พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาต่อสู้และการป้องกันตัว: การกระทำที่แสดงเจตนาทำร้ายก่อนยิง จึงไม่อาจอ้างป้องกันตัวได้
เริ่มแรกจำเลยส่อเจตนาไม่ดีของจำเลยด้วยการนำมีดและอาวุธปืนลูกซองไม่จดทะเบียนไป แล้วรื้อฟันรั้วของผู้ตายที่ปิดทางไว้โดยพละการซึ่งแสดงว่าจำเลยเตรียมตัวจะต่อสู้กับผู้ตายอย่างเต็มที่ แม้จะปรากฎว่าผู้ตายได้ห้ามและได้เงื้อขวานจะฟันจำเลยก่อน จำเลยก็ยิงเอาด้วยปืนที่เตรียมมาดังนี้ จำเลยจะอ้าวว่าป้องกันตัวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเตรียมต่อสู้ย่อมไม่ถือเป็นการป้องกันตัว แม้ผู้ตายจะขัดขวาง
เริ่มแรกจำเลยส่อเจตนาไม่ดีของจำเลยด้วยการนำมีดและอาวุธปืนลูกซองไม่จดทะเบียนไป แล้วรื้อฟันรั้วของผู้ตายที่ปิดทางไว้โดยพลการซึ่งแสดงว่าจำเลยเตรียมตัวจะต่อสู้กับผู้ตายอย่างเต็มที่ แม้จะปรากฏว่าผู้ตายได้ห้ามและได้เงื้อขวานจะฟันจำเลยก่อน จำเลยก็ยิงเอาด้วยปืนที่เตรียมมาดังนี้ จำเลยจะอ้างว่าป้องกันตัวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานป้องกันการถูกทำร้ายด้วยมีด
จำเลยและผู้ตายได้พูกเถึยงกัน ผู้ตายชักมีดพกยาว 1 คืบเศษ จำเลยลุกขึ้นยืน ผู้ตายลุกขึ้นยืน จำเลยถอยไปข้างฝาและหยิบขวานที่เหน็บฝาไว้พอผู้ตายเดินเข้ามา จำเลยก็ใช้ขวานทุบศีร์ษะผู้ตาย 1 ที ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายนั้น การกระทำของจำเลยเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดขึ้นโดยผิดกฎหมาย ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลยตาม ม.50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัว: การใช้ขวานเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายด้วยมีดพก ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
จำเลยและผู้ตายได้พูดเถียงกัน ผู้ตายชักมีดพกยาว 1 คืบเศษ จำเลยลุกขึ้นยืน ผู้ตายลุกขึ้นยืน จำเลยถอยไปข้างฝาและหยิบขวานที่เหน็บฝาไว้ พอผู้ตายเดินเข้ามา จำเลยก็ใช้ขวานทุบศีรษะผู้ตาย 1 ที ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายนั้น การกระทำของจำเลยเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยให้พ้นภยันตราย ซึ่งเกิดขึ้นโดยผิดกฎหมาย ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลยตาม มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังเพื่อปกป้องตนเองจากผู้บุกรุกและโจมตี
มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่า เจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนรวา 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2 คำ ชายนั้นกลับวิ่งหนีพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้าน ๆ จึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฎว่าชายนั้นเป็นโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังเพื่อตอบโต้ผู้บุกรุกและการพิจารณาเหตุผลสมควรแก่เหตุ
มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่าเจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนราว 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2คำชายนั้นกลับวิ่งหนีเจ้าของบ้านวิ่งตาม และร้องขโมยพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้านเจ้าของบ้านจึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฏว่าชายนั้นเป็นคนโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อหยุดยั้งอันตรายจากอาวุธของผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืน ๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้ว ผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืน ยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลย แล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้น โทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน การต่อสู้แย่งปืนไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืนๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้วผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืนยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลยแล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีถูกข่มขู่และแย่งปืน
จำเลยสพายปืนติดตามกระบือที่หาย พบผู้ตายกับพวกกำลังเล่นการพะนันกันอยู่ พวกเล่นการพะนันเข้าใจว่า จำเลยเป็นตำรวจจึงพากันวิ่งหนี แต่ผู้ตายกับพวกบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ผู้ตายไม่พอใจจึงเดิน เข้าไปหา จำเลยเกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า "อย่าเข้ามา เข้ามาจะยิง" ผู้ตายก็กระโดด คว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกผู้ตายจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และผู้ตายชักมีดออกขู่ให้จำเลยจำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมปล่อยปืนและกระชากปืนโดยแรง ปืนไม่หลุดแต่จำเลยล้ม พวกจำเลยทับจำเลย ปืนได้ลั่นถูกผู้ตาย, ตายดังนี้ แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลยยิง การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การกระชากปืนจากผู้ข่มขู่และป้องกันการแย่งชิง
จำเลยสพายปืนติดตามกระบือที่หาย พบผู้ตายกับพวกกำลังเล่นการพนันกันอยู่ พวกเล่นการพนันเข้าใจว่า จำเลยเป็นตำรวจจึงพากันวิ่งหนี แต่ผู้ตายกับพวกบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ผู้ตายไม่พอใจจึงเดินเข้าไปหา จำเลยเกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า "อย่าเข้ามาเข้ามาจะยิง" ผู้ตายก็กระโดดคว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกผู้ตายจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และผู้ตายชักมีดออกขู่ให้จำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมปล่อยปืนและกระชากปืนโดยแรง ปืนไม่หลุดแต่จำเลยล้ม พวกจำเลยล้มทับจำเลย ปืนได้ลั่นถูกผู้ตายตาย ดังนี้ แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลยยิง การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