พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งตกไปเมื่อฟ้องเดิมถูกยกฟ้อง - อำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์
เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องของโจทก์แล้ว ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมตกไปเพราะฟ้องแย้งนั้นจะต้องมีฟ้องเดิมและตัวโจทก์เดิมที่จะเป็นจำเลยต่อไปเป็นหลักอยู่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพยานโจทก์และอำนาจศาลในการยกฟ้องคดีแพ่ง
โจทก์ ทนายโจทก์ และพยานโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง คงมาแต่ฝ่ายจำเลย ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ขอให้ศาลยกฟ้องของโจทก์เสียเพราะถือได้ว่า โจทก์ไม่มีพยานมาให้สืบ ดังนี้ ย่อมหมายความว่า หน้าที่นำสืบก่อนตกแก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ศาลก็ชอบที่จะยกฟ้องของโจทก์เสีย การที่โจทก์ขาดนัดเช่นนี้ กรณีไม่เข้า ป.วิ.พ. มาตรา 201 ซึ่งว่าด้วยการขาดนัดในคดีที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานหาใช่ขาดในนัดต่อ ๆ มาไม่ ศาลจะดำเนินกระบวนการพิจารณาไปอย่างไร แล้วแต่รูปคดี ไม่ได้ต้องผูกมัดว่าจะต้องจำหน่ายคดีตาม มาตรา 201
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานแล้ว โจทก์จึงยื่นฎีกาภายในกำหนดเวลาดังนี้ ถือว่าฎีกาของโจทก์ไม่ต้องห้าม และกรณีไม่เข้า มาตรา 226 (2) ป.วิ.พ. เพราะโจทก์ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หาได้ฎีกาเพราะคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้นัดสืบพยานจำเลยในครั้งหลังนี้ อันเป็นคำสั่งที่สืบเนื่องมาจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ เมื่อคดีชั้นศาลอุทธรณ์พิพากษายังอยู่ในระหว่างอายุความฎีกา โจทก์ย่อมยื่นฎีกาได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานแล้ว โจทก์จึงยื่นฎีกาภายในกำหนดเวลาดังนี้ ถือว่าฎีกาของโจทก์ไม่ต้องห้าม และกรณีไม่เข้า มาตรา 226 (2) ป.วิ.พ. เพราะโจทก์ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หาได้ฎีกาเพราะคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้นัดสืบพยานจำเลยในครั้งหลังนี้ อันเป็นคำสั่งที่สืบเนื่องมาจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ เมื่อคดีชั้นศาลอุทธรณ์พิพากษายังอยู่ในระหว่างอายุความฎีกา โจทก์ย่อมยื่นฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพยานโจทก์ ศาลชอบที่จะยกฟ้องได้ และฎีกาไม่ขัดต่อข้อห้ามตามมาตรา 226(2)
โจทก์ ทนายโจทก์ และพยานโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งที่สองโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง คงมาแต่ฝ่ายจำเลยทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า 'ขอให้ศาลยกฟ้องของโจทก์เสียเพราะถือได้ว่าโจทก์ไม่มีพยานมาให้ศาลสืบ' ดังนี้ย่อมหมายความว่า หน้าที่นำสืบก่อนตกแก่โจทก์เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ศาลก็ชอบที่จะยกฟ้องของโจทก์เสียการที่โจทก์ขาดนัดเช่นนี้ กรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 ซึ่งว่าด้วยการขาดนัดในคดีที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานหาใช่ขาดในนัดต่อๆมาไม่ศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาไปอย่างไรแล้วแต่รูปคดีไม่ได้ต้องผูกมัดว่าจะต้องจำหน่ายคดีตามมาตรา 201
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานแล้วโจทก์จึงยื่นฎีกาภายในกำหนดเวลาดังนี้ ถือว่าฎีกาของโจทก์ไม่ต้องห้าม และกรณีไม่เข้า มาตรา 226(2) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะโจทก์ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หาได้ฎีกาเพราะคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้นัดสืบพยานจำเลยในครั้งหลังนี้อันเป็นคำสั่งที่สืบเนื่องมาจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่เมื่อคดีชั้นศาลอุทธรณ์พิพากษายังอยู่ในระหว่างอายุความฎีกาโจทก์ย่อมยื่นฎีกาได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานแล้วโจทก์จึงยื่นฎีกาภายในกำหนดเวลาดังนี้ ถือว่าฎีกาของโจทก์ไม่ต้องห้าม และกรณีไม่เข้า มาตรา 226(2) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะโจทก์ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หาได้ฎีกาเพราะคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้นัดสืบพยานจำเลยในครั้งหลังนี้อันเป็นคำสั่งที่สืบเนื่องมาจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่เมื่อคดีชั้นศาลอุทธรณ์พิพากษายังอยู่ในระหว่างอายุความฎีกาโจทก์ย่อมยื่นฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากไม่มีลายมือชื่อโจทก์ ไม่ถือเป็นคดีที่ตัดสินแล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องใหม่ได้
