คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยกฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาแตกต่างจากฟ้อง ก็ไม่ถือว่ายกฟ้อง
ฟ้องกล่าวบรรยายข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยหลายประการและโจทก์สืบได้สมบ้างไม่สมบ้างเมื่อการกระทำที่ฟังได้สมฟ้องนั้นเป็นการกระทำซึ่งเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้วศาลย่อมลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง จะถือว่าเป็นกรณีข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานจากสัญญาเช่าเป็นสัญญายืมเรือ ศาลต้องยกฟ้องหากพยานจำเลยมีน้ำหนักกว่า
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าเรือโจทก์ไปและผิดสัญญาเช่า ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเช่าเรือและค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้เช่าเรือโจทก์ แต่โจทก์ได้ให้จำเลยยืมเรือไปบรรทุกฟืนโดยไม่คิดค่าอะไร ดังนี้ หากทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องให้ยืมเรือ ไม่ใช่เรื่องให้เช่าเรือดังฟ้องของโจทก์ ศาลก็ต้องยกฟ้อง ส่วนในเรื่องค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือนั้น โจทก์เรียกร้องตามมูลสัญญาเช่า เมื่อไม่ใช่เรื่องการเช่าแล้ว ก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมต่อไป เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวตามสัญญายืม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดสัญญาเช่าเรือ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเรื่องการยืมใช้ การฟ้องจึงไม่สมเหตุผล ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าเรือโจทก์ไปและผิดสัญญาเช่าขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเช่าเรือและค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้เช่าเรือโจทก์ แต่โจทก์ได้ให้จำเลยยืมเรือไปบรรทุกฟืนโดยไม่คิดค่าอะไรดังนี้ หากทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องให้ยืมเรือ ไม่ใช่เรื่องให้เช่าเรือดังฟ้องของโจทก์ศาลก็ต้องยกฟ้องส่วนในเรื่องค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือนั้น โจทก์เรียกร้องตามมูลสัญญาเช่าเมื่อไม่ใช่เรื่องการเช่าแล้วก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมต่อไปเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวตามสัญญายืม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีโกงเจ้าหนี้, องค์ประกอบความผิด, และการยกฟ้องกระทบสิทธิโจทก์ร่วม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 มิได้บัญญัติให้อำนาจพนักงานอัยการเรียกทรัพย์สินหรือราคาคืนแทนผู้เสียหายในคดีอาญาฐานโกงเจ้าหนี้
ฟ้องไม่ปรากฏว่าในการที่จำเลยที่ 1 โอนขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2, 3 นั้น จำเลยได้กระทำโดยรู้ว่าเจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ไม่ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350
ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการโดยขอถือเอาคำฟ้องของอัยยการเป็นคำฟ้องของโจทก์ร่วมด้วย ฉะนั้น เมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง จึงหมายความว่าได้ยกฟ้องของโจทก์ร่วมด้วย ศาลจึงใช้ดุลพินิจกำหนดให้โจทก์ร่วมใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยได้ แม้จะไม่ได้วินิจฉัยคดีทางแพ่งด้วยก็ตาม
เมื่อโจทก์นำสืบ จำเลยมิได้ถามค้านความข้อใดไว้ แล้วจำเลยมานำสืบพิสูจน์ภายหลังในความข้อนั้น โจทก์ก็ชอบที่จะโต้แย้งและขอให้ศาลจดข้อโต้แย้งนั้นไว้ การที่โจทก์เพิ่งมาคัดค้านในชั้นอุทธรณ์จึงต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ในศาลเป็นเหตุให้ยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความว่า มีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และโจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสจากการชุลมุนต่อสู้นั้น เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง เพราะขาดข้อเท็จจริงอันเป็นข้อสาระสำคัญเป็นองค์ความผิด หาใช่เพียงแตกต่างกันในรายละเอียดที่ต้องกล่าวมาในฟ้องเท่านั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาการกระทำผิดเป็นสาระสำคัญ หากไม่ตรงกับที่ฟ้องร้อง ศาลต้องยกฟ้อง
