คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 831 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบก่อนเสมอไป
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำลเยนำของออกนาอกราชอาณาจักรไทย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างนั้นถ้าผู้กระทำผิดไม่ขอปฏิบัติตาม พ.ร.บศุลกากรเรื่องเปรียบเทียบแล้ว ก็ไม่จำเป็นเปรียบเทียบ และในกรณีเช่นนี้ อัยการมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบก่นอ ทั้งในฟ้องก็ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่า ได้มีการเปรียบเทียบผู้กระทำผิดนั้นแล้วหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีนำของออกนอกราชอาณาจักร ไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบเสมอไป อัยการมีอำนาจฟ้องได้หากจำเลยไม่ขอปฏิบัติตามกฎหมาย
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำเลยนำของออกนอกราชอาณาจักรไทยอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างนั้น ถ้าผู้กระทำผิดไม่ขอปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติศุลกากรเรื่องเปรียบเทียบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบและในกรณีเช่นนี้ อัยการมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่จำต้องมีการเปรียบเทียบก่อน ทั้งในฟ้องก็ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าได้มีการเปรียบเทียบผู้กระทำผิดนั้นแล้วหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค จำเป็นต้องบรรยายรายละเอียดให้ชัดเจนว่าสินค้าที่ถูกกล่าวหามีสถานะเป็นสินค้าควบคุมจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคว่า จำเลยขายข้าวสารเหนียวให้แก่ผู้ไม่มีบัตรปันส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลา แต่ในฟ้องไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าข้าวสารเหนียวเป็นของที่คณะกรรมการประกาศควบคุมและคณะกรรมการได้ตั้งคณะกรรมการจังหวัดสงขลาเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมข้าวเหนียวนั้นแทน ฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงทั้งสองประการนั้น ทั้งประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลาจะมีข้อความกล่าวอ้างอาศัยอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างใด โจทก์มิได้ยื่นสำเนาให้ปรากฏ ดังนี้ถือว่าฟ้องยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลต้องพิจารณาความรุนแรงบาดเจ็บก่อนลงโทษ แม้ฟ้องก่อนครบ 20 วัน
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วันโดยโจทก์ยื่นฟ้องเสียก่อนครบ 20 วัน นับจากวันเกิดเหตุ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบก่อนว่าจะถึงสาหัสจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจะงดสืบพยานโจกท์และลงโทษจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีทำร้ายร่างกายสาหัส: ศาลต้องพิจารณาความจริงก่อน หากโจทก์ฟ้องก่อนครบ 20 วัน
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน.โดยโจทก์ยื่นฟ้องเสียก่อนครบ20 วันนับจากวันเกิดเหตุ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบก่อนว่าจะถึงสาหัสจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจะงดสืบพยานโจทก์และลงโทษจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ห้างหุ้นส่วนสามัญที่เลิกแล้ว ผู้รับโอนหุ้นมีสิทธิฟ้องคดีอาญาได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้เลิกความเป็นหุ้นส่วนก็สิ้นสุดลง จะนำมาตรา1249-1040 มาใช้บังคับมิได้ และผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมโอนหุ้นของตนได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่นผู้รับโอนหุ้นมาย่อมเป็นผู้เสียหายในทางอาญาได้
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีข้อหาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไปศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ และการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
กฎหมายหาได้ห้ามไม่ให้ฟ้องในกรณีที่ไม่มีการชันสูตรพลิกศพไม่และแม้การชันสูตรพลิกศพจะไม่ชอบ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ฟ้อง
ศาลเดิมลงโทษจำคุก สิบ ปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดย มิได้แก้บท ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อยห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแพ่ง: การมอบอำนาจภายหลังการยื่นฟ้องและผลของการให้สัตยาบัน
ข้าหลวงประจำจังหวัดฟ้องความแพ่งแทนกระทรวงการคลัง โดยอาศัยระเบียบการปฏิบัติของกระทรวงการคลังและตามหนังสือของกระทรวงการคลัง 2 ฉบับ ซึ่งแม้จะยังไม่เพียงพอที่ถือได้ว่าเป็นการมอบอำนาจที่สมบูรณ์ก็ดี แต่ต่อมาก่อนศาลสืบพยานกระทรวงการคลังได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ข้าหลวงประจำจังหวัดหรือปลัดจังหวัดผู้ ทำการแทน มีอำนาจฟ้องจำเลยและดำเนินคดีไปจนถึงที่สุด แทนกระทรวงการคลัง ซึ่งถือได้ว่าเป็นใบมอบอำนาจอันถูกต้องแล้วดังนี้แม้จะได้ยื่นภายหลังวันชี้สองสถาน ก็ถือได้ว่าเท่ากับเป็นการให้สัตยาบันในการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้ซึ่งไม่มีบทบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่งห้ามไว้แต่ประการใด ยิ่งเมื่อพิจารณาดูมาตรา 47 ป.ม.วิ.แพ่งประกอบด้วยแล้ว ย่อมเห็นได้ว่าศาลชอบที่จะพึงรับฟังใบมอบอำนาจนี้ได้ ฉะนั้นข้าหลวงประจำจังหวัดหรือปลัดจังหวัดผู้เป็นโจทก์จึงย่อมมีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การฟ้องคดีเกิน 1 ปี จำเป็นต้องพิสูจน์เหตุยกเว้น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกจากจำเลยผู้เป็นทายาทชั้นเดียวกัน โดยกล่าวในฟ้องว่า ได้ปกครองทรัพย์นั้นร่วมกับจำเลย ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลยและต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ได้ครอบครอง โจทก์ฟ้องคดีนี้เกิน 1 ปีแล้ว เมื่อปรากฏว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีแล้วเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบก่อนว่าเหตุใดตนจึงชอบที่จะฟ้องคดีเกิน 1 ปีได้ ถ้าโจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน จำเลยก็ย่อมชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์ของกลาง การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฎว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 84