พบผลลัพธ์ทั้งหมด 829 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยบุคคลอื่นแทนลูกหนี้ต้องมีอำนาจชอบธรรม การยอมรับของโจทก์ไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระให้แก่นายขาบสามีโจทก์แล้ว นายขาบร้องสอดเข้ามารับว่าได้รับชำระไว้แทนโจทก์แล้ว วันชี้สองสถาน ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยนำสืบก่อน จำเลยแถลงว่าถ้าโจทก์ยอมรับว่าขณะทำสัญญาซื้อขายที่ดิน นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยจำเลยก็ไม่นำสืบ โจทก์ยอมรับ คู่ความต่างไม่สืบพยาน
ดังนี้ เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมประเด็นข้อต่อสู้กลับไม่สืบจะอาศัยแต่เพียงการรับของโจทก์ว่าขณะทำสัญญาซื้อขาย นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยเท่านั้น ไม่พอ หากจะฟังว่าขณะนั้นนายขาบเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นสามีที่ร้างกันหรืออยู่กินด้วยกันตามปกตินามสกุลก็ใช้ต่างกัน เมื่อฟ้องคดีโจทก์ก็อ้างว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้นำสืบว่านายขาบยังเป็นสามีโจทก์อยู่ และมีอำนาจที่จะรับชำระหนี้แทนโจทก์ได้แต่อย่างใด การที่จำเลยอ้างว่าได้ทำการชำระหนี้รายนี้แก่นายขาบแม้จะเป็นจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ทำการชำระหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดี
ดังนี้ เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมประเด็นข้อต่อสู้กลับไม่สืบจะอาศัยแต่เพียงการรับของโจทก์ว่าขณะทำสัญญาซื้อขาย นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยเท่านั้น ไม่พอ หากจะฟังว่าขณะนั้นนายขาบเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นสามีที่ร้างกันหรืออยู่กินด้วยกันตามปกตินามสกุลก็ใช้ต่างกัน เมื่อฟ้องคดีโจทก์ก็อ้างว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้นำสืบว่านายขาบยังเป็นสามีโจทก์อยู่ และมีอำนาจที่จะรับชำระหนี้แทนโจทก์ได้แต่อย่างใด การที่จำเลยอ้างว่าได้ทำการชำระหนี้รายนี้แก่นายขาบแม้จะเป็นจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ทำการชำระหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายต้องมีองค์ประกอบครบถ้วน การมีหนี้สินเพียงอย่างเดียวไม่พอ
หลักกฎหมายในการที่จะฟ้องขอให้ลูกหนี้ล้มละลายได้ จะต้องประกอบพร้อมทั้ง 3 ประการตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.9 มิใช่เพียงข้อใดข้อหนึ่งเพียงข้อเดียวเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามข้อสันนิษฐานในม.8 โดยโจทก์ได้ทวงถามหลายครั้ง จำเลยก็ไม่ชำระหนี้แต่จำเลยนำสืบได้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้ใครและจำเลยมีทรัพย์สมบัติมาก เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว จะฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามข้อสันนิษฐานในม.8 โดยโจทก์ได้ทวงถามหลายครั้ง จำเลยก็ไม่ชำระหนี้แต่จำเลยนำสืบได้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้ใครและจำเลยมีทรัพย์สมบัติมาก เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว จะฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทราบคำบังคับคดี แม้ผู้รับมอบฉันทะได้รับทราบแทน ก็ถือว่าลูกหนี้ทราบแล้ว ศาลสั่งยึดทรัพย์ได้
ตัวจำเลยไม่ได้รับทราบคำบังคับเองแต่ตามพฤติการณ์ถือได้ว่าทราบคำบังคับแล้ว ก็บังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างลูกหนี้ร่วมไม่ผูกพันลูกหนี้ที่ไม่ได้ร่วมทำสัญญา และไม่ถือเป็นการแปลงหนี้
การที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 - 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยที่ 1 - 2 ยอมใช้ต้นเงิน 100,000 บาทกับดอกเบี้ย ซึ่งจำเลยที่ 3 เป็นผู้เซ็นชื่อกู้เงินนี้จากโจทก์ ร่วมกับจำเลยที่ 1 - 2 นั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 3 ซึ่งต่อสู้คดีไปคนละประเด็นกับจำเลยที่ 1 - 2 พ้นผิด เพราะการทำสัญญาประนีประนอมดังกล่าวเป็นแต่สัญญาระงับข้อพิพาท ไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ ไม่ใช่เป็นการที่ลูกหนี้ร่วมชำระหนี้ และไม่ใช่เป็นการปลดหนี้ เพราะในสัญญาประนีประนอมนั้นมิได้ระบุให้จำเลยที่ 3 พ้นความผิด ศาลชั้นต้นต้องพิจารณาคดีระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 3 ต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้ยืมเงินที่ปรากฏการรับเงิน ย่อมแสดงว่าลูกหนี้ได้รับเงินแล้ว แม้ลูกหนี้จะอ้างถูกหลอกลวง
เอกสารความว่า จำเลยได้ยืมเงินโจทก์ไป ย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยได้รับเงินที่ยืมแล้ว
จำเลยรับว่า ทำเอกสารยืมเงินให้โจทก์ แต่ต่อสู้ว่าไม่ได้รับเงินโดยโจทก์หลอกลวงให้ทำ เนื่องจากโจทก์ฝากเครื่องอะไหล่รถยนต์ให้จำเลยขาย ไม่เรียกว่าจำเลยอ้างเหตุที่ทำให้หนี้ไม่สมบูรณ์ จำเลยนำสืบพยานไม่ได้
จำเลยรับว่า ทำเอกสารยืมเงินให้โจทก์ แต่ต่อสู้ว่าไม่ได้รับเงินโดยโจทก์หลอกลวงให้ทำ เนื่องจากโจทก์ฝากเครื่องอะไหล่รถยนต์ให้จำเลยขาย ไม่เรียกว่าจำเลยอ้างเหตุที่ทำให้หนี้ไม่สมบูรณ์ จำเลยนำสืบพยานไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับจำนองต้องแจ้งให้ลูกหนี้ทราบก่อนฟ้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728
ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลแพ่ง ฯ มาตรา 729 ต้องบอกกล่าวให้ผู้จำนองทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ดังบัญญัติไว้ใน ม.728 เพราะมาตรา 728 และ 729 เป็นบทบังคับจำนอง ต้องอ่านคู่กันไป ถ้าไม่บอกกล่าวก่อน จะบังคับเอาทรัพย์ให้หลุดจำนองไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับจำนองต้องแจ้งให้ลูกหนี้ทราบก่อน หากไม่แจ้ง สิทธิในการบังคับจำนองเป็นโมฆะ
ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 729 ต้องบอกกล่าวให้ผู้จำนองทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ดังบัญญัติไว้ใน มาตรา 728 เพราะมาตรา728 และ 729 เป็นบทบังคับจำนอง ต้องอ่านคู่กันไป ถ้าไม่บอกกล่าวก่อน จะบังคับเอาทรัพย์ให้หลุดจำนองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งทรัพย์ระหว่างเจ้าของร่วมกับลูกหนี้เจ้าพนักงานบังคับคดี ไม่สุจริต ใช้ไม่ได้
ผู้ร้องกับจำเลยทำสัญญาแบ่งทรัพย์กันภายหลังจากที่โจทก์นำยึดที่พิพาทเพียง 3 วัน ทั้งเมื่อวันที่เจ้าพนักงานไปยึดทรัพย์รายนี้ ผู้ร้องก็เห็นและรู้ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ สัญญาแบ่งทรัพย์ระหว่างผู้ร้องและจำเลยจึงถือได้ว่ากระทำไปโดยไม่สุจริตและใช้ไม่ได้
การที่ผู้ร้องเป็นเจ้าทรัพย์พิพาทร่วมกันกับจำเลย ผู้ร้องจะขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ทั้งหมดไม่ได้จนกว่าจะได้มีการแบ่งปันกันโดยถูกต้อง การที่ผู้ร้องจะขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดจะต้องปรากฏว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นไม่มีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกยึด แต่ผู้ร้องมีทางเรียกขอให้แบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของร่วมได้ทางบังคับคดีตาม ป.วิ.แพ่ง ม.287.
การที่ผู้ร้องเป็นเจ้าทรัพย์พิพาทร่วมกันกับจำเลย ผู้ร้องจะขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ทั้งหมดไม่ได้จนกว่าจะได้มีการแบ่งปันกันโดยถูกต้อง การที่ผู้ร้องจะขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดจะต้องปรากฏว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นไม่มีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกยึด แต่ผู้ร้องมีทางเรียกขอให้แบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของร่วมได้ทางบังคับคดีตาม ป.วิ.แพ่ง ม.287.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้โดยการทำสัญญากู้ใหม่ ถือว่ามีการยินยอมเป็นหนังสือในตัวแล้ว
ในการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ซึ่งกระทำกันโดยลูกหนี้ทำหนังสือสัญญากู้ยืมให้เจ้าหนี้ใหม่นั้นเพียงเท่านี้ ก็ถือได้ว่ามีการยินยอมเป็นหนังสืออยู่ในตัวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงิน ไม่ต้องมีคำว่า 'กู้ยืม' โดยตรง หนังสือลงลายมือชื่อลูกหนี้ก็ใช้ได้
การกู้ยืมเงินนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 มิได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่าจะต้องมีถ้อยคำว่ากู้ยืมเงินเป็นหลักฐานในเอกสาร
เมื่อโจทก์มีหนังสืออันอาจแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้ ก็อาจเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้
เมื่อโจทก์มีหนังสืออันอาจแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้ ก็อาจเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้