พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1262/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอฟังคดีอื่นก่อน ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยศาลชั้นต้นสั่งในคำฟ้องนี้ว่า ให้รอฟังคดีอีกเรื่องหนึ่งก่อน เมื่อคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว จะได้พิจารณาสั่งต่อไป เช่นนี้ไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์อุทธรณ์ได้
(หมายเหตุ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเห็นชอบตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว โจทก์ย่อมฎีกาต่อมาอีกได้ภายในหนึ่งเดือน)
(หมายเหตุ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเห็นชอบตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว โจทก์ย่อมฎีกาต่อมาอีกได้ภายในหนึ่งเดือน)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล และอำนาจศาลสั่งงดบังคับคดีระหว่างพิจารณาคดีใหม่
คำสั่งใด ๆ ของศาลล่าง เมื่อไม่มีบทบัญญัติให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุดหรือบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือฎีกา คัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลสูงได้ เมื่อเป็นกรณีที่อุทธรณ์ได้แล้ว ควรอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยได้ การที่สั่งให้ทุเลาการบังคับหรือให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อมีอุทธรณ์มาสู่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งได้ ไม่ใช่มีผลให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่อย่างใด
ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่ เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน ถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บังคับคดีไว้ก่อนได้แล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้
ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่ เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน ถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บังคับคดีไว้ก่อนได้แล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้ต้องโทษเดิมและการพิจารณาโทษซ้ำเมื่อกระทำผิดซ้ำ ศาลต้องเคารพคำสั่งปล่อยตัวเดิม
ประมวลกฎหมายอาญามีผลเพียงให้โทษกักกันที่จำเลยได้รับอยู่เดิมเปลี่ยนลักษณะมาเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยเท่านั้นแม้ตามประมวลกฎหมายอาญาจะมิได้ถือว่าการที่จำเลยถูกกักกันต่อมานั้นเป็นโทษก็ตาม ก็ยังเรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษกักกันนั้นไปแล้ว เพราะยังต้องถูกกักกันอยู่โดยผลแห่งคำพิพากษาของศาล
แต่เมื่อปรากฏว่า ศาลได้ปล่อยจำเลยไปโดยถือว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาให้กักกันศาลก็จะรื้อฟื้นขึ้นมาว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้กักกัน (เพื่อจะนำมาพิจารณารวมกับการกระทำผิดครั้งหลังให้กักกันตามมาตรา 41 แห่งประมวลกฎหมายอาญา)หาได้ไม่
แต่เมื่อปรากฏว่า ศาลได้ปล่อยจำเลยไปโดยถือว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาให้กักกันศาลก็จะรื้อฟื้นขึ้นมาว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้กักกัน (เพื่อจะนำมาพิจารณารวมกับการกระทำผิดครั้งหลังให้กักกันตามมาตรา 41 แห่งประมวลกฎหมายอาญา)หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำสั่งศาลและการขาดนัด: ศาลมิอาจอ้างหมายเหตุในคำร้องโจทก์เป็นการรับทราบคำสั่งได้
ในคดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไปจนกว่า จะจับตัวจำเลยได้ และในท้ายคำร้อง ทนายโจทก์ได้เซ็นที่หมายเหตุว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ศาลได้มีคำสั่งในวันรุ่งขึ้นว่าให้เลื่อนคดีไป โดยโจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งศาล ดังนี้ ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยถือว่าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166, 181 หาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำสั่งศาลและการขาดนัด พิจารณาจากเจตนาและการสื่อสารคำสั่งอย่างถูกต้อง
ในคดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไปจนกว่าจะจับตัวจำเลยได้ และในท้ายคำร้อง ทนายโจทก์ได้เซ็นที่หมายเหตุว่า"ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" ศาลได้มีคำสั่งในวันรุ่งขึ้นว่าให้เลื่อนคดีไปโดยโจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งศาล ดังนี้ ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166,181 หาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการนำส่งเอกสารอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน พ้นกำหนดแล้ว 12 วัน ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องว่าป่วยไม่สามารถนำหมายภายในกำหนด ขอนำส่งอีกครั้ง ดังนี้ ถือว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ. แพ่ง มาตรา 174 (2) จึงเป็นการทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน พ้นกำหนดแล้ว 12 วันทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องว่าป่วยไม่สามารถนำหมายภายในกำหนดขอนำส่งอีกครั้งดังนี้ ถือว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) จึงเป็นการทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: การชำระทดแทนไม่ใช่ค่าใช้จ่ายตามคำสั่งศาล
ค่าธรรมเนียมการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายชั้นพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวซึ่งโจทก์ถอนฟ้องมิได้มีการขายทรัพย์ที่ยึดนั้น ถ้าจำเลยได้ออกเงินไปก่อนเพื่อกันความเสียหายของจำเลย แล้วจะมาร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชดใช้ให้แก่จำเลยย่อมไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นค่าธรรมเนียมซึ่งฝ่ายหนึ่งจะต้องใช้ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบ: การไม่โต้แย้งคำสั่งศาล และการนำสืบตามที่รับไว้ ย่อมทำให้ไม่อุทธรณ์ฎีกาเรื่องหน้าที่นำสืบได้
ในชั้นชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับว่าตนมีหน้าที่นำสืบก่อนตามประเด็นที่ศาลกะ ภายหลังยื่นคำแถลงโต้แย้งแต่เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตตามที่ขอ ก็ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ และได้นำสืบก่อนตามที่ได้รับนำสืบไว้ และจนอีกฝ่ายหนึ่งนำสืบแก้เสร็จสิ้นแล้วดังนี้จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบอีกไม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226,247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในคดีครอบครองที่ดิน
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งหน้าที่นำสืบตกแก่จำเลย จำเลยได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แม้จำเลยต่อสู้ว่าเดิมที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงแต่ได้ขายให้แก่จำเลยแล้วก็ตาม เมื่อปรากฏว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ และจำเลยเป็นผู้ครอบครองอยู่ ดังนี้ หน้าที่นำสืบจึงตกแก่โจทก์
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แม้จำเลยต่อสู้ว่าเดิมที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงแต่ได้ขายให้แก่จำเลยแล้วก็ตาม เมื่อปรากฏว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ และจำเลยเป็นผู้ครอบครองอยู่ ดังนี้ หน้าที่นำสืบจึงตกแก่โจทก์