พบผลลัพธ์ทั้งหมด 716 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร การยึดทรัพย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของจำเลย ๆ อุทธรณ์คำสั่ง แต่ถูกสั่งยกอุทธรณ์ และจำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเสียภาษี จำเลยต่อสู้ว่าสถานีบ่มใบยาไม่เป็นร้านค้าต้องเสียภาษี ดังนี้ประเด็นมีว่า สถานีบ่มใบยาของโจทก์เป็นร้านค้าหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ร้านค้า ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง ยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดโจทก์จึงฟ้องคดีได้ไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษาตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496.
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษาตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร การยึดทรัพย์เป็นละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งแต่ถูกสั่งยกอุทธรณ์และจำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเสียภาษีจำเลยต่อสู้ว่าสถานีบ่มใบยาไม่เป็นร้านค้าต้องเสียภาษีดังนี้ ประเด็นมีว่าสถานีบ่มใบยาของโจทก์เป็นร้านค้าหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ร้านค้า ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดโจทก์จึงฟ้องคดีได้ไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ภาษีต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำตามสิทธิฟ้องศาลย่อมไม่มี
การฟ้องศาลขอให้เพิกถอนการเรียกเก็บภาษีร้านค้า เพราะพนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บไม่ถูกต้องนั้น ผู้เสียภาษีจะต้องเสียตามที่เจ้าหน้าที่ประเมินมาก่อนแล้วจึงอุทธรณ์ต่อข้าหลวงประจำจังหวัดหรืออธิบดีแล้วแต่กรณี ต่อจากนั้นจึงจะอุทธรณ์ต่อศาลได้ ถ้าโจทก์ไม่จัดการอุทธรณ์ตามเกณฑ์และวิธีการดั่งทีกฎหมายบัญญัติไว้แล้ว สิทธิของโจทก์ที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลก็หามีไม่ ศาลไม่มีอำนาจจะประทับฟ้องไว้พิจารณาและในกรณีเช่นนี้แม้จำเลยจะไม่คัดค้านมาแต่ต้น ศาลสูงก็พิพากษายกฟ้องได้ เพราะเป็นเรื่องอำนาจฟ้องอันเนื่องว่าเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้องของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106-2108/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีจากค่าเช่าต้องมีเหตุผลรองรับ การอ้างอิงค่าเช่ารายอื่นเป็นมาตรฐานไม่ได้
ผู้เสียภาษีฟ้องข้าหลวงประจำจังหวัดในเรื่องประเมินภาษีและเรียกภาษีที่เก็บเกินไปคืน และข้าหลวงประจำจังหวัดคนใหม่ขอเข้าเป็นจำเลยแทน ไม่มีผู้ใดคัดค้านศาลย่อมรับพิจารณาคดีที่ฟ้องกันนั้น
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้นๆสมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริงจะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้นๆสมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริงจะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการชี้ขาดจำนวนเงินภาษีที่ประเมิน และขอบเขตการตัดสินคดีภาษีอากร
พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินพ.ศ. 2475 มาตรา 31 นั้น ไม่ได้หมายความว่าศาลมีอำนาจเพียงชี้ว่าการประเมินนั้นได้กระทำถูกหรือไม่ถูกเท่านั้น แต่ศาลย่อมมีอำนาจชี้ขาดจำนวนเงินที่ประเมิน+ได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงิน2005 บาท 42 สตางค์ แต่ศาลให้คืนเงิน1305 บาท 42 สตางค์นั้นไม่เป็นการตัดสินเกินคำขอ.
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงิน2005 บาท 42 สตางค์ แต่ศาลให้คืนเงิน1305 บาท 42 สตางค์นั้นไม่เป็นการตัดสินเกินคำขอ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903-905/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร หากไม่ได้ใช้ซื้อขายโดยตรง
ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ม. 78 วรรค 2 ซึ่งหมายความว่า สถานที่ซึ่งใช้การประกอบหรือดำเนินกิจการค้านั้น จะต้องหมายความอย่างที่คนธรรมดาสามัญเข้าใจกันอยู่โดยทั่วไป คือ หมายความถึงสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปจะไปติดต่อทำการซื้อขายหรือทำการขายสินค้าชะนิดนั้น ๆ กับผู้ค้าของชะนิดนั้น ๆ หรือตัวแทนของเขาได้ตามปรกติ
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่นเมื่อซื้อข้าวได้แล้ว ก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่นเมื่อซื้อข้าวได้แล้ว ก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903-905/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร หากไม่ได้ใช้ซื้อขายโดยตรง
ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร มาตรา 78 วรรค 2 ซึ่งหมายความว่า สถานที่ซึ่งใช้การประกอบหรือดำเนินกิจการค้านั้น จะต้องหมายความอย่างที่คนธรรมดาสามัญเข้าใจกันอยู่โดยทั่วๆ ไป คือ หมายความถึงสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปจะไปติดต่อทำการซื้อขายหรือทำการขายสินค้าชนิดนั้นๆ กับผู้ค้าของชนิดนั้นๆ หรือตัวแทนของเขาได้ตามปกติ
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่น เมื่อซื้อข้าวได้แล้วก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่น เมื่อซื้อข้าวได้แล้วก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดทางภาษีอากร: ข้อเท็จจริงสำคัญกว่าปัญหาข้อกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลล่างยกฟ้องในข้อเท็จจริงเสียแล้ว แม้ในชั้นฎีกามีปัญหาในข้อกฎหมาย แต่ไม่มีทางลงโทษโดยทางข้อเท็จจริงเสียแล้วฎีกานั้นก็ไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรรับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดทางภาษีอากร: การพิสูจน์ความรับผิดของผู้กระทำความผิด
คดีอาญาที่ศาลล่างยกฟ้องในข้อเท็จจริงเสียแล้ว แม้ในชั้นฎีกามีปัญหาในข้อกฎหมาย แต่ไม่มีทางลงโทษโดยทางข้อเท็จจริงเสียแล้ว
ฎีกานั้นก็ไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรรับวินิจฉัย
ฎีกานั้นก็ไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรรับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานป่าไม้รับสินน้ำใจ ไม่ถือว่าเรียกเก็บภาษีอากร จึงไม่มีความผิดตาม ม.135
เจ้าพนักงานป่าไม้ออกใบอนุญาตไม้แปรรูปซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตโดยบุตร์เป็นผู้เขียนเขียนแล้วเรียกเงินจากเขาส่งให้จำเลยซึ่งเป็นบิดา จำเลยรับไว้เป็นสินน้ำใจดังนี้ ไม่มีผิดตาม ม.135