พบผลลัพธ์ทั้งหมด 831 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์: การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฏว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมฤดกและการฟ้องคดีโดยคนอนาถา เมื่อศาลยกคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถา คดีถือว่าขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถานั้นเมื่อศาลสั่งยกคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถาเสียแล้ว การร้องขอฟ้องอย่างคนอนาถาในครั้งนั้นก็เป็นอันหมดสิ้นไป โจทก์จะฟ้องหรือร้องขอว่าความอย่างคนอนาถาใหม่ก็ต้องกระทำภายในกำหนดอายุความ
มาตรา 23 ป.ม.แพ่งเป็นเรื่องขยายเวลา ส่วนอายุความมฤดกนั้น ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี และมาตรา 191 บัญญัติว่าอายุความที่กฎหมายกำหนดไว้นั้นผู้ใดหาอาจจะขยายออกหรือย่นเข้าได้ไม่
เจ้ามฤดกตายเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2490 โจทก์มาร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาในวันที 19 กรกฎาคม 2491 ศาลไต่สวนแล้วสั่งยกคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถา ในวันที่ 7 สิงหาคม 2491 ครั้นวันที่ 9 สิงหาคม 2491 โจทก์จึงได้นำค่าธรรมเนียมศาลที่จะต้องชำระเมื่อเวลายืนคำฟ้องมาชำระต่อศาล ศาลจังรับฟ้องของโจทก์ใน+นั้น ดังนี้ต้องถือว่าคดีขายอายุความมฤดกแล้ว
(ประชุมใหญ่)
มาตรา 23 ป.ม.แพ่งเป็นเรื่องขยายเวลา ส่วนอายุความมฤดกนั้น ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี และมาตรา 191 บัญญัติว่าอายุความที่กฎหมายกำหนดไว้นั้นผู้ใดหาอาจจะขยายออกหรือย่นเข้าได้ไม่
เจ้ามฤดกตายเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2490 โจทก์มาร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาในวันที 19 กรกฎาคม 2491 ศาลไต่สวนแล้วสั่งยกคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถา ในวันที่ 7 สิงหาคม 2491 ครั้นวันที่ 9 สิงหาคม 2491 โจทก์จึงได้นำค่าธรรมเนียมศาลที่จะต้องชำระเมื่อเวลายืนคำฟ้องมาชำระต่อศาล ศาลจังรับฟ้องของโจทก์ใน+นั้น ดังนี้ต้องถือว่าคดีขายอายุความมฤดกแล้ว
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชันสูตรพลิกศพไม่ถูกต้อง ถือไม่ได้ว่ามีการชันสูตรจริง โจทก์ฟ้องคดีอาญาได้
ปลัดอำเภอได้ทำการชันสูตรบาดแผลผู้ตายไว้ก่อนตาย และเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็ได้บันทึกต่อไว้ว่า ตายเวลาไหนเพราะเหตุใด แต่ในการชันสูตรนี้ไม่มีแพทย์ร่วมด้วยพฤติการณ์ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องทำการชันสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จ เป็นแต่ทำไม่ถูกต้อง หรือเท่ากับไม่มีการชันสูตรพลิกศพเลยโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการแบ่งมรดกของทายาทที่ไม่ได้ร่วมฟ้องคดี: ศาลไม่แบ่งส่วนให้ทายาทที่ไม่เข้ามาเป็นโจทก์
โจทก์ 3 คนกับ ม. ได้รับมรดกกึ่งหนึ่งของที่พิพาท อีกกึ่งหนึ่งเป็นของจำเลย เมื่อโจทก์ 3 คน ฟ้องขอแบ่ง โดย ม. มิได้เข้ามาเป็นโจทก์ หรือร้องขอรับส่วนของตนในคดี ศาลก็พิพากษาแบ่งให้โจทก์ตามส่วนที่โจทก์ควรจะได้ คือ 3 ใน 8 ส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีภาษีโรงค้าก่อนมีประเมินภาษีเป็นสิทธิที่ไม่ชอบตามกฎหมาย
