คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิสูจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาจริงของสัญญา การนำสืบหักล้างหนี้ และการพิสูจน์จำนวนเงินที่รับจริง
จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์เพราะโจทก์ตกลงซื้อสวนมะพร้าวจำเลย จำเลยรับเงินไปจากโจทก์จำนวนหนึ่งซึ่งจะถือเป็นค่าสวนมะพร้าวต่อเมื่อจำเลยสามารถโอนสวนมะพร้าวให้โจทก์ได้ มิใช่โจทก์จำเลยเจตนากู้เงินกัน 60,000 บาทการทำสัญญากู้จึงเห็นการเอาหนี้ตามสัญญาซื้อขายสวนมะพร้าวมาทำเป็นสัญญากู้เงินมิใช่รับเงินเนื่องจากการกู้เงินกันโดยแท้จริงในขณะทำสัญญากู้ยังไม่รู้ว่าจำเลยจะต้องคืนเงินหรือไม่แล้วแต่หนี้ที่จะเกิดจากสัญญาซื้อขายสวนมะพร้าวอีกส่วนหนึ่งเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีในการทำสัญญากู้ที่ให้บังคับกันได้ก็คือให้ใช้เงินคืนแก่กันในลักษณะกู้เงินตามจำนวนที่จะต้องคืนโดยอาศัยหนี้ตามสัญญาซื้อขายสวนมะพร้าวซึ่งหากจะต้องมีการคืนหรือหักเงินกันต่อไปข้างหน้าจำเลยจึงมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบว่าความจริงจำเลยรับเงินไปจากโจทก์เพียง 10,000 บาท มิใช่การนำสืบแปลหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร หากแต่เป็นการนำสืบหักล้างตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าจำนวนหนี้ตามที่กล่าวในฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์เพราะไม่ใช่เจตนาที่แท้จริงจำเลยมีสิทธิจะนำสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 วรรคสุดท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิสูจน์ในคำท้า: จำนวนและขนาดเสาเข็มสำคัญอย่างไรในการทำละเมิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตร ฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตร เป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียง จำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้น ไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุด ส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดิน การท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิสูจน์ตามคำท้า การขุดเสาเข็มเพื่อพิสูจน์จำนวนและตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความยาวทุกต้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตรฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตรเป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียงจำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้นไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุดส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดินการท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำท้าพิสูจน์ หากผลเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน ศาลต้องตัดสินตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้วศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในคำท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้วจำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: ทายาทต้องพิสูจน์การเช่าหากจำเลยอ้างซื้อขายและครอบครองนานกว่า
ที่พิพาทมีโฉนด โจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ จำเลยอ้างว่าบิดามารดาโจทก์ขายที่พิพาทให้บิดามารดาจำเลยโดยมิได้มีการแก้ทะเบียนกัน ข้อเท็จจริงรับกันว่า บิดามารดาจำเลยและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมา 40 ปีแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ศาลได้สั่งแสดงตามคำขอของจำเลยแล้ว เป็นหน้าที่ของฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นทายาทเดิมจะต้องนำสืบแสดงว่าฝ่ายจำเลยได้ทำนาพิพาทโดยเช่าจากฝ่ายโจทก์ดังที่โจทก์อ้าง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ผู้ฟ้องต้องพิสูจน์เจตนาทุจริต ไม่ใช่แค่ผู้รับเช็ค
เช็คที่ฟ้องร้องกันเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็ค เมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยจึงนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยจึงฟ้องกล่าวหาโจทก์ว่าโจทก์กระทำผิดอาญาโดยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 ข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ว่ากระทำผิดทางอาญาจึงอยู่ที่ข้อความตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้นั้น หาใช่อยู่ที่ข้อความว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คนั้นให้แก่ผู้ใด และจ่ายเช็คนั้นเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งมิใช่จำเลยหรือไม่(อ้างฎีกาที่ 284/2507)ดังนั้นฟ้องของจำเลยจึงไม่เป็นฟ้องเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นผิดสัญญาถูกยุติ ผลดุลพินิจศาลคำนวณค่าเสียหายได้ แม้โจทก์มิได้พิสูจน์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญา ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดสัญญา แต่โจทก์ไม่เสียหาย ให้ยกฟ้อง จำเลยมิได้อุทธรณ์ในประเด็นข้อนี้ไว้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย จำเลยจะฎีกาว่าจำเลยมิได้ผิดสัญญามิได้ เพราะประเด็นเรื่องผิดสัญญายุติถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว
ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 นั้น แม้โจทก์จะนำสืบถึงค่าเสียหายไม่ได้ ศาลก็คำนวณค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้นให้โจทก์ได้ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดี
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเนื่องจากฉ้อฉลและการพิสูจน์เจตนาของผู้ซื้อรู้เท่าถึงข้อความจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินซึ่งจำเลยที่ 1 ลูกหนี้โจทก์ได้โอนขายให้แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ฟ้องเช่นนี้เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เพราะคำขอของโจทก์ไม่ได้เรียกร้องเอาที่พิพาทมาเป็นของโจทก์ หรือขอให้โจทก์ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะผลของการที่โจทก์ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลมีแต่เพียงให้ทรัพย์สินกลับคืนมาเป็นของลูกหนี้ตามเดิมเท่านั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและพระราชบัญญัติไพ่ ต้องพิสูจน์การกระทำปลอมเองและใช้กฎหมายที่ใช้ขณะกระทำผิด
การกระทำที่จะเป็นผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 273 นั้น จะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้กระทำการปลอมขึ้นเองเพียงแต่มีบล๊อกแม่พิมพ์เป็นเครื่องมือทำไพ่ปลอมไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 มาตรา 11 เท่านั้น จึงหาผิดตามมาตรา 272 ด้วยไม่
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) ต้องเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นด้วย แต่ฟ้องไม่ระบุองค์ความผิดดังกล่าว จึงลงโทษตามมาตรานี้ไม่ได้
จำเลยทำผิดก่อนใช้พระราชบัญญัติไพ่(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2505 ซึ่งมีโทษสูงกว่า จึงต้องใช้พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 ซึ่งใช้ขณะกระทำผิดและเป็นคุณบังคับแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าและการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ไพ่: การพิสูจน์ความผิดต้องชัดเจนถึงการกระทำความผิดเอง
การกระทำที่จะเป็นผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 นั้นจะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้กระทำการปลอมขึ้นเอง เพียงแต่มีบล๊อกแม่พิมพ์เป็นเครื่องมือทำไพ่ปลอมไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 มาตรา 11 เท่านั้น จึงหาผิดตามมาตรา 273 ด้วยไม่
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) ต้องเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นด้วยแต่ฟ้องไม่ระบุองค์ความผิดดังกล่าว จึงลงโทษตามมาตรานี้ไม่ได้
จำเลยทำผิดก่อนใช้พระราชบัญญัติไพ่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2505 ซึ่งมีโทษสูงกว่าจึงต้องใช้พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 ซึ่งใช้ขณะกระทำผิดและเป็นคุณบังคับแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก.
of 128