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องเพราะโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้องนั้น เป็นกรณีที่ศาลยังไม่ได้พิจารณาเรื่องที่โจทก์ฟ้องเลย จึงถือไม่ได้ว่าศาลได้พิพากษาในความผิดที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งไม่ตัดสิทธิฟ้องใหม่เมื่อยกฟ้องเรื่องอำนาจฟ้อง โดยไม่เกินคำฟ้อง
ศาลย่อมมีอำนาจที่ระบุไว้ในคำพิพากษานั้นด้วยว่า ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 (3) ไม่เป็นการพิพากษาหรือสั่งเกินคำฟ้อง และไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 เพราะมาตรา 142 กับมาตรา148 นั้น ต้องพิจารณาประกอบกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการระบุว่าคำพิพากษายกฟ้องไม่ตัดสิทธิโจทก์ฟ้องใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลย่อมมีอำนาจที่จะระบุไว้ในคำพิพากษานั้นด้วยว่าไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148(3) ไม่เป็นการพิพากษาหรือสั่งเกินคำฟ้อง และไม่ขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 เพราะมาตรา142 กับมาตรา 148 นั้น ต้องพิจารณาประกอบกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004-1005/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันในคดีอาญา: ผลผูกพันหลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง และความรับผิดของผู้ประกัน
ในคดีอาญา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ขังจำเลยไว้หรือให้เรียกประกันระหว่างฎีกา แต่ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ประกันได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันและศาลชั้นต้นได้สั่งอนุญาต สัญญาประกันดังกล่าวนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์ตลอดถึงคดีอยู่ระหว่างฎีกา เพราะสัญญาประกันในคดีอาญาจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อคดีถึงที่สุด เว้นแต่มีการถอน การตาย การผิดสัญญาประกัน หรือศาลสั่งยกเลิก ผู้ประกันจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประกันโดยเข้าใจผิดหาได้ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากปล้นทรัพย์เป็นบุกรุก: ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากพฤติการณ์ไม่เข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์
ฟ้องว่า ปล้นทรัพย์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าบุกรุก ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่สมบูรณ์-ประโยชน์มิได้รับ: ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากแม้ฟ้องสมบูรณ์ก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายด้วย สำหรับข้อเท็จจริงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฎีกาของโจทก์ในข้อกฎหมายที่ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วนั้น แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยไปก็ไม่มีประโยชน์ หากจะฟังว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ ก็ไม่ทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์ เพราะจะเอาความผิดแก่จำเลยมิได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เพราะไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดเดิม: ศาลยกฟ้องเนื่องจากฟ้องไม่สมบูรณ์ อัยการไม่มีสิทธิฟ้องซ้ำ
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามฆ่าคน ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องไม่สมบูรณ์ เพราะมิกล่าวเวลาและสถานที่ซึ่งจำเลยกระทำผิด ศาลให้โจทก์แก้ฟ้องเสียให้ถูกต้อง โจทก์ยืนยันไม่แก้ ศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 161, 185 ดังนี้ อัยการจะฟ้องจำเลยคนเดียวกันฐานพยายามฆ่าคนอีกไม่ได้ เพราะศาลได้ยกฟ้องเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ฟ้องแล้ว ตามมาตรา 39 (4)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2502)