คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของลูกหนี้ร่วมในความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
จำเลยซึ่งขับรถยนต์โดยสารกับ ส. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายนั่งซ้อน ท้ายมาต่างประมาทด้วยกัน มิใช่เป็นการร่วมกันกระทำละเมิด ผู้ตายมิได้มีส่วนทำความผิดด้วย และความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายอันเดียวกันเป็นหนี้อันจะแบ่งแยกจากกันชำระมิได้ ผู้ทำละเมิดทุกคนต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างลูกหนี้ร่วม ตามป.พ.พ. มาตรา 301 ประกอบด้วยมาตรา 291 จำเลยจึงต้องรับผิดในความเสียหายทั้งหมดต่อโจทก์ ส่วนจำเลยกับ ส. จะต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับ ส. ด้วยกันเอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดกรณีบุคคลหลายคนเป็นหนี้ร่วมกัน ลูกหนี้ร่วมกันต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด
การที่ ด.บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายเป็นเพราะจำเลยกับส.ต่างประมาท มิใช่เป็นการร่วมกระทำละเมิด เมื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายอันเดียวกัน จึงเป็นกรณีบุคคลหลายคนเป็นหนี้อันจะแบ่งแยกจากกันชำระมิได้ ผู้กระทำละเมิดทุกคนต้องร่วมรับผิดในความเสียหายต่อโจทก์อย่างลูกหนี้ร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 301 ประกอบมาตรา 291 ศาลจะวินิจฉัยว่าจำเลยประมาทน้อยกว่า ส.จึงให้จำเลยรับผิดเพียง3 ใน 10 ส่วน ตามความร้ายแรงแห่งละเมิดหาได้ไม่ เพราะด.มิได้มีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วย ผู้กระทำละเมิดแต่ละคนจะรับผิดมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องระหว่างผู้กระทำละเมิดด้วยกันเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5317/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของห้างหุ้นส่วนสามัญและตัวแทนในการขนส่งสินค้าที่เกิดความเสียหาย
สายเดินเรือเมอสก์สาขากรุงเทพฯกับบริษัทเมอสก์ไลน์(สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด ใช้ชื่อประกอบกิจการเป็นภาษาอังกฤษมีรูปลักษณะตัวอักษรว่า เมอสก์ไลน์ (MAERSKLINE) มีสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีฟ้ามีดาว7แฉก สีขาวอยู่ภายในเหมือนกันใบตราส่งที่ใช้ก็เหมือนกัน บริษัท ต.จ้างบริษัทเมอสก์ไลน์(สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด ขนสินค้าจากสิงคโปร์มากรุงเทพฯ โดยทางเรือ สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯเป็นผู้ติดต่อเจ้าหน้าที่นำร่อง เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้เรือบรรทุกสินค้าเข้าเทียบท่า ทั้งแจ้งวันเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ ถือได้ว่าสายเดินเรือเมอสก์สาขากรุงเทพฯร่วมกับบริษัทเมอสก์ไลน์(สิงคโปร์) จำกัด ขนส่งสินค้าโดยแบ่งหน้าที่กันทำ เมื่อสินค้าเสียหายจากการขนส่ง จำเลยทั้งสองในฐานะหุ้นส่วนของสายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนจึงต้องร่วมรับผิดด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทนายความประมาทเลินเล่อจำวันนัดสืบพยานคดีผิดพลาด ศาลฎีกาตัดสินให้รับผิดชอบความเสียหาย
ทนายความจะต้องจดวันนัดพิจารณาจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาล การที่จำเลยซึ่งเป็นทนายความของโจทก์อ้างว่าจำวันนัดสืบพยานผิดพลาดตามที่ได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานศาล จึงเป็นความบกพร่องของจำเลยเอง หาใช่เหตุสุดวิสัยไม่และเมื่อจำเลยไม่ไปศาลในวันนัดสืบพยานจนศาลสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงฟ้องจำเลยได้โดยไม่ต้องบอกกล่าว เพราะกรณีแห่งคดีนี้ไม่มีบทกฎหมายใดบังคับให้โจทก์ต้องบอกกล่าวแก่จำเลยก่อนฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4726/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เสียหายโดยนิตินัยในความผิดเช็ค: เจ้าของเงินกู้ที่แท้จริง
จำเลยกู้ยืมเงินจากผู้เสียหาย ส่วน ภ. เป็นเพียงตัวแทนของผู้เสียหายในการให้จำเลยกู้ยืมเงิน ดังนั้นความเสียหายที่แท้จริง จึงอยู่ที่ผู้เสียหายผู้เป็นเจ้าของเงินกู้ เมื่อเช็คที่จำเลย สั่งจ่ายถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้เสียหายย่อมได้รับ ความเสียหาย จึงถือว่าเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4290/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม: ละทิ้งหน้าที่แม้ยังไม่เกิดความเสียหายร้ายแรง ก็ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบกรณีร้ายแรงได้