เมื่อยังไม่มีการประเมินภาษีผู้ที่จะต้องเสียภาษีจะนำคดีเกี่ยวกับภาษีนั้นมาฟ้องร้องต่อศาลทีเดียวไม่ได้ ถือว่า ไม่ใช่กรณีจะฟ้องได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 55.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีโดยใช้ชื่อย่อสมาคมฯ และชื่อเต็มในคำฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องที่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องโจทก์กล่าวในตอนต้นว่า ระหว่างสมาคมพาณิชย์จีนโดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการเป็นนายก โจทก์ แล้วดำเนินความว่า "ข้าพเจ้าสมาคมพาณิชย์จีนโดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการ นายก โจทก์ ฯลฯ ขอยื่นฟ้องนายอิวหงี แซ่เอียบ จำเลย ฯลฯ ข้อ 1 โจทก์ได้รับอนุญาตจดทะเบียนเป็นสมาคม มีนามว่า "สมาคมพาณิชย์จีน ภูเก็ต" ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีโดยใช้ชื่อย่อของสมาคม: ศาลวินิจฉัยว่าชื่อย่อและชื่อเต็มในคำฟ้องอ้างอิงถึงโจทก์คนเดียวกัน
โจทก์ฟ้องโจทก์กล่าวในตอนต้นว่า ระหว่างสมาคมพาณิชย์จีนโดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการเป็นนายก โจทก์ แล้วดำเนินความว่า'ข้าพเจ้าสมาคมพาณิชย์จีนโดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการ นายกโจทก์ฯลฯ ขอยื่นฟ้องนายอิวหงีแซ่เอียบ จำเลย ฯลฯ ข้อ 1 โจทก์ได้รับอนุญาตจดทะเบียนเป็นสมาคม มีนามว่า'สมาคมพาณิชย์จีน ภูเก็ต' ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งย้ายที่อยู่และการนับระยะเวลาตามกฎหมาย การฟ้องคดีต้องระบุวันย้ายที่อยู่ชัดเจน
ฟ้องที่กล่าวว่า จำเลยได้ย้ายมารับตำแหน่งปลัดเทศบาลเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2492 ไม่ได้กล่าวไว้ที่ใดอีกว่า จำเลยย้ายจากที่อยู่เดิมเมื่อใดต้องฟังว่าจำเลยย้ายที่อยู่ในวันเดือนปีดังกล่าว ซึ่งเมื่อนับมาถึงวันฟ้องได้เพียง 7 วันเท่านั้น จึงไม่เป็นการไม่แจ้งการย้ายที่อยู่ภายใน 30 วันดังฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสาร: การระบุช่วงเวลาที่กระทำผิด
ฟ้องโจทก์ซึ่งบรรยายเหตุการณ์แห่งข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ทำการซื้อข้าว เมื่อวันเดือนปีนั้น ต่อมาวันเดือนปีนั้นจำเลยได้ส่งอ้างหนังสือสัญญาซื้อข้าวต่อศาลซึ่งมีลายเซ็นชื่อโจทก์ในช่องผู้ซื้อ จำเลยทั้ง 2 ลงชื่อเป็นพะยาน โจทก์ไม่รู้ว่าจำเลยทำปลอมขึ้นในวันเดือนปีใดเพิ่งมาทราบการทุจจริตของจำเลยเมื่อจำเลยส่งอ้างต่อศาล ดังนี้ พอเข้าใจฟ้องได้แล้วว่า หาว่าจำเลยทำหนังสือปลอมขึ้นระหว่างวันที่โจทก์ซื้อข้าว ถึงวันที่จำเลยส่งอ้างต่อศาล ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสาร: การระบุช่วงเวลาการกระทำความผิดเพียงพอต่อการฟ้อง
ฟ้องโจทก์ซึ่งบรรยายเหตุการณ์แห่งข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ทำการซื้อข้าว เมื่อวันเดือนปีนั้น ต่อมาวันเดือนปีนั้นจำเลยได้ส่งอ้างหนังสือสัญญาซื้อข้าวต่อศาลซึ่งมีลายเซ็นชื่อโจทก์ในช่องผู้ซื้อ จำเลยทั้ง 2 ลงชื่อเป็นพยาน โจทก์ไม่รู้ว่าจำเลยทำปลอมขึ้นในวันเดือนปีใดเพิ่งมาทราบการทุจริตของจำเลยเมื่อจำเลยส่งอ้างต่อศาล ดังนี้ พอเข้าใจฟ้องได้แล้วว่า หาว่าจำเลยทำหนังสือปลอมขึ้นระหว่างวันที่โจทก์ซื้อข้าว ถึงวันที่จำเลยส่งอ้างต่อศาลไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม