คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุกรุก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยกรรมสิทธิ์ในที่ดินก่อนพิจารณาประเด็นบุกรุก: ศาลต้องชี้ขาดกรรมสิทธิ์ก่อน หากกรรมสิทธิ์ไม่ชัดเจน ประเด็นบุกรุกจึงไม่สามารถวินิจฉัยได้
โจทก์ฟ้องว่าที่วิวาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอดและจำเลยมิได้บุกรุก ผู้ร้องสอดร้องสอดเข้ามา ก็ให้การยืนยันว่าผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของที่พิพาท ดังนี้ ประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีจึงมีเป็นประการแรกว่า ที่พิพาทเป็นของใคร ถ้าฟังว่าเป็นของโจทก์จึงจะมีประเด็นต่อไปว่า จำเลยบุกรุกหรือเปล่า ถ้าฟังว่าที่เป็นของผู้ร้องสอดข้อบุกรุกก็ตกไป ฉะนั้นศาลจะชี้ขาดแต่เพียงว่าจำเลยไม่ได้บุกรุกแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียโดยไม่ชี้ขาดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือมิใช่ซึ่งเป็นข้ออ้างสำคัญที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาในคดีนี้นั้นจึงมิได้เป็นการตัดสินคดีตามข้อหาในฟ้องของโจทก์ทุกข้อเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142,246

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกทางหลวง: การตีความคำว่า 'บังอาจ' และขอบเขตการกระทำผิด
คำว่า"บังอาจ"ตามกำหมายอาญามาตรา 336(2) นั้นหมายความว่า กระทำโดยรู้ว่าเป็นทางหลวงจึงเป็นความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกทางหลวง: การกระทำโดยรู้ว่าเป็นทางหลวงจึงเป็นความผิดตามกฎหมาย
คำว่า 'บังอาจ' ตามกฎหมายอาญา มาตรา336(2) นั้นหมายความว่า กระทำโดยรู้ว่าเป็นทางหลวงจึงเป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดบุกรุกที่สาธารณะ: มาตรา 327 ก.ม.ลักษณะอาญาใช้กับกรณีบุกรุกที่ของเอกชนเท่านั้น
ความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 327 เป็นการกระทำแก่เอกชนและเป็นความผิดต่อส่วนตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่สาธารณะ: ความผิดตามมาตรา 327 ไม่ครอบคลุมการกระทำต่อที่สาธารณสมบัติ
ความผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 327 เป็นการกระทำแก่เอกชนและเป็นความผิดต่อส่วนตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ผู้อื่นบุกรุก: จำเลยมีความผิดฐานใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด แม้ไม่มีส่วนร่วมโดยตรง
การมีจอบเสียมอันเป็นเครื่องมือขุดดิน เข้าไปขุดนาของผู้อื่น เรียกไม่ได้ว่ามีศาสตราวุธไปบุกรุก
จำเลยจ้างบุคคลอื่นกับพวกไปขุดนาโจทก์ ดังนั้นจำเลยย่อมมีผิดฐานบุกรุกในฐานะที่ใช้ให้ผู้อื่นไปกระทำความผิดตามมาตรา 64

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้จ้างวานให้บุกรุกที่ดิน: ความผิดฐานบุกรุกในฐานะผู้ใช้จ้าง
การมีจอบเสียมอันเป็นเครื่องมือขุดดิน เข้าไปขุดนาของผู้อื่นเรียกไม่ได้ว่ามีศาสตราวุธไปบุกรุก
จำเลยจ้างบุคคลอื่นกับพวกไปขุดนาโจทก์ ดังนั้นจำเลยย่อมมีผิดฐานบุกรุกในฐานะที่ใช้ให้ผู้อื่นไป กระทำความผิดตามมาตรา 64

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหะสถาน แม้ได้รับอนุญาตเบื้องต้น หากเจ้าของไม่อนุญาตต่อ ย่อมเป็นการละเมิด
การเข้าไปอยู่ในห้องของเขา แม้ในชั้นต้นจะมิใช่เป็นการละเมิด แต่เมื่อเจ้าของเขาไม่ประสงค์จะให้อาศัยอยู่ต่อไป และบอกให้ออกไปแล้ว ยังขืนอยู่ดังนี้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อเจ้าของ
เจ้าของห้องทำสัญญาให้ผู้เช่า เช่าห้องไปแล้ว แต่ปรากฏว่ามีคนอื่นเข้าอาศัยอยู่ในห้องนั้น เจ้าของบอกให้ออกไปจากห้อง ผู้นั้นก็ไม่ยอมออก ดังนี้ ย่อมถือว่าผู้นั้นละเมิด และเป็นเหตุให้เจ้าของส่งมอบห้องให้ผู้เช่าไม่ได้ เจ้าของห้องมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาที่พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการรับฟังความผิดฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายกะทงหนึ่งจำคุก 2 เดือนและฐานบุกรุกสถานที่ราชการอีกกะทงหนึ่งจำคุก 1 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์มิได้สืบว่ารถการ์ดที่จำเลยขึ้นไปนั้นเป็นสถานที่สำหรับใช้ในราชการซึ่งผู้หนึ่งผู้ใดจะเข้าไปมิได้ฉะนั้นจำเลยยังไม่ผิดฐานนี้ พิพากษาแก้ว่าจำเลยไม่ผิดฐานบุกรุกนอกจากนี้ยืน โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามศาลชั้นต้นดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมิได้ขึ้นไปบนรถการ์ด ฉะนั้นความผิดในเรื่องบุกรุกจึงไม่ต้องวินิจฉัย และเมื่อฟังไม่ได้ว่าขึ้นไปรถการ์ดข้อหาโจทก์ที่ว่าจำเลยขึ้นไปทำร้ายเขาบนรถการ์ดก็ย่อมตกไปด้วย แม้โจทก์ฝ่ายเดียวจะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกฐานเดียวก็ดีเมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกตามมาตรา 327 ต้องมีเจตนาเฉพาะเจาะจง การกระทำเพียงล่วงล้ำเข้าไปโดยไม่มีเจตนาไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 327 นั้นผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นด้วยจึงจะเป็นความผิด
จำเลยเข้าไปใต้ถุนเรือนของเจ้าทรัพยื ใช้มือลอดฟื้นฟากเรือนเพือถูกต้องเนื้อตัวบุตรสาวเจ้าทรัพย์ด้วยความคะนองพอใจบุตรีเจ้าทรัพย์ แต่บุตรีเจ้าทรัพย์ไม่พอใจจึงใช้มีดฟันเอาจำเลยก็หนีไปนั้น จำเลยยังไม่มีความผิดตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 327
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 329 ครั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 329 โจทก์ก็ยอมคงฎีกายืนยันขึ้นมาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 327 เท่านั้น ในชั้นฎีกาคดีจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยถึงมาตรา 329 อีก
of 79