คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,140 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5527/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกัญชาแบ่งเป็นถุงเล็กหลายถุงถือเป็นการเตรียมเพื่อจำหน่าย มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
การที่จำเลยมีกัญชาเป็นถุงใหญ่ 1 ถุง และแบ่งเป็นถุงเล็กอีก 8 ถุงไว้ในครอบครอง แสดงว่าจำเลยแบ่งกัญชาเตรียมไว้เพื่อจำหน่าย จึงมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5309/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดร่วมกันครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย อิทธิพลสามีเป็นเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยที่ 3 เป็นภริยาจำเลยที่ 2 บุคคลทั้งสองเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน ในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ไปพบปะพูดกับจำเลยที่ 1 ด้วยกันเมื่อจำเลยที่ 2 รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 1 ใส่ถุงกระดาษถือมาที่ห้างสรรพสินค้าเที่ยวแรกแล้วจำเลยที่ 2 ก็ส่งให้แก่จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ได้เปิดดูแล้วคล้อง ถุงกระดาษไว้กับรถเข็นเด็กซึ่งมีบุตรนั่งอยู่พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5164/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกระเบิดต้องมีสภาพใช้งานได้ การครอบครองลูกระเบิดที่ใช้งานไม่ได้ ไม่เป็นความผิดฐานมีวัตถุระเบิด
ลูกระเบิด ตามคำนิยามในมาตรา 4(2) แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 จะต้องอยู่ในสภาพที่มีคุณสมบัติเมื่อนำออกใช้จะระเบิดและมีอำนาจทำลายสังหารชีวิตมนุษย์ สัตว์ และทรัพย์สินเสียหายได้ถ้าลูกระเบิดขาดคุณสมบัติดังกล่าว หากมีพฤติการณ์ของผู้มีไว้ในครอบครองว่าจะนำไปใช้ทำเป็นวัตถุระเบิดโดยนำมาประกอบใหม่ให้มีคุณสมบัติและอยู่ในสภาพที่ใช้ระเบิดได้ก็อาจจะถือเป็นความผิดได้เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารสหภาพพม่า จำนวน 1 ลูก อยู่ในสภาพที่ใช้ทำการระเบิดไม่ได้เพราะไม่มีชนวนประกอบ โดยไม่แสดงให้เห็นพฤติการณ์ของจำเลยว่าจะนำลูกระเบิดดังกล่าวไปประกอบชนวนใหม่เพื่อใช้ทำเป็นลูกระเบิดอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานมีลูกระเบิดไว้ในครอบครองตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5164/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกระเบิดต้องมีสภาพใช้งานได้ การครอบครองลูกระเบิดที่ไม่มีสภาพใช้งานและไม่มีเจตนาประกอบใหม่ ไม่เป็นความผิด
ลูกระเบิด ตามคำนิยามในมาตรา 4(2) แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 จะต้องอยู่ในสภาพที่มีคุณสมบัติเมื่อนำออกใช้จะระเบิดและมีอำนาจทำลายสังหารชีวิตมนุษย์ สัตว์ และทรัพย์สินเสียหายได้ถ้าลูกระเบิดขาดคุณสมบัติดังกล่าว หากมีพฤติการณ์ของผู้มีไว้ในครอบครองว่าจะนำไปใช้ทำเป็นวัตถุระเบิดโดยนำมาประกอบใหม่ให้มีคุณสมบัติและอยู่ในสภาพที่ใช้ระเบิดได้ก็อาจจะถือเป็นความผิดได้เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารสหภาพพม่า จำนวน 1 ลูก อยู่ในสภาพที่ใช้ทำการระเบิดไม่ได้เพราะไม่มีชนวนประกอบ โดยไม่แสดงให้เห็นพฤติการณ์ของจำเลยว่าจะนำลูกระเบิดดังกล่าวไปประกอบชนวนใหม่เพื่อใช้ทำเป็นลูกระเบิดอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานมีลูกระเบิดไว้ในครอบครองตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4799/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการซื้อขายและครอบครอง: ผลของคำพิพากษาฎีกาผูกพันคู่ความ
คดีเดิมศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า พ. ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทกับ ท.ครั้นพ.ถึงแก่กรรมท. ได้อาศัยสิทธิตามสัญญาดังกล่าว เรียกร้องให้จำเลยที่ 5 ทายาทของ พ. ไปจดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทให้แก่ตน แต่เมื่อจำเลยที่ 5ไม่ยอมไปจดทะเบียนโอนให้ ท. ก็หาได้ใช้สิทธิฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 5 โอนให้ไม่ ท. จึงเป็นเพียงผู้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนทายาทของ พ. จนกว่าจะได้จดทะเบียนโอน สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทยังเป็นของทายาทของ พ. ซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 5 อยู่ท.ไม่มีสิทธิยกที่ดินพิพาทให้แก่ว.ว. จึงไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาท การที่ ว. โอนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ไม่ทำให้โจทก์ผู้รับโอนมีสิทธิในที่ดินพิพาทดีกว่า ว. ผู้โอน โจทก์จึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์ในที่ดินพิพาทของโจทก์ดังโจทก์ฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4782/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยา การรังวัด และการละเมิดสิทธิ
แม้ที่ดินของจำเลยที่ 1 ในส่วนที่โอบล้อมปิดหน้าที่ดินของโจทก์และมารดาจะพังลงแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้วก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ยังคงสงวนสิทธิและครอบครองที่ดินส่วนนี้อยู่โดยการนำหินไปทิ้งเพื่อกันตลิ่งพังไว้เพื่อประโยชน์ที่จะสร้างเขื่อน ให้เรือเข้าเทียบท่าลำเลียงสินค้า ที่ดินของจำเลยที่ 1 ในส่วนที่พังลงแม่น้ำเจ้าพระยาจึงไม่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์สร้างบันไดบ้านของโจทก์รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยที่ 1 ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อจำเลยที่ 1 และการที่ผู้แทนของจำเลยที่ 2 ไปรับรองต่อนายช่างรังวัดสำนักงานที่ดินจังหวัดว่าเจ้าของไม่ได้ครอบครองทำประโยชน์และที่ดินตกเป็นที่สาธารณ สมบัติของแผ่นดินแล้ว จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อความเป็นจริง และเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง จำเลยที่ 1 ชอบที่จะใช้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายทักท้วงจำเลยที่ 2 กรณีดังกล่าวไม่อาจถือได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4755/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเป็นทายาทโดยชอบด้วยกฎหมายจากการอยู่กินฉันสามีภริยา และการครอบครองทรัพย์มรดกแทนทายาท
บิดามารดาโจทก์อยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยเปิดเผยมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ความเป็นสามีภริยาและบุตรระหว่างบิดามารดาของโจทก์และโจทก์จึงต้องบังคับตามกฎหมายลักษณะผัวเมียซึ่งใช้ในขณะนั้น บิดามารดาโจทก์จึงเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายลักษณะผัวเมีย และโจทก์ย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดา
จำเลยมีเจตนาครอบครองที่ดินพิพาทไว้แทนทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกทุกคน ดังนั้น แม้โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของบิดาโจทก์ผู้ตายให้แบ่งมรดกแก่โจทก์เป็นเวลาเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายก็ตาม จำเลยก็ไม่อาจอ้างได้ว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทเพื่อตนเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367และไม่อาจยกอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754ขึ้นใช้ยันโจทก์ผู้เป็นทายาทของเจ้ามรดกได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4755/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาครอบครองทรัพย์มรดกแทนทายาท ทำให้ฟ้องแบ่งมรดกไม่ขาดอายุความ
แม้จำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกตลอดมา แต่จำเลยยื่นคำร้องขอรับมรดกของเจ้ามรดกในฐานะจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดกเพื่อรับมรดกไปแบ่งให้แก่ทายาทผู้มีส่วนรับมรดกของเจ้ามรดก เมื่อนายอำเภอได้ทำการสอบสวนจำเลยก็ให้ถ้อยคำว่า จำเลยมีหน้าที่จะต้องแบ่งมรดกของเจ้ามรดกรายนี้ให้แก่ทายาทผู้มีส่วนได้เสียทุกคน และหลังจากรับโอนมรดกแล้วจำเลยยังได้โอนบางส่วนของที่ดินพิพาทให้แก่ บ. ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกไป อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่บางส่วนของผู้จัดการมรดก พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาครอบครองที่ดินพิพาททั้งสองแปลงไว้แทนทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกทุกคนด้วย หาใช่ครอบครองเพื่อตนเองแต่ผู้เดียวไม่ ดังนั้นแม้โจทก์ทั้งสามฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกแก่โจทก์ทั้งสามเป็นเวลาเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายแล้วก็ตาม จำเลยก็ไม่อาจอ้างได้ว่าจำเลยครอบครองที่พิพาททั้งสองแปลงเพื่อตนเองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 และไม่อาจยกอายุความมรดกตามมาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันโจทก์ทั้งสามผู้เป็นทายาทของเจ้ามรดกได้ ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ทั้งสามไม่ขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4724/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิผู้อื่น มิอาจได้กรรมสิทธิ์ แม้ครอบครองนาน
คดีมีประเด็นว่า โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง หรือไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทแทนเจ้าของ ที่ดิน เป็นการชี้ให้เห็นว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยไม่มีเจตนาเป็นเจ้าของจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ ทั้งจำเลยต่อสู้ไว้ด้วยว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของผู้อื่น คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นพิพาท โจทก์ฟ้องและให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ซื้อที่ดินสองแปลงและโจทก์ครอบครองที่ดินทั้งสองแปลงมาโดยตลอดนับแต่วันซื้อ แต่โจทก์ฎีกาทำนองว่าโจทก์ซื้อที่ดินมาเพียงแปลงเดียว ฎีกาของโจทก์จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์เข้าอยู่ในที่พิพาทโดยการซื้อบ้านจากผู้เช่าที่พิพาทปลูกบ้านโจทก์จึงอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของผู้เช่า เป็นการครอบครองแทนเจ้าของ โจทก์ครอบครองที่พิพาทนานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4638/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์มรดกของผู้จัดการมรดกและการเรียกร้องสิทธิในส่วนแบ่งมรดกของทายาท
จำเลยรับโอนที่ดินพิพาทมาในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกและครอบครองต่อมา ถือว่าเป็นการครอบครองแทนทายาทอื่นด้วยโจทก์ทายาทคนหนึ่งฟ้องคดีเรียกร้องให้แบ่งที่ดินพิพาทเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตายหรือนับแต่โจทก์รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก ดังนี้ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ การที่ต่อมาจำเลยจดทะเบียนรับโอนที่ดินแปลงพิพาทมาเป็นของตน ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยแจ้งเจตนาของตนให้โจทก์ทราบ ย่อมไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381จึงไม่ทำให้จำเลยได้สิทธิครอบครองเหนือที่ดินแปลงพิพาทส่วนของโจทก์
of 214