พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แม้ข้อเท็จจริงวันเกิดเหตุคลาดเคลื่อนเล็กน้อย และพฤติการณ์การกระทำ
ฟ้องของโจทก์เป็นแต่กล่าวถึงวันกระทำผิดของจำเลยว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 หาได้กล่าวว่าเป็นวันอะไรไม่ พยานโจทก์ทุกคนก็ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 ตรงกับฟ้อง แม้พยานโจทก์บางคนจะกล่าวว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 เป็นวันเสาร์ ความจริงเป็นวันอาทิตย์ เมื่อข้อเท็จจริงอื่นๆ ยังน่าเชื่อว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค.96 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ที่พยานบางคนว่าเป็นวันเสาร์จึงอาจจำผิดไปเพียงเท่านี้ ยังเรียกไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำให้การเกินกำหนด: ศาลพิจารณาพฤติการณ์และเหตุผลความจำเป็นของผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ส่งต้นฉบับสัญญากู้ตามที่จำเลยขอดูพ้นกำหนดที่ศาลสั่งและพ้นกำหนดวันยื่นคำให้การของจำเลย และจำเลยได้ยื่นคำให้การหลังจากโจทก์ส่งเอกสารต่อศาล 2 วัน ดังนี้เป็นพฤตติการณ์ที่แสดงว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ และจำเลยได้แจ้งถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 199
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดทำร้ายร่างกาย: การตีความพฤติการณ์หลบหนีร่วมกันเพื่อพิสูจน์เจตนา
จำเลย 3 คนยืนฟังหมอรำอยู่ด้วยกันคนหนึ่งใช้สากตีศรีษะผู้เสียหายที่เดินผ่านมาแล้ววิ่งหนีไป อีก 2 คนวิ่งไปด้วยยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ไม่ได้ลงมือตีเป็นตัวการในการทำร้ายร่างกายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีพนันกุ้งปลา จำเลยต้องมีพฤติการณ์คล้ายการพนันโปปั่นจึงจะมีความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันกุ้งปลาอันมีลักษณะคล้ายการพนันโปปั่นแต่สืบไม่ปรากฏว่าเป็นการเล่นคล้ายการพนันโปปั่นจึงขาดเหตุอันเป็นองค์ความผิดหรืออีกนัยหนึ่ง ไม่ปรากฏว่าได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริงตามฟ้อง จะลงโทษจำเลยใดๆในคดีนั้นไม่ได้ เข้าอยู่ในลักษณะคดี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ไม่ใช่บทบังคับเด็ดขาด เป็นเพียงผ่อนผันว่า คดีมีอัตราโทษอย่างสูงไม่ถึง 10 ปี ก็ให้ศาลมีอำนาจพิพากษาไปตามคำรับสารภาพได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันคล้ายโปปั่นขอให้ลงโทษฐานเล่นการพนันประเภทห้ามขาดตามบัญชี ก.แล้วจะขอให้ลงโทษฐานเล่นการพนันอื่นตามพระราชบัญญัติการพนัน ฉบับที่ 4 มาตรา 3 อีกไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ไม่ใช่บทบังคับเด็ดขาด เป็นเพียงผ่อนผันว่า คดีมีอัตราโทษอย่างสูงไม่ถึง 10 ปี ก็ให้ศาลมีอำนาจพิพากษาไปตามคำรับสารภาพได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันคล้ายโปปั่นขอให้ลงโทษฐานเล่นการพนันประเภทห้ามขาดตามบัญชี ก.แล้วจะขอให้ลงโทษฐานเล่นการพนันอื่นตามพระราชบัญญัติการพนัน ฉบับที่ 4 มาตรา 3 อีกไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ถูกตัว แต่มีเจตนาและพฤติการณ์ใกล้ชิด
ใช้มีดแทง ผู้เสียหายหลบมีดจึงไม่ถูกผู้เสียหาย เป็นความผิดตาม มาตรา 254,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินกว่าเหตุจากการยิงเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ศาลพิจารณาพฤติการณ์และเหตุผลในการกระทำ
จำเลยที่ขายของนายจ้างเห็นกำลังถูกทำร้ายจึงใช้ปืนยิงไปกะสุนปืนไปถูกผู้ตายเข้าถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันแต่เกินกว่าเหตุเพราะที่ถูกทำร้ายเป็นเพียงแต่ถูกขว้างและตีเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาจำหน่ายธนบัตรปลอม: พฤติการณ์ประกอบสำคัญกว่าการมีเพียงการครอบครอง
ในคดีอาญาโจทก์มีหน้าที่ที่จะนำสืบพิศูจน์ความผิดของจำเลย แต่ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 203(3) นั้น แยกเป็นสองฐาน คือฐานจำหน่ายธนบัตรปลอมโดยรู้และฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย ความผิดฐานแรกโจทก์ต้องนำสืบถึงการจำหน่ายด้วย ความผิดฐานหลังนำสืบแต่เพียงว่ามีไว้เพื่อจะจำหน่ายก็เป็นความผิดได้แล้ว
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฎในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่อง ๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท 7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฎในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่อง ๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท 7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดฐานมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย: พฤติการณ์สำคัญประกอบการวินิจฉัย
ในคดีอาญาโจทก์มีหน้าที่ที่จะนำสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลย แต่ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 203(3) นั้นแยกเป็นสองฐาน คือฐานจำหน่ายธนบัตรปลอมโดยรู้และฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย ความผิดฐานแรกโจทก์ต้องนำสืบถึงการจำหน่ายด้วย ความผิดฐานหลังนำสืบแต่เพียงว่ามีไว้เพื่อจะจำหน่ายก็เป็นความผิดได้แล้ว
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่องๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่องๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด: การพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มียาวทั้งตัวทั้งด้ามคืนเศษ ฉะเพาะตัวมีดยาวราว 6 นิ้วฟุต แทงผู้ตายที่สบักซ้ายเหนือกระดูกไหปลาร้าแผลยาว 1 นิ้วลึก 5 นิ้ว คนมีดตัดเส้นโลหิตใหญ่ที่ขั้วหัวใจผู้ตายขาดใจตายเกือบทันที ควรฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล: การสืบสวนหาผู้กระทำผิดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้อง
การสมรู้ร่วมคิดในการปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือรู้แล้วว่ามีผู้คิดจะปลงพระชนม์ ช่วยปกปิดไม่เอาความไปร้องเรียนจนมีเหตุปลงพระชนม์ขึ้น เป็นความผิดตาม มาตรา 97 ตอน 2