คดีอาญา โจทก์บรรยายฟ้องว่า ผู้เสียหายถูกจำเลยขู่เข็ญให้รับว่ารับจ้างมาฆ่าจำเลย ขณะผู้เสียหายถูกกักขังคือ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม2505 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 9 มกราคม 2505 เวลากลางวัน เท่านั้นส่วนวันเวลาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จขึ้นนั้น โจทก์คงระบุยืนยันไว้ชัดแจ้งในตอนต้นว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2505 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณา ข้อแตกต่างในเรื่องวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดนี้เป็นข้อสารสำคัญซึ่งตามกฎหมายให้ศาลต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการพิพากษาถึงจำเลยอื่น แม้ไม่ได้ฎีกา เมื่อเหตุยกฟ้องเป็นเหตุในลักษณะคดี
คดีที่จำเลยคนหนึ่งฎีกาคัดค้านคำพิพากษาซึ่งให้ลงโทษจำเลยหลายคนในความผิดฐานเดียวกันนั้น เมื่อศาลฎีกาเห็นควรยกฟ้องเพราะพยานหลักฐานของโจทก์ ไม่พอฟังลงโทษจำเลยคนใดได้ และเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาให้มิต้องรับโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีถูกยกฟ้องเพราะอำนาจโจทก์/ศาลทหาร ไม่ใช่เนื้อหาความผิด โจทก์มีสิทธิฟ้องใหม่ได้
คดีก่อนศาลยกฟ้องเพราะหมายโจทก์ลงชื่อเป็นโจทก์โดยลำพังโดยไม่มีอำนาจ ทั้งข้อหาก็อยู่ในอำนาจศาลทหาร โดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงแห่งคดี การยกฟ้องจึงหาใช่เพราะศาลได้พิจารณาถึงเนื้อหาในความผิดที่ได้ฟ้องไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ อ้างฎีกาที่ 1301/2503
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าเป็นฟ้องซ้ำ ศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยเห็นว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาตามรูปคดี ดังนี้ จำเลยย่อมฎีกาว่าคดีเป็นฟ้องซ้ำ ไม่ควรพิจารณาต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่: คดีถูกยกฟ้องเพราะทนายไม่มีอำนาจลงชื่อ และข้อหาไม่อยู่ในอำนาจศาลเดิม โจทก์มีสิทธิฟ้องใหม่ได้
คดีก่อนศาลยกฟ้องเพราะทนายโจทก์ลงชื่อเป็นโจทก์โดยลำพังโดยไม่มีอำนาจทั้งข้อหาก็อยู่ในอำนาจศาลทหาร โดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงแห่งคดี การยกฟ้องจึงหาใช่เพราะศาลได้พิจารณาถึงเนื้อหาในความผิดที่ได้ฟ้องไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ อ้างฎีกาที่ 1301/2503
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าเป็นฟ้องซ้ำ ศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยเห็นว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาตามรูปคดี ดังนี้ จำเลยย่อมฎีกาว่าคดีเป็นฟ้องซ้ำ ไม่ควรพิจารณาต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ศาลยกฟ้องจำเลยที่ศาลทหารยกฟ้องแล้ว แม้เปลี่ยนความผิดฐาน
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันพยายามฆ่าคนตายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83 ต่อศาลทหาร ศาลทหารพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มิได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด ส่วนจำเลยที่ 2 ฟังว่า ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายบาดเจ็บตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจศาลทหารพิจารณาพิพากษาได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยทั้งสามพ้นข้อหาไป ดังนี้ คดีสำหรับตัวจำเลยที่ 1 และ 3 ถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องไปแล้ว เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ต่อศาลพลเรือนอีก คดีสำหรับตัวจำเลยที่ 1 และที่ 3 ่ย่อมต้องห้าม ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2505)
of 164