พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา: ลงโทษเฉพาะกระทงปลอมแปลง ตามมาตรา 248
เมื่อจำเลยทำปลอมเงินตราเป็นเหรียญกษาปณ์ราคาอันละห้าบาท ซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 และจำเลยมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 244 กับจำเลยทำและมีเครื่องมือและวัตถุสำหรับทำปลอมเงินตราดังกล่าวด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 246 จำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และได้กระทำผิดตามมาตรา 244 มาตรา 246 เกี่ยวกับเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นด้วย ซึ่งความผิดตามมาตรา 244 มาตรา 246 บัญญัติไว้ในลักษณะ 7 หมวด 1 หมวดเดียวกับมาตรา 240 ดังนั้น เมื่อจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และศาลลงโทษตามมาตรา 240 แล้ว จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 246 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้ เพราะมาตรา 248 บัญญัติให้ลงโทษแต่กระทงเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา: ลงโทษกระทงเดียวตามมาตรา 248
เมื่อจำเลยทำปลอมเงินตราเป็นเหรียญกษาปณ์ราคาอันละห้าบาทซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 และจำเลยมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 244 กับจำเลยทำและมีเครื่องมือและวัตถุสำหรับทำปลอมเงินตราดังกล่าวด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 246 จำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และได้กระทำผิดตามมาตรา 244 มาตรา 246 เกี่ยวกับเงินตราที่จำเลยทำปลอมขึ้นด้วยซึ่งความผิดตาม มาตรา 244 มาตรา 246 บัญญัติไว้ในลักษณะ 7 หมวด 1 หมวดเดียวกับมาตรา 240 ดังนั้น เมื่อจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 240 และศาลลงโทษตามมาตรา 240 แล้ว จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 246 อีกกระทงหนึ่งไม่ได้ เพราะมาตรา 248 บัญญัติให้ลงโทษแต่กระทงเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานและการทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงมาตรา ศาลลงโทษได้ตามบทที่บรรยายฟ้อง
จำเลยมีปืนเข้าไปในห้องนอนผู้เสียหายเวลา 2 น.ขู่ไม่ให้ร้องจำเลยใช้กระบอกไฟฉายตีผู้เสียหายบาดเจ็บ ดังนี้ไม่เป็นการรบกวนการครอบครอง แต่เป็นการเข้าไปในเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา364,365 แม้ไม่อ้าง มาตรา364 แต่บรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องเข้า มาตรา364 ศาลลงโทษตาม มาตรา364, 365 ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192วรรค 4เป็นกรรมเดียวกับ ม.295 ลงโทษตาม ม.365 ซึ่งเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์กับชิงทรัพย์: การลงโทษฐานชิงทรัพย์เมื่อไม่ฟังว่าร่วมปล้นทรัพย์
องค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ก็คือองค์ความผิดฐานชิงทรัพย์ที่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ฟ้องโจทก์ในความผิดฐานปล้นทรัพย์จึงคลุมถึงการกระทำในความผิดฐานชิงทรัพย์ด้วย โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันปล้นทรัพย์เมื่อศาลไม่ฟังว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดด้วย แต่ฟังว่าจำเลยที่ 2 กับพวกอีกคนหนึ่งชิงทรัพย์ของผู้เสียหาย ศาลย่อมลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานชิงทรัพย์ได้ ไม่เป็นการลงโทษไม่ตรงต่อฐานความผิด
การที่ศาลไม่ฟังว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดด้วยนั้นเป็นเหตุเฉพาะตัว ไม่ใช่เหตุในส่วนลักษณะคดี
การที่ศาลไม่ฟังว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดด้วยนั้นเป็นเหตุเฉพาะตัว ไม่ใช่เหตุในส่วนลักษณะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนโทรมหญิง: การวางบทลงโทษที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยที่ 2 กับพวกอีกหนึ่งคนร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยพวกของจำเลยจับขาผู้เสียหายไว้ให้จำเลยที่ 2 ข่มขืนกระทำชำเราก่อน เสร็จแล้วจำเลยที่ 2 มายืนคุมให้พวกของตนข่มขืนกระทำชำเราอีกจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง เช่นนี้เข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 กับพวกอุ้มผู้เสียหายขึ้นจากเรือเพื่อพาไปข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่ปรากฏว่าได้กระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีก จะถือว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วยไม่ได้
จำเลยที่ 2 กับพวกอุ้มผู้เสียหายขึ้นจากเรือเพื่อพาไปข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่ปรากฏว่าได้กระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีก จะถือว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนโทรมหญิง: การวางบทลงโทษที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง
จำเลยที่ 2 กับพวกอีกหนึ่งคนร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยพวกของจำเลยจับขาผู้เสียหายไว้ให้จำเลยที่ 2 ข่มขืนกระทำชำเราก่อน เสร็จแล้วจำเลยที่ 2 มายืนคุมให้พวกของตนข่มขืนกระทำชำเราอีกจนสำเร็จความใคร่คนละครั้งเช่นนี้เข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 กับพวกอุ้มผู้เสียหายขึ้นจากเรือเพื่อพาไปข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่ปรากฏว่าได้กระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีกจะถือว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วยไม่ได้
จำเลยที่ 2 กับพวกอุ้มผู้เสียหายขึ้นจากเรือเพื่อพาไปข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่ปรากฏว่าได้กระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีกจะถือว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากพยานหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ศาลลงโทษได้
ฟ้องระบุวันเกิดเหตุ 11 ตุลาคม ได้ความว่าเกิดเหตุวันที่ 11 เมษายน วันเวลาเกิดเหตุไม่ใช่สารสำคัญ เป็นแต่รายละเอียด จำเลยไม่หลงต่อสู้ ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้มีผลต่อการลงโทษจำเลย
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกรุมกันชกต่อยและแทง ว.โดยเจตนาว. ตาย ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 290พิจารณาได้ความว่าจำเลยชุลมุนชกต่อยกับพวก ว. มีผู้แทง ว. ตายข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับฟ้องในสารสำคัญ ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 294 ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือจากจำเลยร่วมคดี และคำเบิกความของจำเลยเอง ไม่อาจนำสืบลงโทษจำเลยอื่นได้
พยานโจทก์ได้รับคำบอกเล่ามาจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นจำเลยคนหนึ่งในคดีนี้ จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานยันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นจำเลยในคดีเดียวกันไม่ได้ ส่วนที่จำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยิงตนนั้นก็เป็นคำเบิกความของจำเลยที่ 2 ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานนำสืบต่อสู้คดีของตน เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 โดยเฉพาะ จะรับฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นจำเลยด้วยกันไม่ได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริตหลายกรรมต่างกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามกระทงความผิดชอบแล้ว
จำเลยเขียนเช็คซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินรวม 9 ฉบับชำระหนี้ให้โจทก์โดยลงวันออกเช็คแต่ละฉบับแตกต่างกัน แม้บางฉบับจะลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและเช็คทุกฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกันก็ตาม แต่จำเลยมีเจตนาที่จะให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน