คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำสั่งศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลชี้ขาดประเด็นการอยู่อาศัยในที่ดินหลังประนีประนอม คำสั่งเด็ดขาดแล้วห้ามขอแก้ไข
การที่ศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ย่อมใช้บังคับได้ตลอดถึงบริวารจำเลยด้วย
โจทก์ร้องว่า ผู้ร้องกับพวกเป็นบริวารจำเลยผู้ร้องกับพวกสู้ว่าไม่ได้เป็นบริวารจำเลยเพราะเป็นผู้เช่าที่ดินจากจำเลยศาลสั่งว่าให้ผู้ร้องกับพวกอยู่ในที่ดินโจทก์ต่อไปอีก 3 เดือน คำสั่งศาลที่ว่านี้เป็นคำสั่งศาลชี้ขาดในประเด็นระหว่างผู้ร้องกับโจทก์
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในข้อโต้เถียงแล้วมิได้มีฝ่ายใดอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนั้นย่อมเด็ดขาดถึงที่สุดตามกฎหมายและบังคับคดีต่อไปตามคำสั่งนั้นได้ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา271)
ศาลสั่งให้ผู้ร้องกับพวกอยู่ในที่ดินโจทก์ได้เพียง 3 เดือน เพราะการเช่าจากจำเลยเป็นการอยู่โดยอาศัยอำนาจจำเลย ชื่อว่าเป็นบริวารจำเลย ผู้ร้องขอให้แก้เป็นให้ผู้ร้องอยู่ได้ต่อไป เพราะผู้ร้องมิใช่บริวารจำเลยย่อมไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา144(1) เพราะมิใช่การขอให้แก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยตามมาตรา 143

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด: จำเลยที่ 2-3 อุทธรณ์คำสั่งศาลได้
จำเลยที่ 2-3 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าชนะคดีโจทก์และคดีถึงที่สุดแล้วขอให้ศาลบังคับโจทก์นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาชำระให้แก่จำเลยที่ 2-3 ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำพิพากษาของศาลฎีกามีความหมายว่า จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวจะต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายและค่าฤชาธรรมเนียมตลอดจนค่าทนาย 3 ศาลแทนโจทก์ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2-3 กรณีเช่นนี้จำเลยที่ 2-3 ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63-64/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ทรัพย์สินไม่ใช่ของจำเลย เจ้าของอันแท้จริงไม่มีสิทธิเรียกคืน
กรณีที่ผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ภายหลังเจ้าของอันแท้จริงพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา สิทธิของผู้ซื้อก็มิเสียไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 กรณีเช่นนี้เจ้าของอันแท้จริงจะอ้างมาตรา 1332 ขอบังคับให้ผู้ซื้อคืนทรัพย์ที่ซื้อนั้นโดยเจ้าของจะชดใช้ราคาตามที่ซื้อมาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองเพื่อประโยชน์เด็กต้องเป็นไปตามคำสั่งศาล การจำนองเกินเลยคำสั่งไม่ผูกพันจำเลย
ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบิดาของจำเลยทำนิติกรรมจำนองที่ดินของจำเลยเพื่อเอาเงินมาปลูกสร้างอาคารลงบนที่ดินของจำเลย และเปิดสาขาขายผ้าเพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่จำเลยตามที่ผู้ร้องได้ร้องขอ แต่ผู้ร้องไปทำนิติกรรมจำนองที่ดินของจำเลยเพื่อประกันหนี้บุคคลอื่นโดยไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่จำเลยและมิได้นำเงินไปใช้จ่ายตามที่ศาลสั่งอนุญาตเลย เป็นการฝ่าฝืนนอกเหนือคำสั่งของศาล ย่อมไม่ผูกพันจำเลยและทรัพย์ของจำเลยที่จำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินของเด็กโดยไม่เป็นไปตามคำสั่งศาล: สัญญาไม่ผูกพัน
ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบิดาของจำเลยทำนิติกรรมจำนองที่ดินของจำเลยเพื่อเอาเงินมาปลูกสร้างอาคารลงบนที่ดินของจำเลย และเปิดสาขาขายผ้าเพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่จำเลยตามที่ผู้ร้องได้ร้องขอแต่ผู้ร้องไปทำนิติกรรมจำนองที่ดินของจำเลยเพื่อประกันหนี้บุคคลอื่นโดยไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่จำเลยและมิได้นำเงินไปใช้จ่ายตามที่ศาลสั่งอนุญาตเลย เป็นการฝ่าฝืนนอกเหนือคำสั่งของศาล ย่อมไม่ผูกพันจำเลยและทรัพย์ของจำเลยที่จำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานที่ดินทำแผนที่ตามคำสั่งศาล ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน/อาญา
เจ้าพนักงานที่ดินผู้ไปทำแผนที่พิพาทตามคำสั่งศาลในคดีแพ่ง ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 67 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพราะมิได้เป็นผู้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินตามความในมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และไม่ใช่เจ้าพนักงานของศาลหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งใด ๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานที่ดินทำแผนที่ตามคำสั่งศาล ไม่ถือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่ดินและอาญา
เจ้าพนักงานที่ดินผู้ไปทำแผนที่พิพาทตามคำสั่งศาลในคดีแพ่ง ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 67 แพ่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพราะมิได้เป็นผู้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามความหมายในมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และไม่ใช่เจ้าพนักงานของศาล หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจปฏิบัติการตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งใดๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องคดีแพ่งเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลให้แถลงผลคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่โจทก์ฎีกาและศาลฎีกาสั่งให้รอการพิจารณาคดีไว้เพื่อฟังผลของอีกคดีหนึ่งก่อน เมื่อคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว ให้โจทก์แถลงให้ศาลทราบภายใน 10 วันนั้น หากคดีที่สั่งให้รอถึงที่สุด และโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติการดังข้อกำหนดของศาลแต่ประการใดแล้ว ก็ถือว่าโจทก์เพิกเฉยไม่นำพาในการดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้อง ต้องจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องรอผลคดีอื่น ไม่เป็นคำสั่งที่อุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้เลื่อนการพิจารณาการไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนจนกว่าอีกศาลหนึ่งจะได้ชี้ขาดในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องถึงที่สุดนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลเลื่อนการพิจารณาคดีระหว่างพิจารณา ไม่ทำให้คดีเสร็จสิ้น ห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้เลื่อนการพิจารณา การไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนจนกว่าอีกศาลหนึ่งจะได้ชี้ขาดในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องถึงที่สุดนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2506)
of 79