การที่โจทก์ละทิ้งหน้าที่ไป 1 วัน จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยกรณีที่ร้ายแรงหรือไม่ไม่ใช่พิจารณาเพียงเฉพาะตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยว่าได้ระบุไว้ให้ถือว่าเป็นกรณีที่ร้ายแรงหรือไม่ หรือการที่โจทก์ละทิ้งหน้าที่ไปนั้นได้ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นแล้วอย่างไรหรือไม่ แต่จะต้องพิจารณาถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการละทิ้งหน้าที่ของโจทก์ประกอบด้วย โจทก์มีหน้าที่ควบคุมหม้อกำเนิดไอน้ำ หากเครื่องหม้อกำเนิดไอน้ำเกิดขัดข้องขึ้นและไม่มีผู้ใดปิดเครื่อง อาจทำให้พลังไอน้ำที่อยู่ในเครื่องดัน ให้ หม้อน้ำระเบิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของจำเลยและชีวิตของลูกจ้างอื่นของจำเลยได้ การที่โจทก์ละทิ้งหน้าที่ไปนั้นจึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแม้ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยจะไม่ได้ระบุว่าการละทิ้งหน้าที่ของโจทก์ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยกรณีที่ร้ายแรงหรือไม่และการละทิ้งหน้าที่ของโจทก์ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยกรณีที่ร้ายแรงแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4287/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความหมายของคำว่า ‘เจ้าของ’ หรือ ‘ผู้ครอบครอง’ ในการฟ้องคดีความเสียหาย ไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
คำว่าเจ้าของตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานหมายความว่า ผู้มีกรรมสิทธิ์ผู้มีสิทธิครอบครอง ดังนั้น การที่โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ก็มีความหมายเหมือนกัน ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4287/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของคำว่า 'เจ้าของ' หรือ 'ผู้ครอบครอง' ในการฟ้องร้องความเสียหายทางแพ่ง
คำว่าเจ้าของตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานหมายความว่าผู้มีกรรมสิทธิ์ผู้มีสิทธิครอบครอง ดังนั้น การที่โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ก็มีความหมายเหมือนกัน ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4245/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในชั้นตรวจคำขอรับชำระหนี้ ไม่ถือเป็นคำวินิจฉัยที่ทำให้เสียหาย
ในชั้นการตรวจคำขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนเรื่องหนี้สินแล้วทำความเห็นส่งสำนวนต่อศาล การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนการนำพยานมาให้สอบสวนและมีคำสั่งยกคำร้องที่ขออนุญาตนำพยานหลักฐานมาให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนใหม่ เป็นการกระทำในขั้นตอนของการสอบสวนตรวจคำขอรับชำระหนี้เท่านั้น และยังไม่เป็นการแน่นอนว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะทำความเห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้นั้นหรือไม่ต่อมาหากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นควรอนุญาตหรือให้ยกคำขอรับชำระหนี้ด้วยเหตุใดก็ตาม ลำพังความเห็นดังกล่าวก็หามีผลบังคับแต่อย่างใดไม่ ศาลอาจวินิจฉัยยกหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นจึงยังไม่เป็นการกระทำหรือเป็นคำวินิจฉัยที่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4076/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานจดทะเบียนที่ดินปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบรู้ว่าผู้มาจดทะเบียนไม่ใช่เจ้าของที่ดินทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้รับจำนองและผู้รับซื้อฝาก
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินมีหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม มีผู้แอบอ้างว่าเป็น พ. ให้กับโจทก์แต่จากลายพิมพ์นิ้วมือของ พ. ในแบบสอบสวนเพื่อขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์กับลายพิมพ์นิ้วมือของ พ. ในสัญญาจำนองและขายฝากปรากฏชัดว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือคนละชนิด อีกทั้งในวันทำสัญญาจำนองและขายฝากจำเลยได้เตรียมสัญญาต่าง ๆ ให้ผู้ที่แอบอ้างว่าเป็น พ. ลงชื่อไว้เรียบร้อยแล้ว การที่จำเลยเสนอให้มีการจดทะเบียนจำนองและขายฝากที่ดินของ พ. ทั้ง ๆ ที่จำเลยรู้อยู่แล้วว่าผู้มาขอจดทะเบียนมิใช่ พ. จำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ผู้รับจำนองและผู้รับซื้อฝาก ถือว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์แล้ว การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตแม้ไม่เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157.
of 185