไม่เป็นฟ้องที่ขัดกัน ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ในเมื่อเป็นการบรรยายรายละเอียดการกระทำทั้งหลายที่จำเลยได้กระทำรวมกันไป
พยานเบิกความว่า จำหน้าคนร้ายไม่ได้ และศาลได้พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุนี้ข้อความที่พยานเบิกความนั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดี
ในการจ้างวานและยุยงให้พยานเบิกความเท็จต่อศาลนั้นโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยพูดกับพยานว่าเรื่องนี้ไม่ต้องกลัว เพราะได้ให้เจ้าพนักงานอัยการ 5,000 บาทแล้วเมื่อโจทก์นำสืบกลับสืบว่า ได้ให้8,000 บาท เช่นนี้ เป็นเรื่องพยานโจทก์เบิกความไม่ตรงในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเฉลี่ยเงินจากการยึดทรัพย์ ต้องแสดงหลักฐานการมอบอำนาจที่ชัดเจนและนำสืบ หากคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน ศาลจะไม่รับฟังพยานนอกเหนือจากที่นำสืบ
นายอร่ามผู้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยกับโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องขอเฉลี่ย กับคำคัดค้านของโจทก์ เมื่อคำร้องขอเฉลี่ยไม่ได้ระบุว่าได้รับมอบอำนาจจากผู้ใด (โดยกล่าวลอย ๆ แต่ว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจ) ทั้งไม่มีหนังสือมอบอำนาจด้วย ก็ถือไม่ได้ว่านายอร่ามเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้อื่น
แม้จะกล่าวในคำร้องว่าจำเลยเป็นลูกนี้ผู้ร้องในคดีแดงที่ 354/2504 แต่โจทก์ก็ปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้นายอร่ามผู้ร้อง เมื่อนายอร่ามไม่นำสืบ ก็รับฟังไม่ได้
การที่ศาลจะนำข้อเท็จจริงในคดีที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยมาวินิจฉัยคดีนี้หรือคู่ใบมอบอำนาจในคดีดังกล่าวนั้นย่อมเป็นการรับฟังสำนวนหรือเอกสารในสำนวนนั้นเป็นพยาน เมื่อคู่ความแถลงไว้ว่าไม่ติดใจสื่บพยาน ทั้งขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องและคำคัดค้านด้วย ศาลก็จะรับฟังพยานดังกล่าวไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงปากเปล่าเรื่องค่าทำถนนกับสัญญากู้: การสืบพยานไม่เป็นการแก้ไขสัญญากู้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลยจำเลยชำระราคายังไม่ครบ เงินจำนวนที่ยังค้างอยู่นั้น โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ตามฟ้องให้โจทก์ไว้ โดยตกลงกันด้วยปากเปล่าว่าเมื่อจำเลยทำถนนในที่ดินนั้นแล้ว โจทก์จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง จะคิดหักเงินให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ต่อมาจำเลยได้ออกโฉนดและทำถนนเสร็จแล้ว เมื่อคิดหักเงินส่วนที่โจทก์จะต้องออกให้แล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์น้อยกว่าจำนวนที่ฟ้องข้อตกลงเช่นนี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือและเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากสัญญากู้ การที่จะขอสืบพยานเรื่องข้อตกลงนี้จึงไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญากู้ และหนี้ดังกล่าวนี้ไม่อยู่ในลักษณะที่ไม่เปิดซองให้หักลบกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การขัดแย้งกัน มิสามารถนำสืบได้ หากไม่จำกัดขอบเขตการสืบพยาน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าแชร์เปียหวยจากจำเลย จำเลยให้การว่ามิได้เล่นแชร์กับโจทก์ ถ้าหากปรากฎว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ จำเลยก็ได้จ่ายเงินให้โจทก์ไปหมดแล้ว ดังนี้ เป็นคำให้การที่ขัดกัน ไม่ประกอบชอบด้วยเหตุผลที่จำเลยจะนำสืบตามคำให้การของจำเลย ๆ มิได้แถลงต่อศาลว่าจะสืบแต่เฉพาะทางใดทางหนึ่ง แน่ หากแต่จะสืบทั้งสองทางเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์ที่จะให้จำเลยสืบ
of 98