พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ที่ถือเป็นทางภาระจำยอม
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่า เป็นทางภาระจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรหลังจดทะเบียนรับรอง: ศาลมีดุลพินิจพิจารณาพฤติการณ์
โจทก์เคยฟ้องศาลขอให้สั่งว่าบุตรอยู่ในอำนาจปกครองของตนศาลพิพากษาว่ายังไม่ได้จดทะเบียนเด็กว่าเป็นบุตรอันชอบด้วยกฎหมายจึงยังไม่มีผลทำให้โจทก์เป็นบิดาของเด็กตามกฎหมาย ภายหลังโจทก์จึงจัดการจดทะเบียนรับรองบุตรโดยชอบแล้ว มายื่นฟ้องขอให้ศาลสั่งถอนอำนาจปกครองนั้นจากมารดาเด็กมาให้อยู่กับโจทก์ได้แต่เมื่อมีพฤติการณ์ที่สมควรศาลก็มีอำนาจที่จะให้อำนาจการปกครองบุตรอยู่แก่มารดาของเด็กต่อไปอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: สิทธิในการรับมรดก การรับรองโดยพฤติการณ์ย่อมเพียงพอ
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วไม่จำจะต้องเป็นการรับรองในทางจดทะเบียนรับรองบุตร การรับรองโดยกิริยาความประพฤติเป็นที่เปิดเผย ก็ย่อมเพียงพอให้บุตรนอกกฎหมายนั้นมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายได้
(อ้างฎีกาที่ 446/2493)
(อ้างฎีกาที่ 446/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1991/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดจากการเป็นสามีภรรยาจากพฤติการณ์ทอดทิ้งก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง บรรพ 5
สามีภรรยากันได้ทอดทิ้งกันจนภรรยาไปได้สามีใหม่มีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมา ได้ทิ้งกับสามีคนนั้นไปได้สามีใหม่อีกคนหนึ่ง แล้วฝ่ายสามีจึงมีภรรยาใหม่บ้าง พฤติการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ เป็นเวลาก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง ฯ บรรพ 5 ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า สามีภรรยานั้นได้ขาดจากการเป็นสามีภรรยากันแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 755/2474)
(อ้างฎีกาที่ 755/2474)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: พิจารณาอาวุธ, พฤติการณ์, และเจตนาของผู้ถูกทำร้าย
พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความและการรับสภาพหนี้: ศาลต้องพิจารณาพฤติการณ์ก่อนวินิจฉัยขาดอายุความ
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าได้รับซื้อที่นามีโฉนดซึ่งยังไม่ได้โอนกันแต่โจทก์ได้ครอบครองมากว่า 20 ปีแล้วได้มอบให้จำเลยไปประกาศรับมฤดก-ผู้ขายเพื่อโอนให้โจทก์แล้วกลับไม่โอนให้ จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาจะซื้อขายขาดอายุความ ดังนี้ศาลไม่ควรวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความ โดยไม่สืบพะยานให้สิ้นกระแสร์ความเพราะพฤติการณ์อาจเป็นการรับสภาพหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำฐานลักทรัพย์ แม้ระยะเวลาพ้นโทษก่อนหน้าเกิน 5 ปี ศาลมีอำนาจพิจารณาจากพฤติการณ์
จำเลยต้องโทษฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งตาม ม. 294 และ ม. 293 แม้ครั้งหลังจะเนิ่นนานเกิน 5 ปี จึงมาทำผิดฐานลักทรัพย์ตาม ม. 294 ในคดีนี้ ศาลก็ถือว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย และลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ไม่ลงโทษกักกัน ศาลอุทธรณืแก้เฉพาะให้ส่งไปกักกันมีกำหนด 3 ปี จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
ศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ไม่ลงโทษกักกัน ศาลอุทธรณืแก้เฉพาะให้ส่งไปกักกันมีกำหนด 3 ปี จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในความผิดฐานฉ้อโกง ไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้องโดยตรง หากพฤติการณ์ตามฟ้องแสดงเจตนาได้ชัดเจน
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นจะต้องปรากฎว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตอันเป็นองค์แห่งความผิดอยู่ด้วยแต่หาจำเป็นถึง กับจะต้องระบุถ้อยคำว่า มีเจตนาทุจริตลงในฟ้องโดยตรงเสมอไปไม่ หากฟ้องกล่าวข้อความซึ่งเมื่อพิเคราะห์ทั้งหมดมีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ซึ่งทั้งนี้จะต้องพิเคราะห์ตามฟ้องเป็นเรื่อง ๆ ไป
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตซึ่งถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตซึ่งถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในความผิดฉ้อโกง ไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้องโดยตรง หากพฤติการณ์แสดงเจตนาหลอกลวงได้ชัดเจน
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นจะต้องปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตอันเป็นองค์แห่งความผิดอยู่ด้วย แต่หาจำเป็นถึงกับจะต้องระบุถ้อยคำว่า มีเจตนาทุจริตลงในฟ้องโดยตรงเสมอไปไม่ หากฟ้องกล่าวข้อความซึ่งเมื่อพิเคราะห์ทั้งหมดมีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ซึ่งทั้งนี้จะต้องพิเคราะห์ตามฟ้องเป็นเรื่องๆ ไป
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ซึ่งถืว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ซึ่งถืว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำร้ายร่างกาย: การประเมินจากลักษณะบาดแผลและพฤติการณ์
ถามซื้อสุราเขาบอกว่าไม่มี ก็ใช้มีดแทงเขาเพียง 1 ทีแล้ววิ่งหนีไม่ได้ซ้ำเติมอีก แม้บาดแผลที่แทงถูกที่ราวนมขวา ถ้ารักษาไม่ดีอาจตายได้ แต่ก็ปรากฎว่าแผลกว้างเพียง 1.5 เซ็นติเมตร ยาว 2.9 เซ็นติเมตร ลึก 6 เซ็นติเมตร ตัวมีดที่แทงยาวถึง 26 เซ็นติเมตรเศษ ถ้าแทงเต็มแรงอาจเข้าลึกกว่านี้ ดังนี้ รูปคดีไม่แสดงว่าจำเลยตั้งใจฆ่า คงมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น