พบผลลัพธ์ทั้งหมด 784 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยึดทรัพย์ของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แม้ทรัพย์นั้นถูกใช้เป็นประกันหรือมีสิทธิอื่น
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีอำนาจยึดทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิของลูกหนี้มาใช้หนี้ตามคำพิพากษาได้เสมอ แม้ลูกหนี้จะได้เอาทรัพย์นั้นไปวางเป็นประกันเงินกู้ หรือจำนำไว้แก่ผู้ใด หรือผู้ใดจะมีบุริมสิทธิหรือสิทธิยึดหน่วงในทรัพย์นั้นอย่างไร ผู้นั้นก็ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์นั้นไม่ได้ คงได้แต่เรียกร้องบังคับตามสิทธิได้ในการบังคับคดีตามกำหนดเวลาในกฎหมายว่าด้วยการนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้มีอำนาจยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้มีการจำนำหรือวางเป็นประกัน ผู้มีสิทธิอื่นต้องเรียกร้องในคดีบังคับคดี
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีอำนาจยึดทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้มาใช้หนี้ตามคำพิพากษาได้เสมอ แม้ลูกหนี้จะได้เอาทรัพย์นั้นไปวางเป็นประกันเงินกู้ หรือจำนำไว้แก่ผู้ใด หรือผู้ใดจะมีบุริมสิทธิหรือสิทธิยึดหน่วงในทรัพย์นั้นอย่างไร ผู้นั้นก็ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์นั้นไม่ได้คงได้แต่เรียกร้องบังคับตามสิทธิได้ในการบังคับคดีตามกำหนดเวลาในกฎหมายว่าด้วยการนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาเป็นอันยกเลิกเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำฟ้องของโจทก์ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่กำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนคำพิพากษาก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 260(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาเป็นอันยกเลิกเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำฟ้องของโจทก์คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่กำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนคำพิพากษาก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 260(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสั่งยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา: ศาลชั้นต้นมีอำนาจหน้าที่ก่อนสำนวนถึงศาลอุทธรณ์
การยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น ถ้าศาลอุทธรณ์ยังมิได้รับสำนวนลงสารบบก็เป็น
เรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาลชั้นต้น
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดี คือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
เรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาลชั้นต้น
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดี คือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา ต้องเป็นไปตามกระบวนการวิธีพิจารณา และศาลชั้นต้นมีอำนาจหน้าที่ก่อนศาลอุทธรณ์
การยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น ถ้าศาลอุทธรณ์ยังมิได้รับสำนวนลงสารบบก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของศาลชั้นต้น
การที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดีคือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
การที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดีคือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอทุเลาการบังคับยึดทรัพย์หลังศาลยกฟ้อง และการขออนุญาตยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา ต้องมีการไต่สวน
เมื่อศาลพิพากษาคดี และสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาแล้ว โจทก์จะขอทุเลาการบังคับขอให้ยึดทรัพย์จำเลยไว้ต่อไปในระหว่างอุทธรณ์ไม่ได้
คำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราว อาจยื่นได้ในกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์ก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษา
เมื่อมีคำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราว ศาลต้องไต่สวนก่อนมีคำสั่งอนุญาตจะสั่งอนุญาตไปทีเดียวโดยไม่มีการไต่สวนย่อมไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
ในกรณีที่จะขอให้ศาลยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาในเหตุฉุกเฉินนั้นโจทก์จะต้องยื่นคำร้องแสดงให้เห็นว่าคดีมีเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลสั่งเป็นกรณีฉุกเฉินด้วย
คำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราว อาจยื่นได้ในกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์ก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษา
เมื่อมีคำร้องขอให้ยึดทรัพย์ชั่วคราว ศาลต้องไต่สวนก่อนมีคำสั่งอนุญาตจะสั่งอนุญาตไปทีเดียวโดยไม่มีการไต่สวนย่อมไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
ในกรณีที่จะขอให้ศาลยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาในเหตุฉุกเฉินนั้นโจทก์จะต้องยื่นคำร้องแสดงให้เห็นว่าคดีมีเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลสั่งเป็นกรณีฉุกเฉินด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์มรดกและค่าเช่า: ศาลมีอำนาจยึดทรัพย์รวมถึงดอกผลและสั่งให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าให้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้
การขอให้คุ้มครองก่อนพิพากษานั้น ศาลอาจสั่งให้ยึดหรืออายัติได้ทั้งสองอย่าง
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วย เช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ใช้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอกทำการโอน, หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัติ
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วย เช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ใช้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอกทำการโอน, หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัติ
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดและอายัดทรัพย์มรดก: ศาลมีอำนาจสั่งยึดทรัพย์รวมถึงดอกผล และสั่งให้ชำระค่าเช่าแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้
การขอให้คุ้มครองก่อนพิพากษานั้น ศาลอาจสั่งให้ยึดหรืออายัดได้ทั้งสองอย่าง
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วยเช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ให้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอก ทำการโอน หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัด
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วยเช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ให้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอก ทำการโอน หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัด
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาต้องแสดงเหตุจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยตาม ป.ว.พ.มาตรา 263(1)
ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดเนื่องจากการยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาต้องบรรยายฟ้องให้เข้าลักษณะที่บัญญัติไว้ใน ป.ว.พ.มาตรา 263 (1) มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ อันควรรับไว้พิจารณา
(อ้างฎีกาที่ 488/2488)
(อ้างฎีกาที่ 488/2488)