คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กำหนดเวลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นอุทธรณ์เกินกำหนด และเหตุสุดวิสัย ศาลไม่อนุญาตขยายเวลาหากมิได้ดำเนินการก่อนหมดกำหนด
หลังจากเลยกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์แล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาเพื่อให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นอุทธรณ์ โดยอ้างว่าทนายจำเลยมิได้แจ้งผลคดีให้จำเลยทราบว่าศาลชั้นต้นพิพากษาคดีเมื่อใด เพิ่งได้ทราบหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ แล้ว จึงไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาได้ เหตุดังกล่าว หาใช่เหตุสุดวิสัยตามความหมายในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่ศาลชอบที่จะยกคำร้องของจำเลยเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ และประเด็นการยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา
แม้ฟ้องอุทธรณ์จะระบุว่าอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษายกฟ้องโจทก์.เพราะเหตุที่โจทก์ไม่มาศาลตามนัดไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ก็ตาม แต่เมื่อข้อความในฟ้องอุทธรณ์เป็นการคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องของโจทก์ ที่ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ กรณีจึงถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ด้วยเมื่อโจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องที่โจทก์ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ จึงเป็นการยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์ภายในกำหนด ทำให้คำสั่งศาลถึงที่สุด และฎีกาต้องห้าม
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาหากจำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นก็ต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันทราบคำสั่งนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156วรรคท้าย แต่จำเลยเพิ่งยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายหลังครบกำหนดดังกล่าวแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาจึงถึงที่สุดแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งนั้นได้อีก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเพราะจำเลยไม่นำค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ศาลอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย คำสั่งของศาลอุทธรณ์นี้ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งศาลที่เกินกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัด ช. ได้ขอให้ศาลจังหวัด ช. อายัดเงินค่าจ้างที่จำเลยที่ 1 จะได้รับ ศาลจังหวัด ช. อายัดเงินดังกล่าวและขอให้ศาลแพ่งบังคับคดีแทน ต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกฟ้องล้มละลายคดีนี้ที่ศาลแพ่งและถูกสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ศาลแพ่งได้มีคำสั่งตามคำขอของโจทก์ให้ส่งเงินของจำเลยที่ 1 ลูกหนี้ที่อายัดไว้ตามหมายอายัดของศาลจังหวัด ช. ซึ่งยังอยู่ที่กองบังคับคดีแพ่งไปรวมไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีนี้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2516 วันที่ 14 ตุลาคม 2517 ผู้ร้องได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัด ช. ขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ที่สั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีส่งเงินที่อายัดมาไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ผลที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษายกคำร้องดังกล่าวของผู้ร้องโดยวินิจฉัยว่า ผู้ร้องจะต้องมายื่นคำร้องต่อศาลแพ่งจึงจะชอบ (ฎีกาที่ 532/2520) ผู้ร้องได้ฟังคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวในวันที่ 15 สิงหาคม 2520 ต่อมาวันที่ 6 กันยายน 2520 ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งสั่งเพิกถอนคำสั่งของศาลแพ่งฉบับลงวันที่ 29 ตุลาคม 2516 อ้างว่าสั่งไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ เป็นกรณีที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบเกินกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง แล้วผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของศาลแพ่งฉบับดังกล่าวนั้นได้ ชอบที่จะยกคำร้องของผู้ร้องเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าเช่าที่ดิน: กำหนดเวลาและสถานที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์เช่าที่ดินของจำเลย ในสัญญาไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับสถานที่ชำระค่าเช่า โจทก์ต้องเป็นผู้นำค่าเช่าไปชำระให้แก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ณ ภูมิลำเนาของจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324และจะต้องชำระภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 204

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4052/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดเวลาแน่นอน การต่ออายุหรือเลิกสัญญาไม่กระทบระยะเวลาเดิม และไม่ทำให้เกิดสิทธิค่าชดเชย
สัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดเวลาจ้างที่แน่นอน และมีข้อความกำหนดวิธีการที่จะต่อสัญญาหรือเลิกสัญญาไว้ว่า ผู้ว่าจ้างจะได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทราบ เมื่อนายจ้างต่ออายุสัญญาออกไป จึงเป็นการกำหนดระยะเวลาในการจ้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่เป็นการขยายระยะเวลาในสัญญาเดิม จึงไม่กระทบกระเทือนต่อกำหนดเวลาในสัญญาเดิมที่ระบุจำนวนปีแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนการเลิกสัญญา ซึ่งอาจมีขึ้นก็เป็นเรื่องที่จะตกลงกันใหม่ยกเลิกกำหนดเวลาในสัญญาเดิมเสีย หาใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาในสัญญาจ้างฉบับเดิมไม่ สำหรับข้อความตามสัญญาที่ว่าถ้าไม่มีการแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทราบ ให้ถือว่าการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างตามสัญญานั้นมีไว้เพื่อเป็นการลดหน้าที่ของผู้ว่าจ้างในกรณีไม่ต่ออายุสัญญาเท่านั้น ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความแน่นอนของระยะเวลาตามสัญญาจ้างที่มีอยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3726/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างงานมีกำหนดเวลา: ศาลฎีกาตัดสินว่าการทำสัญญาหลายฉบับเพื่อหลีกเลี่ยงค่าชดเชยเป็นเหตุพิพากษานอกฟ้อง
เมื่อตามคำฟ้องและคำให้การคงมีประเด็นโต้เถียงกันเพียงว่า สัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนหรือไม่ และโจทก์จำเลยรับข้อเท็จจริงกันว่า จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์รวม 4 ฉบับ สัญญาแต่ละฉบับระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดสัญญาจ้างไว้ จึงถือได้ว่าสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการจ้างที่กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนแล้วดังนั้น การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยโดยฟังว่าสัญญาจ้างทั้ง 4 ฉบับทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์จึงเป็นการพิพากษานอกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3708/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างที่มีกำหนดเวลา แม้มีข้อตกลงเลิกจ้างก่อนกำหนด ก็ไม่ถือเป็นสัญญาไม่มีกำหนดเวลา
สัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอน ตอนท้ายระบุว่า "ยกเว้นแต่จะได้เลิกจ้างก่อนกำหนด" ซึ่งทำได้ในกรณีโจทก์ทำผิดกฎข้อบังคับการทำงาน ข้อความนี้มิได้ทำให้สัญญานี้เป็นสัญญาที่มิได้กำหนดเวลาการจ้างไว้แน่นอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อบังคับบริษัทกำหนดอายุเกษียณไม่ใช่สัญญาจ้างที่มีกำหนดเวลา จึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
ข้อบังคับของการเคหะแห่งชาติว่าด้วย การจ้าง การแต่งตั้งการออกจากตำแหน่ง วินัย และการลงโทษของลูกจ้างว่า"ลูกจ้างคนใดมีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ ให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อสิ้นปีงบประมาณ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณในปีงบประมาณที่ลูกจ้างนั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์" นั้นเป็นกรณีกำหนดคุณสมบัติของลูกจ้างไว้เป็นการทั่วไป อาจมีอยู่ก่อนที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าเป็นลูกจ้างหรือเพิ่งมีขึ้นหลังจากบุคคลนั้นเข้าเป็นลูกจ้างแล้วก็ได้ มิใช่เป็นการตกลงกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างเป็นรายๆ ไปว่าจะจ้างกันเป็นระยะเวลานานเท่าใด แม้โจทก์ซึ่งเกิดปี พ.ศ.2463 อาจคำนวณอายุของตนและทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่า จำเลยจะจ้างโจทก์เพียงวันที่ 30 กันยายน 2523 ก็ตาม ก็ไม่ทำให้โจทก์กลายเป็นลูกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3459/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายตกลงกันแล้ว จำเลยผิดสัญญา ส่งมอบสินค้าไม่ทันตามกำหนด โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
โจทก์เคยเป็นลูกค้าของจำเลย ประมาณเดือนกรกฎาคม 2521 โจทก์ได้ส่งใบสอบราคาเพื่อจัดพิมพ์สมุดบันทึกประจำปี พ.ศ. 2522 ไปให้จำเลยใบสอบราคาได้กำหนดขนาด วัตถุดิบที่ใช้กำหนดวันแล้วเสร็จ วิธีการจัดส่งและจำนวนการสั่งพิมพ์จากขั้นต่ำ 8,000 เล่ม ถึงขั้นสูง 15,000 เล่ม มีข้อกำหนดด้วยว่าถ้า การพิมพ์ไม่เป็นไปตามใบสั่ง โจทก์มีสิทธิไม่รับของและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และถ้าส่งล่าช้า จะถูกปรับวันละ 2,000 บาท จำเลยได้กรอกราคาในใบสอบราคาของโจทก์แล้วส่งกลับคืนไป โดยเสนอว่าถ้าพิมพ์จำนวนขั้นต่ำและขั้นสูงราคาจะแตกต่างกัน ถ้าพิมพ์จำนวนน้อยจะแพงกว่าพิมพ์จำนวนมากมีรายละเอียดทุกราคา ต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม 2521 โจทก์ตอบตกลงให้จำเลยจัดพิมพ์ หลักฐานดังกล่าวเป็นคำเสนอสนองระหว่างโจทก์และจำเลยเกิดเป็นสัญญาขึ้น เรื่องจำนวนพิมพ์ที่แน่นอน จำเลยไม่ได้เกี่ยงให้ฝ่ายโจทก์กำหนดก่อนเพราะเคยพิมพ์กันมาแล้ว จึงหาใช่ข้อสารสำคัญไม่การที่ระบุในใบสอบราคาว่าตัวอย่างและรายละเอียดตลอดจนการอนุมัติการวางรูปเล่ม จำนวนสั่งพิมพ์ให้ติดต่อกับ ร.เจ้าหน้าที่แผนกโฆษณาของโจทก์ก็เพื่อให้ทราบว่าจะติดต่อกับผู้ใดข้อโต้แย้งของจำเลยว่ายังไม่ได้ตกลงรับจ้างเพราะไม่ทราบจำนวนพิมพ์และวันหยุดของธนาคารพาณิชย์นั้นเป็นเรื่องกล่าวอ้างขึ้นภายหลังดังจะเห็นได้ว่าจำเลยก็ยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้สั่งทำและขอเลื่อนเวลาการส่งของออกไปจึงฟังไม่ขึ้นจำเลยไม่สามารถส่งของให้โจทก์ได้ภายในกำหนด จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาและไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในการดำเนินงานล่วงหน้าจากโจทก์
of 99