พบผลลัพธ์ทั้งหมด 754 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้โดยสารรถจักรยานสามล้อไม่ต้องรับผิดในความประมาทของผู้ขับขี่ ฟ้องแย้งเรียกผู้ขับขี่เป็นคู่ความร่วมไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ประมาทชนท้ายรถจักรยานสามล้อที่โจทก์โดยสารมา เป็นเหตุให้โจทก์บาดเจ็บ ขอให้ใช้ค่าเสียหายนั้น แม้ผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อนั้นจะประมาทด้วยก็ตาม หากโจทก์เป็นเพียงผู้โดยสาร ไม่มีส่วนต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อแต่อย่างใดแล้ว จำเลยก็จะขอให้ศาลเรียกผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้โดยสารรถจักรยานสามล้อไม่ต้องรับผิดชอบความประมาทของผู้ขับขี่ การฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ประมาทชนท้ายรถจักรยานสามล้อที่โจทก์โดยสารมาเป็นเหตุให้โจทก์บาดเจ็บ ขอให้ใช้ค่าเสียหาย นั้นแม้ผู้ขับขี่จักรยานสามล้อนั้นจะประมาทด้วยก็ตาม หากโจทก์เป็นเพียงผู้โดยสาร ไม่มีส่วนต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อแต่อย่างใดแล้ว จำเลยก็จะขอให้ศาลเรียกผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่ – ฟ้องแย้งค่าก่อสร้าง – พิจารณารวมกันได้ – ไม่มีเงื่อนไข – สิทธิการชดใช้ค่าปรับปรุง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยให้การว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์จริงโดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิจะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ทั้งมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ แต่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชดใช้เงินค่าก่อสร้างเพิ่มเติมห้องเช่าให้จำเลย ในเมื่อจำเลยจะต้องออกจากห้องเช่าของโจทก์ไปดังนี้ ถือว่าฟ้องแจ้งของจำเลยไม่มีเงื่อนไข และสามารถพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาฟ้องแย้งค่าก่อสร้างเพิ่มเติมควบคู่กับฟ้องขับไล่ และอำนาจศาลในการพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าจำเลยให้การว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์จริง โดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิจะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ทั้งมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ แต่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชดใช้เงินค่าก่อสร้างเพิ่มเติมห้องเช่าให้จำเลยในเมื่อจำเลยจะต้องออกจากห้องเช่าของโจทก์ไป ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยไม่มีเงื่อนไขและสามารถพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลต้องรับฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมไว้พิจารณา ไม่ควรรีบวินิจฉัยยกฟ้อง
ศาลต้องพิจารณาฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรค 3-4 คือ เป็นแต่เพียงตรวจคำคู่วามว่าจะรับฟ้องแย้งหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเกี่ยวกับฟ้องเดิมก็ต้องรับไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นด่วนวินิจฉัยยกฟ้องแย้งเสีย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาฟ้องแย้ง: ศาลต้องรับไว้พิจารณาก่อน หากเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจำเลยจะชนะหรือไม่
ศาลต้องพิจารณาฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม-วรรคสี่ คือ เป็นแต่เพียงตรวจคำคู่ความว่าจะรับฟ้องแย้งหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเกี่ยวกับฟ้องเดิมก็ต้องรับไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นด่วนวินิจฉัยยกฟ้องแย้งเสีย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเรื่องจำนองและสัญญาเช่าไม่เกี่ยวข้องกัน ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอ้างว่าผิดสัญญาเช่าที่ดิน จำเลยให้การปฏิเสธและฟ้องแย้งว่าที่ดินพิพาทเดิมจำเลยจำนองโจทก์ แล้วโอนให้โจทก์ โดยไม่ต้องบังคับจำนอง โจทก์ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเงินให้แล้ว โจทก์ผิดคำมั่นจึงขอเรียกเงินจำนวนนั้น เช่นนี้ เป็นกรณีเกี่ยวกับข้อตกลงที่โจทก์ได้ที่ดินมาจากจำเลยอีกส่วนหนึ่งไม่เกี่ยวกับการเช่าในฟ้องเดิมอย่างใด จึงเป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวกับโจทก์อีกต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: เงินผ่อนชำระค่าออกแบบ หรือ เงินยืมทดรอง?
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ 150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จำเลยให้การต่อสู้และว่าเงิน 50,000 บาท เป็นเงินที่ให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ จึงฟ้องแย้งเรียกคืน นั้น ฟ้องแย้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์โดยตรง ศาลจำต้องพิจารณาประเด็นข้อนี้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: สิทธิเรียกร้องเงินยืมทดรองเมื่อผลงานไม่ได้รับการอนุมัติ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่าไม่ได้ว่าจ้างโจทก์ดังกล่าว แต่จำเลยใช้ให้โจทก์ออกแบบสร้างคานเรือในฐานะที่โจทก์เป็นลูกจ้างส่วนตัวของจำเลย ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ตกลงรับแบบการสร้างคานเรือของโจทก์จำเลยจะให้บำเหน็จรางวัลเป็นเงินโบนัสสิ้นปีแก่โจทก์ตามสมควร ส่วนเงิน 50,000 บาท นั้น จำเลยได้ให้แก่โจทก์ไปจริง คือให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ก่อน ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ โจทก์จะต้องคืนให้จำเลย บัดนี้ การท่าเรือกรุงเทพฯไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกเงิน 50,000 บาทคืนจากโจทก์ ดังนี้คำฟ้องแย้งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง ศาลต้องรับคำฟ้องแย้งไว้ดำเนินการต่อไปตามกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางและฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกัน: ขายฝากไม่ใช่การกู้ยืม
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝากจำเลยว่า โจทก์ขอกู้เงินและให้ที่ดินเป็นประกันเงินกู้ก่อนแล้วจึงตกลงไปทำสัญญาขายฝากกันเพื่อให้การประกันมีผลตามกฎหมาย ดังนี้ ไม่ใช่นิติกรรมอำพรางมีแต่การขายฝากเพียงนิติกรรมเพียง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน จำเลยให้การว่า โจทก์ตกลงรับไปจัดหาผลประโยชน์จากที่ดินรายนี้ และฟ้องแย้งเรียกร้องเอาค่าผลประโยชน์ดังกล่าวจากโจทก์ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยไม่เกี่ยวข้อกับฟ้องเดิมของโจทก์ ควรให้แยกไปว่ากล่าวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน จำเลยให้การว่า โจทก์ตกลงรับไปจัดหาผลประโยชน์จากที่ดินรายนี้ และฟ้องแย้งเรียกร้องเอาค่าผลประโยชน์ดังกล่าวจากโจทก์ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยไม่เกี่ยวข้อกับฟ้องเดิมของโจทก์ ควรให้แยกไปว่ากล่าวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง