พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกผู้มีอาวุธบุกรุกและข่มขู่
ผู้ตายถือมีดดาบไปถึงโรงจำเลยเวลากลางคืนและร้องเรียกให้จำเลยเปิดประตู จำเลยไม่ยอมเปิด ผู้ตายตัดเชือกผูกประตูเปิดเข้าไปในห้องจำเลย จำเลยคว้าได้ขวานหลบหนีไปอยู่ใต้ถุน ผู้ตายใช้ดาบแทงตามร่องพื้นโรงจนจำเลยต้องหนีออกจากใต้ถุน จะออกทางประตูผู้ตายใช้มีดดาบฟันจำเลยแต่มีดดาบไปถูกแปหลังคาโรงเสีย จำเลยหันมาใช้ขวานฟันผู้ตายหลายที ดังนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดสัตว์ที่บุกรุกและทรัพย์สินที่ถูกยึดโดยบุคคลทั่วไป ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา ๒๙๐
ผู้ที่ปล่อยกระบือเข้าไปในสวนของผู้อื่นทำให้ต้นผลไม้เสียหายและฝ่ายเจ้าของสวนจับกระบือนั้นไว้ ไม่ถือว่ากระบือนั้นเป็นทรัพย์อันต้องยึดหรืออายัติไว้ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 290 แม้เจ้าของกระบือนั้นไปเอากระบือคืนมาก็ไม่ผิดมาตรานี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้บุกรุกพื้นที่สงวน จำเลยก็ไม่มีสิทธิทำลายพืชผลของผู้อื่น การกระทำถือเป็นการละเมิด
แม้โจทก์จะเป็นผู้บุกรุกปลูกข้าวลงในที่สงวนถ่านศิลา จำเลยก็ไม่สิทธิที่จะปล่อยกระบือฝูงของจำเลยให้กัดกินต้นข้าวของโจทก์เสียได้ จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของบ้านมีสิทธิรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อป้องกันผู้อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ผิดฐานบุกรุก
การเข้าไปรื้อหลังคาเรือนของตน เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่มีอำนาจจะเข้าอยู่ในเรือนอาศัยอยู่ต่อไปนั้น ไม่มีผิดฐานบุกรุกเคหะสถานตามมาตรา 329.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้นและไม่เข้าข้อยกเว้นทางกฎหมาย ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านได้เข้าค้นบ้านโจทก์ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เฝ้าบ้าน และการเข้าค้นโดยไม่มีหมายค้นนี้ กระทำไปโดยไม่มีเหตุแสดงให้เห็นว่า กว่าจะเอาหมายค้นมาได้ ของกลางจะถูกโยกย้ายไปเสีย จึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะทำการค้นได้โดยไม่ต้องมีหมาย ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 92(4) การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 329
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้นและเหตุผลความเร่งด่วนที่ไม่สมควร การกระทำความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านได้เข้าค้นบ้านโจทก์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เฝ้าบ้าน และการเข้าค้นโดยไม่มีหมายค้นนี้ กระทำไปโดยไม่มีเหตุแสดงให้เห็นว่ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ ของกลางจะถูกโยกย้ายไปเสียจึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะทำการค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 92(4) การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 329
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุสถานที่บุกรุกชัดเจนเพียงพอ แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดทั้งหมด ศาลไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยบุกรุกที่นาของนายกูด ภูแซมโชติ ที่ตำบลอีตื้อ อำเภอบางตลาดเขตต์ ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และจำเลยได้ให้การแก้คดีว่า เป็นนาซึ่งนางจันทรได้แบ่งและยกให้จำเลย ดังนี้ถือได้ว่า ฟ้องได้ระบุสถานที่ชัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยในคดีเข้าใจได้ว่าเป็นนาแห่งใดแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและบุกรุก: จำเลยเข้าครอบครองโดยสุจริตและเจตนาไม่ทุจริต จึงไม่มีความผิด
ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จโดยปลอมลายมือชื่อโจทก์ในใบแจ้งย้ายว่า จำเลยย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเลขที่ 91 โดยเป็นความเท็จ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องนั้นจริง และชี้ไม่ได้ว่าลายเซ็นของดจทก์ปลอม จำเลยก็ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จและบุกรุก: การกระทำโดยสุจริตและการพิสูจน์ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จโดยปลอมลายมือชื่อโจทก์ในใบแจ้งย้ายว่า จำเลยย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเลขที่ 91 โดยเป็นความเท็จ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องนั้นจริง และชี้ไม่ได้ว่าลายเซ็นของโจทก์ปลอม จำเลยก็ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพยานในคดีบุกรุก เมื่อฝ่ายครอบครองอ้างสิทธิแต่เดิม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้ามาทำนานในที่ของโจทก์อันเป็นที่นามือเปล่า จำเลยให้การว่าที่เป็นของจำเลยให้บุตรจำเลย ซึ่งเป็นสามีโจทก์อาศัยทำกิน เมื่อปรากฏว่า จำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่รายพิพาทในขณะนี้ ดังนี้ เมื่อโจทก์อ้างว่าตนเป็นเจ้าของก็ต้องนำสืบก่อน